บรูโน่ ลาเก้ นายใหญ่คนใหม่ฝูง “หมาป่า”

บรูโน่ ลาเก้ เทรนเนอร์ชาวโปรตุเกสเข้ามารับงานกุมบังเหียน วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส สโมสรดังแห่ง วงการฟุตบอลต่างประเทศ เป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และเขาก็เตรียมพร้อมพาทัพ “หมาป่า” สู้ศึกในฤดูกาลหน้าแล้ว

ลาเก้ ซึ่งเข้ามารับงานต่อจากโค้ชเพื่อนร่วมชาติอย่าง นูโน่ เอสพิริโต ซานโต้ เริ่มกล่าวว่า “มันไม่สำคัญว่าเราทำอะไรในอดีต สิ่งที่ นูโน่ ทำในช่วงสามหรือสี่ปีที่ผ่านมามันประสบความสำเร็จอย่างมาก มันน่าทึ่งมาก แต่ตอนนี้มันคือการเริ่มต้นใหม่”

ตลอด 3-4 ฤดูกาลที่ผ่านมา ซานโต้ เป็นคนวางรากฐานการเล่นให้กับ วูล์ฟแฮมป์ตัน แต่หลังจากพาทีมจบด้วยอันดับ 13 ในตารางคะแนนพรีเมียร์ลีกเมื่อซีซั่นที่แล้วก็ทำให้ต้องแยกทางกัน และ ลาเก้ ก็เข้ามาสานงานต่อ พร้อมกับทำให้ “หมาป่า” มีสไตล์การเล่นที่สนุกขึ้นกว่าเดิม

ลาเก้ กล่าวต่อว่า “เราต้องจัดการบอลให้ดีขึ้น และดุดันมากขึ้นถ้าไม่มีบอล เราต้องการบุกไปข้างหน้าให้มากกว่าเดิม แต่ผมยังไม่รู้ว่ามันจะดีกว่าหรือแย่กว่าเดิม มันเป็นแค่ความคิดของผม เราต้องเป็นทีมที่มีการแข่งขันภายในมากขึ้น และเป็นทีมที่ดีขึ้น”

บรูโน่ ลาเก้ เคยคว้าแชมป์มาแล้ว และมีประสบการณ์มากมาย

ก่อนหน้านี้ ลาเก้ เคยคุม เบนฟิก้า เป็นเวลา 5 เดือนในกลางฤดูกาล 2019-2020 และพาทีมคว้าแชมป์ลีกได้อย่างน่าประทับใจ แต่หลังจากนั้น เขาก็อำลาสโมสร และว่างงานมา 18 เดือนก่อนจะรับงานคุม วูล์ฟแฮมป์ตัน

ในวัย 45 ปี ลาเก้ มีประสบการณ์มากมายกับการคุมทีมเยาวชนของ เบนฟิก้า และการเป็นผู้ช่วยกุนซือ คาร์ลอส กาบาฆาล ที่ เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ และ สวอนซี ซิตี้ ซึ่งทำให้เข้าได้ซึมซับการทำงาน และการเตรียมทีม

ขณะเดีวกัน ลาเก้ ก็ได้ความรู้มากมายกับการทำงานร่วมกับ กาบาฆาล โดยเจ้าตัวระบุว่า “เขาเป็นคนที่มีอิทธิพลกับผมมากๆ ผมเฝ้าดูเขาเตรียมการฝึกซ้อมและเตรียมเกมอยู่เสมอ”

ลาเก้ กับ กาบาฆาล ร่วมงานกันนานถึง 3 ปีที่ เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ และอีก 6 เดือนที่ สวอนซี ซึ่งเป็นเหตุผลว่า ทำไมการย้ายมาทำงานในอังกฤษครั้งนี้กับ วูล์ฟแฮมป์ตัน จึงไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับเขาอย่างที่หลายคนคิด

นายใหญ่ วูล์ฟแฮมป์ตัน กล่าวว่า “ที่ เชฟฟิลด์ เวนส์เดย์ มันเป็นประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่สำหรับผม เนื่องจากวิธีการจัดการแข่งขันในวันเสาร์ และวันอังคาร มันเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จของผมเมื่อมาถึง เบนฟิก้า เพราะประสบการณ์นั้น ผมจึงสามารถจัดระเบียบทีมได้ในระยะเวลาสั้นๆ และลงแข่งโดยไม่ต้องซ้อม สำคัญมาก”

การทำงานเป็นทีมเวิร์ค

นับตั้งแต่เข้ามาทำงานที่ วูล์ฟแฮมป์ตัน ลาเก้ ก็ติดต่อกับ สก็อตต์ เซลลาร์ส ผู้อำนวยการด้านกีฬา ทุกวันเพื่อการทำงานเป็นทีม และทำความคุ้นเคยกับทีมงานสตาฟฟ์โค้ชของเขา 6 คน ที่ดีงเข้ามาร่วมงานในทัพ “หมาป่า”

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ ลาเก้ ให้ความสำคัญมากที่สุดคือ ต้องเปลี่ยนสไตล์ในสนาม โดยอธิบายว่า “เมื่อเราได้บอล เราต้องจัดการบอลให้ดีขึ้น เมื่อคุณเริ่มต้นจากผู้รักษาประตู ถ้าเขามีโอกาสต่อบอลสั้น เราก็ต้องเล่นสั้น ถ้าเราต้องผ่านบอลยาว เราก็ต้องทำ ถ้าเราต้องเปลี่ยนจังหวะการเล่น เราก็ต้องรู้วิธีเพือ่ทำมัน เราต้องสมดุลเสมอเมื่อเรามีบอล”

“ในขณะเดียวกันเมื่อเราไม่มีบอล เราก็ควรจะดุดันมากขึ้น ถ้าเราเพรสซิ่งสูงทุกคนก็ต้องช่วยกัน ถ้าเราคุมโซน เราก็ต้องช่วยกัน ล้าเราถอยมาเล่นเกมรับเราก็ต้องช่วยกัน แต่เราก็ยังดุดันเพราะทีมอื่นต้องรู้สึกว่าเมื่อพวกเขาเล่นเรา เราเป็นคู่ต่อสู้ที่ยากจะรับมือ”

 “เราจำเป็นต้องตื่นตัวมากขึ้นในสถานการณ์เหล่านั้น เพราะเราเคยเสียประตูไปมากมาย นี่เป็นปัญหาที่เราต้องแก้ไข และเรากำลังทำงานอย่างหนักเพื่อให้ดีขึ้นในช่วงเวลาเหล่านั้นของเกม ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือสิ่งสำคัญที่เราได้ดำเนินการในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา”

ช่วงเวลาปรับทีม

ลาเก้ มีเวลาเพียงเล็กน้อยในการปรับทีม คอเนอร์ โคดี้ และ อดาม่า ตราโอเล่ เพิ่งกลับมาฝึกซ้อมรวมถึง รูเบน เนเวส และ เปโดร เนโต้ ก็เช่นกัน แต่เขาก็มีเรื่องที่น่ายินดีหลังจากที่ ราอูล ฆิมิเนซ หัวหอกเม็กซิโกที่บาดเจ็บไปนานกลับมาซ้อมได้แล้ว

นอกจากนี้ วูล์ฟแฮมป์ตัน ยังเพิ่งยืมตัว ฟรานซิสโก้ ตรินเกา หัวหอกดาวรุ่งชาวโปรตุเกสมาจาก บาร์เซโลน่า ได้สำเร็จ โดย ลาเก้ กล่าวต่อว่า “ตรินเกา เป็นผู้เล่นที่ย้ายมาใหม่ อย่างแรกเลยเขาต้องปรับตัวกับเพื่อนร่วมทีม และทำงานหนักเพื่อทีม”

“เราต้องทำงานหนักทุกวัน ผู้อาวุโสไม่สามารถยึดติดอยู่ในอดีตได้ และพวกที่อายุน้อยกว่าก็ไม่สามารถคิดได้ว่า ผมจะเป็นผู้เล่นที่ดี เราต้องทำงานเพื่อพิสูจน์ว่า คุณอยู่ในทีมนี้ คุณอยู่ในการแข่งขันนี้ และคุณเป็นผู้เล่นระดับท็อป”

“ทุกวันคือความท้าทายสำหรับคนเหล่านี้ เพราะสิ่งที่แฟนๆ ต้องการในท้ายที่สุด พวกเขาไม่สนใจว่าผู้เล่นจะมีอายุ 18 หรือ 30 ปี สิ่งที่พวกเขาต้องการคือการเป็นทีมชั้นนำ”

การเตรียมตัวสู้ศึกฤดูกาลใหม่ของ บรูโน่ ลาเก้

ลาเก้ ยังคงพยายามทำความคุ้นเคยกับสิ่งรอบตัวใหม่ที่ วูล์ฟแฮมป์ตัน โดยระบุว่า “ผมใช้เวลาระหว่างโรงแรมกับสนามซ้อมเพื่อเตรียมทีม ผมมีช่วงเวลาไป-กลับมีวันละ 2 ครั้ง ผมดูวิดีโอ และมีการประชุมมากมาย”

“ผมคิดว่า ผู้จัดการทีมทุกคนต้องการเวลาทำงานกับผู้เล่นมากขึ้น เราไม่มีเวลามากัก เราจึงต้องเริ่มทำงานทันที ในแต่ละวันเราเติบโตขึ้นเป็นทีม เล่นอย่างที่เราต้องการ ในขณะนี้ผมมีความสุขกับสิ่งที่เราทำมากๆ”

“ผมคิดว่านี่เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม และสโมสรที่เหมาะสมในการเริ่มทำงานในพรีเมียร์ลีก ตลอดชีวิตของผม ผมพร้อมสำหรับการเตรียมตัวรับมือกับความท้าทายครั้งต่อไป ตอนที่ผมอยู่ที่ เบนฟิก้า ตลอดเวลาที่นั่น ผมเตรียมตัวเองให้เป็นผู้จัดการทีมที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ เวลาที่ผมทำงานเป็นผู้ช่วยของ คาร์ลอส ผมทำงานอย่างหนักเพื่อเป็นผู้ช่วยที่ดีที่สุดที่ผมจะเป็นได้

“เมื่อผมคุมทีมชุด บี ที่ เบนฟิก้า ผมทำงานเพื่อเตรียมพร้อมที่จะเป็นผู้จัดการทีมชุดใหญ่ที่ เบนฟิก้าหรือที่อื่นๆ ตอนนี้ผมอายุ 45 ปีแล้ว และได้อยู่ในสโมสรที่ยิ่งใหญ่ในการแข่งขันที่ดีกับผู้เล่นชั้นนำ และผู้บริหารที่ยอดเยี่ยม แน่นอนว่า นี่เป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับอาชีพของผม”

ลาเก้ กล่าวทิ้งท้ายว่า “ขั้นตอนแรกคือการสร้างทีมที่พร้อมแข่งขันได้ และเล่นในแบบที่ผมต้องการ  หากเรามีโอกาสที่จะมีผู้เล่น 2 คนสำหรับทุกตำแหน่ง และเล่นในแบบที่ผมต้องกามันก็คงดีไม่น้อย ถ้าเราชนะ  เราจะประสบความสำเร็จ ประธานสโมสรจะมีความสุข ผู้เล่นจะมีความสุข และแฟน ๆ ส่วนใหญ่ของเราจะมีความสุขเพราะวิธีที่เราเล่น และเอาชนะในเกม”