หาก เซบีย่า ทีมดังแห่ง วงการฟุตบอลต่างประเทศ ต้องการจะคว้าแชมป์ลา ลีกา สเปน ในรอบ 76 ปีของสโมสรได้สำเร็จนั้น พวกเขาต้องแสดงให้เห็นว่า มีความแข็งแกร่งพอที่จะต่อสู้กับ 3 ทีมลุ้นแชมป์อย่าง บาร์เซโลน่า, เรอัล มาดริด และ แอตเลติโก มาดริด
นับตั้งแต่ ฆูเลน โลเปเตกี เทรนเนอร์ชาวสเปนเข้ามาคุมทัพ เซบีย่า เมื่อปี 2019 นั้น เขาเผชิญหน้ากับ บาร์เซโลน่า, มาดริด และ แอตฯ มาดริด ไปแล้วรวมทั้งสิ้น 14 เกม แต่สามารถเก็บชัยชนะจาก 3 ทีมดังกล่าวได้เพียง 2 เกม เสมอ 5 เกม และพ่ายแพ้ไปถึง 7 เกม
โลเปเตกี เป็นหนึ่งในผู้จัดการทีมชาวสเปนที่ได้รับการยกย่องในระเดียวกับ เป็ป กวาร์ดิโอล่า ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้, ราฟาเอล เบนิเตซ ของ เอฟเวอร์ตัน และ อูไน เอเมรี ของ บียาร์เรอัล ซึ่งโค้ชทั้งหมดเป็นคนที่จริงจังในเรื่องแท็คติค และรายละเอียดต่างๆของเกม
ขุมกำลังเชิงลึกของ เซบีย่า ทีมดังแห่ง สเปน
เซบีย่า ชุดปัจจุบันภายใต้การคุมทีมของ โลเปเตกี มีนักเตะฝีเท้าดีอยู่ในทีมหลายคนอาทิ เฆซุส นาบาส มิดฟิลด์กัปตันทีม, อิวาน ราคิติช กองกลางทีมชาติโครเอเชีย, ลูคัส โอคัมโปส, ปาปู โกเมซ และ เอริค ลาเมร่า 3 ดาวเตะอาร์เจนไตน์ และ ฌูลส์ กุนเด้ ปราการหลังดาวรุ่งชาวฝรั่งเศส
นอกจากนี้ เซบีย่า มอนชี อดีตผู้รักษาประตูของสโมสรที่ปัจจุบันเป็นผูัอำนวยการฝ่ายกีฬาชื่อดังของทำงานอยู่เบื้องหลัง ซึ่งช่วงที่ผ่านมาเขาเป็นคนปั้นนักเตะดังอย่าง นาบาส, เซอร์คิโอ รามอส และ ดานี อัลเวส มาแล้ว
เซบีย่า มีคุณภาพมากพอทั้งใน และนอกสนาม รวมถึงการทำธุริจต่างๆที่ประสบความสำเร็จอย่างมากมาย แต่พวกเขาต้องพิสูจน์ให้เห็นว่า สามารถต่อกรกับบรรดาทีมอย่าง บาร์เซโลน่า, มาดริด และ แอตฯ มาดริด ตลอดทั้งฤดูกาลได้
ขณะเดียวกัน เซบีย่า ก็ต้องเจอปัญหาเหมือนกับสโมสรชั้นนำทั่วยุโรปหลังจาก สหพันธ์ฟุตบอลแห่งชาติของอเมริกาใต้ สร้างความโกลาหลในเกมฟุตบอลโลกด้วยการสั่งระงับเกมระหว่าง บราซิล กับ อาร์เจนติน่า เมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมาเนื่องจากสถานการณ์เกี่ยวกับโวคิด19 ซึ่งทำให้นักเตะทัพ “ฟ้าขาว” อย่าง ปาปู, กอนซาโล่ มอนเตียล และ มาร์กอส อคุนญ่า ไม่สามากลับมาช่วยทีมได้ทัน
เผชิญหน้ากับช่วงเวลาสำคัญ
โลเปเตกี และบรรดาลูกทีมของเขาจะต้องเจองานหนักทันทีหลังเสร็จสิ้นฟุตบอลทีมชาติ โดยเกมลีกพวกเขาต้องเปิดรัง รามอน ซานเชซ ปิฆวน รับการมาเยือนของ บาร์เซโลน่า ต่อด้วยการรับมือ เร้ดบลูล์ ซัลซ์บวร์ก แชมป์ลีกออสเตรียปีที่แล้วในศึกฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
อย่างไรก็ตาม 2 เกมต่อจากนี้กับ บาร์เซโลน่า และ ซัลซ์บวร์ก นั้น เซบีย่า ยังมีข้อดีอยู่บ้างที่พวกเขาไม่ต้องเดินทางไกล ซึ่งจะทำให้นักเตะมีสภาพร่างกายไม่อ่อนล้านัก รวมถึงอาจจะได้แข้งชาวอาร์เจนไตน์อย่าง ปาปู, มอนเตียล และ อคุนญ่า กลับมาได้ในเกมกับ ซัลซ์บวร์ก
เซบีย่า เปิดฉาก 3 เกมแรกในฤดูกาลนี้ด้วยการเก็บชัยชนะ 2 เกม เสมอ 1 เกม ซึ่งถือว่า ทำผลงานได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว แต่ โลเปเตกี ก็ต้องทำงานหนักของตัวเองต่อไปในการเผชิญหน้ากับทีมลุ้นแชมป์ด้วยกันอย่าง บาร์ซ่า, มาดริด และ แอตฯ มาดริด
เซบีย่า ทีมดังแห่ง สเปน ต้องพิสูจน์ตัวเอง
ขณะเดียวกัน ปัญหาที่ เซบีย่า ต้องเผชิญคือ ผู้เล่นตำแหน่งกองหน้าตัวเป้าหลังจากที่พวกเขาต้องเสีย ลุค เดอ ยอง หัวหอกชาวฮอลแลนด์ไปให้กับ บาร์เซโลน่า เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา ซึ่งจะทำให้เหลือ ยูเซฟ อ็อง-เนไซริ ดาวยิงชาติโมร็อกโกเป็นตัวหลักที่ไว้ใจได้เพียงรายเดียวเท่านั้น
กูรูลูกหนังแดนกระทิงดุรายหนึ่งแสดงความคิดเห็นว่า “เซบีย่า เก็บ ฌูลส์ กุนเด้ ไว้กับทีมได้ มันเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยม แต่พวกเขาต้องเซ็นสัญญากับกองหน้าเพิ่มอีก 1 ราย ซึ่งผมเชื่อว่า หากทำได้ พวกเขาอาจจะเป็นม้ามืดลุ้นแชมป์แบบจริงจัง ผมคิดว่า พวกเขาต้องการหนึ่งในกองหน้าที่สามารถจบสกอร์ได้ทันทีเมื่อมีโอกาส”
“กองหน้าคนใหม่ของพวกเขาควรเป็นคนที่ยิงได้ 15-20 ประตูต่อฤดูกาล เพราะนักเตะเหล่านั้นจะช่วยเปลี่ยนผลเสมอเป็นชนะ และแพ้เป็นเสมอ ดังนั้น ผมกำลังนึกถึงอดีตกองหน้าหลายๆคนที่เคยเล่นให้กับ เซบีย่า อย่าง คาร์ลอส บัคก้า, วิสซาม เบน เยดเดอร์, เควิน กาเมโร่ หรือ ฮาเวียร์ ซาวิโอล่า”
โลเปเตกี และนักเตะ เซบีย่า ทุกคนต้องพิสูจน์ตัวเองอย่างหนักในฤดูกาลใหม่นี้ และต้องแสดงให้เห็นถึงความสม่ำเสมอจากฟอร์มการเล่น ซึ่งเวลาจะเป็นเครื่องบอกได้ว่า พวกเขาจะเป็นม้ามืดลุ้นแชมป์ตัวจริงได้หรือไม่