ทางแยกของ มาร์ติน โอเดการ์ด

หลังจาก มาร์ติน โอเดการ์ด มิดฟิลด์ทีมชาตินอร์เวย์ ย้ายจาก เรอัล มาดริด ทีมดังแห่ง วงการฟุตบอลต่างประเทศ มาเล่นกับ อาร์เซน่อล ด้วยสัญญายืมตัวเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมานั้น เขากลายเป็นคีย์แมนที่ทำให้ “ไอ้ปืนใหญ่” เข้าไปสู่รอบชิงฯ ยูโรป้า ลีก ในฤดูกาลนี้ได้สำเร็จ 

อย่างไรก็ตาม การที่ อาร์เซน่อล หมดสิทธิคว้าตั๋วไปลุยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในปีหน้ามันก็ส่งผลให้พวกเขาเจองานยากในการรั้งตัว มาร์ติน โอเดการ์ด ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมให้ค้าแข้งในถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ต่อไป

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา โอเดการ์ด แสดงให้ทุกคนได้เห็นแล้วว่า ทำไม มาดริด ถึงคว้าตัวเขามาร่วมทีมเมื่อซัมเมอร์ปี 2015 ที่งที่เขาอายุเพียง 16 ปีเท่านั้น แต่น่าเสียดายที่เขายังไม่มีโอกาสลงเล่นให้กับ “ราชันชุดขาว” แบบสม่ำเสมอนัก และต้องตระเวนไปยืมตัวกับหลายสโมสรไล่ตั้งแต่ ฮีเรวีน, วิเทสส์ อาร์เน่ม, เรอัล โซเซียดาด และล่าสุดกับ อาร์เซน่อล

มาร์ติน  นอร์เวย์

มาร์ติน โอเดการ์ด นักเตะประวัติศาสตร์

ปัจจุบัน ในวัยเพียง 22 ปี โอเดการ์ด ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกัปตันทีมชาตินอร์เวย์ไปเรียบร้อยแล้ว และหากย้อนกลับไปเมื่อปี 2014 เขาทำสถิติเป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ได้ลงสนามในลีกสูงสุดนอร์เวย์ หลังลงเล่นให้กับ สตรอมก็อดเซ็ต 15 ปี 118 วัน

ในอีก 4 เดือนต่อมา โอเดการ์ด ยังทำสถิติด้วยการเป็นเล่นที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ได้ลงสนามให้กับทีมชาตินอร์เวย์ในเกมที่พบกับ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่ง ปีเตอร์ โควัคส์ อดีตกองหน้าชาวฮังการีของ สตรอมก็อดเซ็ต ก็ย้อนความทรงจำสมัยที่ โอเดการ์ด ในวัย 13 ปี ขึ้นมาซ้อมกับทีมชุดใหญ่ได้เป็นอย่างดี

โควัคส์ เล่าว่า “ผมจำเหตุการณ์เมื่อซัมเมอร์ปี 2012 ได้ มาร์ติน ลงมาเป็นตัวสำรอง และแทบไม่มีกล้ามเนื้อเหมือนผู้ใหญ่เลย แต่เขาแอสซิสต์ให้ผมยิงประตู และทำให้เราเสมอในเกมกระชับมิตรไป 2-2 และจากการฝึกซ้อมครั้งแรกคุณจะเห็นได้ว่า เด็กคนนี้มีบางอย่างที่พิเศษ พวกเราเป็นนักเตะที่มีประสบการณ์ แต่เขาใช้เทคนิคเล่นงานเราจนปวดหัวเลย”

“ผมยังจำแคมป์ฝึกซ้อมในสเปนก่อนเปิดฤดูกาลปี 2014 ได้ด้วย เราเล่นกับ ซีเอสเคเอ มอสโกว์ มาร์ติน ได้บอล และจู่ๆก็มีคู่แข่ง 3-4 คนไปรุมเขา ผมคิดในใจว่า เขาต้องได้รับบาดเจ็บแน่ๆ แต่เขาก็หนีวงล้อมออกมาได้อย่างเหลือเชื่อ”

นอร์เวย์ นักเตะประวัติศาสตร์ มาร์ติน โอเดการ์ด

เส้นทางสู่นักฟุตบอลอาชีพ

โอเดการ์ด เริ่มเล่นฟุตบอลในเมือง Drammen บ้านเกิดของเขาโดยมีคุณพ่อ ฮันส์ เอริก เป็นโค้ชให้ และคอยให้เขาฝึกซ้อม 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ซึ่งเจ้าตัวก็โดดเด่นกว่าเด็กในวัยเดียวกันจนทำให้แมวมองของ สตรอมก็อดเซ็ต คว้าตัวไปเข้าสังกัดก่อนจะก้าวสู่ทีมชุดใหญ่ในเวลาต่อมา

โควัคส์ เล่าต่อว่า “โค้ชบอกเขาว่า เขาจะได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกับผู้เล่นคนอื่น ๆ แม้ว่าเขาจะยังเด็กก็ตาม เมื่อเราต้องการปะทะกับเขาในการซ้อม เราก็ต้องทำ เขาได้เรียนรู้วิธีที่ยากลำบากในสนาม ผมเชื่อว่าเขาได้รับประโยชน์จากสิ่งนั้น ฟุตบอลนอร์เวย์เล่นกันค่อนข้างหนัก และดุดันมาก มันทำให้เขาเริ่มต้นอาชีพได้ดี”

โอเดการ์ด จะต้องไปที่สนามฝึกซ้อมของ สตรอมก็อดเซ็ต หลังจากเลิกเรียนในช่วงบ่าย และเขาก็ต้องทำการออกกำลังกายที่โรงยิมก่อนกลับบ้านด้วย ซึ่งเป็นการฝึกซ้อมที่เข้มข้นอย่างมากสำหรับเด็กในวัยในเพียง 13 ปี

จาล อันเดร สตอร์บีค อดีตแบ็คขวา สตรอมก็อดเซ็ต กล่าวว่า “เขาเป็นคนทุ่มเท 100% ในสิ่งที่ต้องทำเสมอ ในความคิดของเขาเขาเป็นเหมือนนักเตะมืออาชีพที่มีอายุมากแล้ว เด็ก ๆ ในนอร์เวย์ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลามากแค่ไหนกว่าจะทำได้ดีเท่าเขา”

“ในตอนนั้นผมอายุ 36 ปีแล้ว ดังนั้น ผมจึงต้องมาออกกำลังกายยืดเส้นยืดสายก่อนคนอื่นๆ แต่ มาร์ติน ก็มาถึงสนามเร็วเช่นกันถึงแม้ว่าเขาจะอายุแค่ 15 ปีก็ตาม ผมเป็นคนที่อายุมากที่สุดในทีม และ มาร์ติน เป็นคนอายุน้อยที่สุดในทีม แต่เรามาเตรียมตัวพร้อมกัน ผมรู้ทันทีว่า เขาทุ่มเทแค่ไหน”

เมื่อครั้ง สตอร์บีค ต้องเผชิญหน้ากับ โอเดการ์ด ในสนามซ้อมมันก็ทำให้เขานึกถึงเหตุการณ์ที่ตัวเองได้ลงสนามในนามทีมชาตินอร์เวย์ในเกมกระชับมิตรกับ อาร์เจนติน่า และต้องดวลกับซุเปอร์สตาร์อย่าง ลิโอเรล เมสซี่ ตัวรุก บาร์เซโลน่า

“มันเป็นความรู้สึกเดียวกันกับตอนที่ผมได้ดวลกับ มาร์ติน มีทักษะเหล่านั้นอยู่แล้ว เขามีความเร็ว และผ่านบอลในจังหวะที่เหมาะสม เขาสามารถปรับตำแหน่งของตัวเองให้เข้ากับผู้เล่นคนอื่นได้ เขาเปลี่ยนจังหวะการเล่นได้อย่างยอดเยี่ยม เขาทำได้ดีดีกว่าคนอื่น ๆ มากในระหว่างการฝึกซ้อม เขาสามารถเคลื่อนที่ไปได้ทั่วสนาม ซึ่งมันยากมากที่ต้องรับมือ”

เรอัล มาดริด

ย้ายไป เรอัล มาดริด

ความยอดเยี่ยมของ โอเดการ์ด มันทำให้หลายคนคิดแล้วว่า เขาคลไม่ได้เล่นอยู่ในนอร์เวย์นานแน่ๆเพราะเจ้าตัวได้รับความสนใจจากหลายสโมสรดังทั่วยุโรปอาทิ บาเยิร์น มิวนิค, ลิเวอร์พูล และ อาร์เซน่อล ซึ่งสุดท้าย มาดริด ได้ตัวเขาไปร่วมทีมในราคา 2.3 ล้านปอนด์เมื่อปี 2015

คาร์โล อันเชล็อตติ อดีตโค้ช มาดริด ให้ โอเดการ์ด ประเดิมสนามในเกมที่เอาชนะ เกตาเฟ่ 7-3 โดยลงมาเป็นตัวสำรองแทนที่ของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ปีกทีมชาติโปรตุเกส โดย โควัคส์ กล่าวต่อว่า “ตอนอยู่ นอร์เวย์ เขาเคยถูกเปลี่ยนลงมาแทนที่ผม แต่ตอนนี้ เขาถูกเปลี่ยนลงมาแทนสุดยอดนักเตะอย่าง โรนัลโด้ มันน่าเหลื่อเชื่อมากๆ”

อย่างไรก็ตาม โอเดการ์ด ไม่มีโอกาสลงสนามให้กับ มาดริด มากนักมันทำให้เขาต้องถูกปล่อยยืมตัวไปยังหลายสโมสร และเมื่อซัมเมอร์ที่แล้ว ซีเนเดีน ซีดาน กุนซือ มาดริด อยากเก็บ โอเดการ์ด ไว้ใช้งานแต่การที่มีนักเตะอย่าง โทนี่ โครส และ ลูก้า โมดริช ขวางทางอยู่มันก็ยากที่ดาวเตะชาวนอร์เวย์จะได้ลงสนาม และต้องย้ายมา อาร์เซน่อล ในที่สุด

อนาคตของ มาร์ติน โอเดการ์ด

อนาคตต่อไปของ มาร์ติน โอเดการ์ด

โอเดการ์ด ลงเล่นให้ อาร์เซน่อล ไปรวมทุกรายการ 12 เกม ซัดไป 1 ประตู และเจ้าตัวดูมีความสุขอย่างมากกับการค้าแข้งในทัพ “ไอ้ปืนใหญ่” แต่เขาก็รู้ดีว่า ตัวเองมีศักยภาพมากพอที่จะได้ลงเล่นในฟุตบอลรายการใหญ่อย่างศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

ในเวลานี้ ยังไม่มีสโมสรใดยื่นข้อเสนอให้กับ มาดริด และตัว โอเดการ์ด ได้พิจารณา และ ซีดาน ก็ยังไม่ตัดสินใจว่า โอเดการ์ด จะอยู่ในแผนการทำทีมของเขาในปีหน้าหรือไม่ ซึ่งบางที กัปตันทีมชาตินอร์เวย์ อาจต้องมองหาทางเลือก และความท้าท้ายที่เหมาะสมกับตัวเองต่อไปในอนาคต

, , , , , , , , ,

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *