สิ่งที่ เบน ไวท์ จะนำมาสู่ อาร์เซน่อล

อาร์เซน่อล ทีมดังแห่ง วงการฟุตบอลต่างประเทศ บรรลุตกลงเซ็นสัญญาคว้าตัว เบน ไวท์ เซ็นเตอร์แบ็คตัวเก่งของของ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน มาเสริมแนวรับเรียบร้อยแล้วด้วยค่าตัวมหาศาลถึง 50 ล้านปอนด์ และจะเข้ารับการตรวจร่างกายในเร็วๆนี้

อย่างไรก็ตาม การที่ อาร์เซน่อล ตัดสินใจคว้าตัว กองหลังวัย 23 ปี มาร่วมทีมนั้น ทำให้สาวก “เดอะ กันเนอร์ส” หลายคนสับสนว่า ทีมรักของพวกเขาควรจะทุ่มเงินกับกองหลังระดับบิ๊กเนมมากกว่านี้หรือไม่ แต่สุดท้าย มิเกล อาร์เตต้า โค้ชชาวสเปนก็เลือก ไวท์ เป็นคำตอบ

สำหรับ อาร์เตต้า ก็มีสไตล์เช่นเดียวกับกุนซือรุ่นใหม่หลายๆ คนที่ชอบขึ้นเกมจากแนวรับ ซึ่งกองหลังที่ อาร์เซน่อล มีอยู่ในทีมชุดปัจจุบันนั้น ยังไม่มีใครสามารถจ่ายบอลจากแดนหลังได้แบบมีประสิทธิภาพเลย เพราะมันเป็นจุดเริ่มต้นของการเล่นเกมรุก

อาร์เตต้า มองว่า การเล่นบอลจากด้านหลังเป็นหลักการสำคัญในปรัชญาของเขา แต่การเคลื่อนบอลจากแดนหลังไปสู่แดนหน้านั้น มันกลับเป็นปัญหาที่คงอยู่ตลอดช่วงที่เขากุมบังเหียน อาร์เซน่อล และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ดาวิด ลุยซ์ กองหลังจอมเก๋าชาวบราซิลถูกปล่อยออกจากสโมสรไปแล้วหลังหมดสัญญา

ในซัมเมอร์นี้ อาร์เซน่อล จะได้ตัว วิลเลี่ยม ซาลิบา ปราการหลังดาวรุ่งชาวฝรั่งเศสกลับมาจากการยืมตัวที่ โอลิมปิก มาร์กเซย แต่ อาร์เตต้า ก็ยังไม่มีแนวรับตัวหลักที่ไว้ใจได้เลย ดังนั้น เขาจึงดึง ไวท์ เข้ามาเป็นกำลังสำคัญ

ไบน ไวท์ จะนำอะไรมาสู่ อาร์เซน่อล

เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ไวท์ โชว์ฟอร์มให้กับ ไบรท์ตัน ภายใต้การนำของกุนซือ เกรแฮม พอตเตอร์ ได้อย่างน่าประทับใจ โดยเซ็นเตอร์แบ็คชาวอังกฤษลงเล่นในพรีเมียร์ลีกไปมากถึง 36 เกม ซึ่งเจ้าตัวพลาดการลงสนามไปเพียง 2 นัดเท่านั้น

ย้อนกลับไปในฤดูกาล 2019-2020 ไวท์ เคยย้ายไปเล่นกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด ด้วยสัญญายืมตัวเป็นเวลา 1 ปี ซึ่งหลังจากหมดสัญญา มาร์เซโล่ บิเอลซ่า เทรนเนอร์ “ยูงทอง” ต้องการคว้าตัวเขามาร่วมทีมถาวรแต่ก็ต้องถอยกลับไปหลัง ไบรท์ตัน เรียกค่าตัวสูงถึง 50 ล้านปอนด์

ไวท์ เป็นกองหลังที่เล่นบอลกับเท้าได้อย่างยอดเยี่ยม และจ่ายบอลได้หลากหลาย เขามีความนิ่ง และความมั่นใจเมื่อครอบครองบอลจนในบางครั้ง บิเอลซ่า และ พอตเตอร์ ขยับเขาขึ้นมายืนปักหลักเป็นมิดฟิลด์ตัวกลางหน้าแผงแนวรับ นอกจากนี้ เขายังสามารถขยับไปเล่นในตำแหน่งแบ็คขวาได้ด้วย

ขณะเดียวกัน แกเร็ธ เซาธ์เกต กุนซือทีมชาติอังกฤษ ก็เคยออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ไวท์ จะเป็นนักเตะแห่งอนาคตของ “สิงโตคำราม” แม้ในศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร 2020 ที่ผ่านมา ดาวเตะวัย 23 ปี จะไม่มีสว่นร่วมก็ตาม

ในช่วงที่ผ่านมา อาร์เตต้า มักจะกำหนดให้ ลุยซ์ เป็นตัวหลักในการขึ้นเกมจากแนวรับ รวมถึงเปิดบอลยาวไปยังพื้นที่แดนหลังคู่แข่ง และตอนนี้หน้าที่ดังกล่าว ไวท์ จะต้องเป็นคนเข้ามารับผิดชอบต่อจากกองหลังแซมบ้า

ผู้บัญชาการเกมรับคนใหม่

ในความเป็นจริงแม้ ไวท์ จะมีค่าเฉลี่ยการจ่ายบอลต่อเกมน้อยกว่าคู่หูแนวรับ อาร์เซน่อล เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา แต่สถิติก็บองว่า เขาผ่านบอลไปข้างหน้าได้มากกว่ากองหลัง “ไอ้ปืนใหญ่” ทุกคน ซึ่งมันสะท้อนถึงความตั้งใจของเขาที่จะเล่นเกมรุก

ไวท์ เป็นกองหลังที่อ่านเกมได้อย่างเด็ดขาก และมักจะคิดล่วงหน้าเสมอเมื่อต้องจ่าบอลออกจากเท้า และคุณสมบัติที่แทบจะไม่มีใครเหมือนใครในฐานะกองหลังตัวกลางของพรีเมียร์ลีกก็คือ ความสามารถในการเลี้ยงบอลขึ้นมาจากแนวรับ

ฤดูกาลที่แล้ว ไวท์ เลี้ยงบอลได้สำเร็จมากกว่ากองหลังตัวกลางคนอื่นๆ ในพรีเมียร์ลีก และจำนวนเปอร์เซนต์การครองบอลของเขาก็น่าประทับใจมากหลังจากเจ้าตัวมีสถิติที่ยอดเยี่ยมในการครองบอลระยะ 5 เมตรขึ้นไป

การครองบอลที่ยอดเยี่ยมของ ไวท์ มันจะเข้ากับสไตล์ของ อาร์เตต้า ที่ชอบให้แนวรับดันขึ้นสูง แต่การขาดตัวเลือกในตำแหน่งปราการหลังตัวกลางที่มีคุณภาพไปทำให้ อาร์เซน่อล ยังไม่เป็นทีมที่สมบูรณ์แบบมากนัก

นอกจากนี้ ความสามารถของ ไวท์ ในการอ่านเกมก็ดีเช่นกัน ไวท์ แม้เขายังมีประสบการณ์ในการเล่นฟุตบอลระดับสูงไม่มากนัก แต่กองหลังวัย 23 ปี ก็ตื่นตัวอยู่เสมอ และเมื่อปีที่แล้วเขาสกัดบอลได้เฉลี่ยต่อ 90 นาที มากกว่าเซ็นเตอร์แบ็คของ อาร์เซน่อล ทุกคน

ขณะเดียวกัน ความแตกต่างที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งของ ไวท์ ที่จะเข้ามาทำหน้าที่แทน ลุยซ์ ก็คือ เขาเป็นผู้เล่นที่ไม่ค่อยก่อความผิดพลาด ซึ่งตลอด 2 ปีที่ผ่านมากับั้ง ลีดส์ และ ไบรท์ตัน นั้น เจ้าต้วไม่เคยทำพลาดไปสู่การเสียประตูเลยแม้แต่ครั้งเดียว

พอตเตอร์ กล่าวถึง ไวท์ ว่า “เขาเป็นเซ็นเตอร์แบ็คที่ทันสมัยอย่างเห็นได้ชัดเลย เขาแข็งแกร่ง และมีความเป็นมืออาชีพมากๆ เขามีความเป็นนักกีฬาที่ เขาตั้งใจเล่นฟุตบอลมากเมื่อได้ลงสนาม”เส้นทางสู่ อาร์เซน่อล

เส้นทางสู่ อาร์เซน่อล ของ เบน ไวท์

การถูกปล่อยออกไปยืมตัวกับหลายสโมสรช่วยให้ ไวท์ เสริมประสบการณ์ และแข็งแกร่งมากขึ้น โดยก่อนหน้าจะมาเล่นกับ ลีดส์ นั้น เขาเคยย้ายไปเล่นกับ ปีเตอร์โบโรห์ ในระดับลีกวัน และ นิวพอร์ต เคาน์ตี้ ในลีกทู มาแล้ว

ไมเคิล ฟลินน์ ผู้จัดการทีม นิวพอร์ต กล่าวถึง ไวท์ ว่า “ผมไม่ชอบกดดันคนอื่นนะ แต่ผมจะแปลกใจถ้าเขาไม่ได้ติดทีมชาติในอนาคต เขาเป็นผู้แล่นที่เราเซ็นสัญญายืมตัวมาร่วมทีมที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร”

แม้ ไบรท์ตัน จบอันดับที่ 16 ในพรีเมียร์ลีกเมื่อปีที่แล้ว แต่เกมรับพวกเขาเป็นหนึ่งในทีมที่ดีที่สุดในลีกหลังจากเก็บคลีนชีตได้ 12 เกม ซึ่งเป็นจำนวนเดียวกับ ลิเวอร์พูล และ อาร์เซน่อล โดยเสียไปเพียง 46 ประตู ซึ่งมากกว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมรองแชมป์เพียง 2 ลูกเท่านั้น

จากมุมมองของแฟนบอล อาร์เซน่อล แน่นอนว่า มันมีองค์ประกอบหลายอย่างที่พวกเขาคิดว่า ไวท์ เป็นความเสี่ยงกับค่าตัว 50 ล้านปอนด์ แต่จากสถิติต่างๆ, ฝีเท้า และในวัยเพียง 23 ปี กองหลังชาวอังกฤารายนี้ คงตอบแทน “ไอ้ปืนใหญ่” คุ้มค่าแน่นอน