“ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมดังแห่ง วงการฟุตบอลต่างประเทศ เซ็นสัญญาคว้าตัว ปอล ป็อกบา กองกลางทีมชาติฝรั่งเศสมาจาก ยูเวนตุส ด้วยค่าตัว 89.3 ล้านปอนด์ เมื่อซัมเมอร์ปี 2016 แต่ 5 ปีต่อมา หลายคนกลับวิเคราะห์ว่า หากดาวเตะเฟรนช์แมนย้ายออกไปอาจทำให้พวกเขากลายเป็นทีมที่ดีขึ้นกว่าเดิม
มีข่าวลือระบุว่า แมนฯ ยูไนเต็ด พร้อมปล่อย ป็อกบา ซึ่งเหลือสัญญาถึงปี 2022 ออกจากสโมสรหากได้ค่าตัวมากกว่า 50 ล้านปอนด์ขึ้นไป และพวกเขาจะนำเงินจำนวนดังกล่าวไปคว้านักเตะใหม่อย่าง คีแรน ทริปเปียร์ แบ็คทีมชาติอังกฤษของ แอตเลติโก มาดริด หรือ เอดูอาร์โด กามาแว็งก้า มิดฟิลด์วันเดอร์คิดของ แรนส์ มาเสริมทัพหลังจากคว้าตัว จาดอน ซานโช่ และ ราฟาเอล วาราน มาร่วมทีมเรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังพร้อมปล่อยนักเตะส่วนเกินอย่าง เจสซี่ ลินการ์ด, แบรนดอน วิลเลียมส์, ดิโอโก้ ดาโลต์, อเล็กซ์ เทลเลส, ฟิล โจนส์, อันเดรียส เปเรยร่า, ดาเนี่ยล เจมส์ และ อองโตนี่ มาร์กซิยาล ออกไปหากได้รับข้อเสนอที่เหมาะสม
ขณะเดียวกันในตำแหน่งผู้รักษาประตูนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด เพิ่งคว้าตัว ทอม ฮีตัน โกล์มากประสบการณ์มาจาก แอสตัน วิลล่า แบบไม่มีค่าตัวเพื่อเป็นมือ 2 ซึ่งหมายความว่า ดาบิด เด เคอา หรือ ดีน เฮนเดอร์สัน ก็สามารถย้ายทีมได้
“ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เริ่มเปิดตลาดอย่างคึกคัก
ในซัมเมอร์นี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ใช้เงินไปเกิน 100 ล้านปอนด์แล้วหลังคว้าตัว ซานโช่ มาจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในราคา 73 ล้านปอนด์ และคว้า วาราน มาจาก เรอัล มาดริด ด้วยค่าตัว 42 ล้านปอนด์ ซึ่งหมายความว่า พวกเขาต้องการลุ้นแชมป์อย่างเต็มตัว ดังนั้น “ปีศาจแดง” ต้องปล่อยนักเตะที่ไม่ได้ใช้งานออกไปเพื่อถอนทุนคืน
แมนฯ ยูไนเต็ด ยินดีปล่อย ลินการ์ด, วิลเลียมส์, ดาโลต์, เทลเลส, โจนส์, เปเรยร่า และ เจมส์ เพื่อจะได้ทุนคืนราว 50 ล้านปอนด์ และอาจรวมถึง ป็อกบา ที่จะทำให้พวกเขาได้เงินจำนวนมหาศาลจากการดึง ซานโช่ และ วาราน กลับคืนมา
จอห์น เมอร์ทัฟ ผู้อำนวยการฟุตบอล แมนฯ ยูไนเต็ด และ ดาร์เรน เฟลทเชอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิค กำลังทำงานอย่างหนักในซัมเมอร์นี้ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงสถานการณ์ที่โควิด 19 กำลังระบาดนั้น พวกเขาต้องเจองานที่ยากเช่นกัน
เมอร์ทัฟ และ เฟลทเชอร์ ถูกแต่งตั้งเข้ามาเพื่อแบ่งเบาภาระของ เอ็ด วู้ดเวิร์ด รองประธานบริหาร แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งงานหลักของทั้งคู่คือ การหานักเตะที่เหมาะสมมาสู่ทีม แต่นโยบายทั้งหมดยังถูกกำหนดโดยตระกูลเกลเซอร์เจ้าของสโมสร
อนาคต ปอล ป็อกบา
มีคำสั่งจากตระกูลเกลเซอร์อย่างชัดเจนว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องถอนทุนคืนจากการคว้าตัว ซานโช่ และ วาราน มาให้ได้ ดังนั้น อนาคตของ ป็อกบา ในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด ก็กลายเป็นประเด็นที่น่าสนใจขึ้นมาทันที
รายงานข่าวระบุว่า มีโอกาสน้อยมากที่ ป็อกบา จะต่อสัญญาฉบับใหม่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ออกไป แม้เขาจะเป็นคีย์แมนในการทำทีมของ โอเล่ กุนาร์ โซลชา กุนซือชาวนอร์เวย์ก็ตาม ขณะที่การเจรจาสัญญาฉบับใหม่ยังดำเนินต่อไปแต่มันยังคงห่างไกลความเป็นจริงที่ทั้ง 2 ฝ่ายจะบรรลุข้อตกลงกันได้
หาก ป็อกบา ตัดสินใจย้ายออกไปจริง แมนฯ ยูไนเต็ด จะต้องสูญเสียหนึ่งในมิดฟิลด์ชั้นนำของโลกอย่างไม่ต้องสงสัย แต่พวกเขาจะสามารถนำเงินค่าตัวของ ดาวเตะวัย 28 ปี ไปคว้าผู้เล่นใหม่ได้ รวมถึงเซฟค่าเหนื่อยได้มากถึง 15.6 ล้านปอนด์ต่อปี ซึ่งมันมากพอที่จะจ่ายให้กับแข้งใหม่ 1-2 รายเลยทีเดียว
ปัญหาหลัก “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
แมนฯ ยูไนเต็ด ยังคงอยู่ในสถานการณ์เดียวกับกับสโมสรยักษ์ใหญ่ทั่วยุโรปที่จำเป็นต้องขายผู้เล่นออกไปก่อนถึงจะคว้านักเตะใหม่เข้ามาได้ อาจยกเว้นทีมมหาเศรษฐีอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้, เชลซี และ ปารีส แซงต์ แขร์กแมง ที่ไม่มีปัญหาด้านการเงิน
นอกจากนี้ ปัญหาหลักที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องเผชิญหากจะปล่อยตัว ป็อกบา ก็คือ มีเพียง เปแอสเช สโมสรเดียวเท่านั้นที่กำลังให้ความสนใจกองกลางวัย 28 ปี ขณะที่ มาดริด ก็เป็นเพียงข่าวลือ และยังไม่มีทีท่าจะยื่นข้อเสนอจริงจังเข้ามาให้พิจารณา
ขณะเดียวกัน นักเตะที่ไม่อยู่ในแผนการทำทีมของ แมนฯ ยูไนเต็ด อาจถูกปล่อยในช่วงวันท้ายๆของตลาดนักเตะซัมเมอร์นี้ก็เป็นได้ แต่ทั้งหมดนี้ มันก็ขึ้นอยู่กับว่า พวกเขาได้รับข้อเสนอที่เหมาะสมเข้ามาหรือไม่ และโดยเฉพาะในรายของ ป็อกบา ที่ยังไม่มีความแน่นอนเรื่องอนาคต