“เกือบตลอดฤดูกาลที่แล้วผมไม่คิดว่า การเล่นร่วมกับคนอื่นๆในทีมของผมจะดีเท่านี้ และผมยิงได้มากกว่าเดิมด้วย แต่หลายคนคิดว่า ฤดูกาลก่อนผมทำได้ดีกว่านี้ แต่สำหรับผมคิดว่า ตัวเองทำผลงานในปีนี้ได้ดีกว่า” เมสัน กรีนวู้ด กองหน้าอนาคตไกลของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมดังแห่ง วงการฟุตบอลต่างประเทศ เริ่มอธิบาย
การซัดไป 8 ประตู จาก 12 เกมล่าสุดให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ทำให้มุมมองของ กรีนวู้ด เปลี่ยนไป โดยไม่มีผู้ล่นในพรีเมียร์ลีกในทีมระดับท็อป 6 คนใดที่ทำประตูได้มากกว่าหัวหอกดาวรุ่ง “ปีศาจแดง” แล้วนับตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา
เมสัน กรีนวู้ด เป็นนักเตะอายุน้อยที่พร้อมเรียนรู้อยู่เสมอ และพร้อมจะปรับปรุงการเล่นของตัวเองตลอดเวลา นอกจากนี้ เขายังเล่าถึงความยากลำบากที่ต้องเผชิญหลังจากไปรับใช้ทีมชาติอังกฤษ และเปิดใจถึงการก้าวไปติดทัพ “สิงโตคำราม” อีกครั้งในอนาคต
การมุ่งมั่นไปสู่จุดสูงสุดของ เมสัน กรีนวู้ด
กรีนวู้ด กล่าวด้วยสายตาที่มุ่งมั่นว่า “ผมรู้เสมอว่าเวลาของผมจะมาถึง ผมยังมีเวลาอีกหลายปีในการก้าวไปสู่ระดับสูงสุดของการเป็นนักฟุตบอล ผมยังเติบโตได้อีก ตอนนี้ผมอายุแค่ 19 ปี และพร้อมจะพัฒนาตัวเอง”
ในฤดูกาลนี้ภายใต้การคุมทีมของ โอเล่ กุนาร์ โซลชา กุนซือชาวนอร์เวย์ของ แมนฯ ยูไนเต็ด นั้น กรีนวู้ด พัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยเขาสามารถยิงบอลได้ทั้ง 2 เท้า และยังมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์เกมมากขึ้น และช่วยเล่นเกมรับอีกด้วย
“การมีวุฒิภาวะที่เติบโตขึ้นนั้นหมายถึงคุณต้องทำงานให้ดีกว่าเดิม ซึ่งหมายถึงความรับผิดชอบต่างๆที่จะเพิ่มมากขึ้นด้วย ยกตัวอย่าง การลงมาช่วยเพื่อนๆเล่นเกมรับที่เป็นพื้นฐานในเกม” กองหน้าลูกหม้อ แมนฯ ยูไนเต็ด กล่าว
กรีนวู้ด อธิบายต่อว่า “การครองบอล และการเล่นแบบหันหลังให้ประตูคู่แข่งของผมก็พัฒนาขึ้นด้วย และการผ่านบอลของผมก็ดีขึ้น ผมเพิ่งเข้ามาอยู่ในทีมชุดใหญ่และมันทำให้ผมเข้าใจฟุตบอลละเอียดขึ้น และเข้าใจฟุตบอลพรีเมียร์ลีกมากขึ้น”
เผชิญความยากลำบาก
จุดที่น่าสนในอย่างหนึ่งของ เมสัน กรีนวู้ด ก็คือการทำงานหนักอยู่เสมอทั้งในสนามซ้อม และการแข่งขันจริง นอกจากนี้ ดาวเตะวัย 19 ปี ก็เปิดเผยว่า เขาต้องพัฒนาด้านความคิด และจิตใจด้วยเช่นกันเพื่อให้เป็นผู้เล่นที่สมบูรณ์แบบ
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนกันยายนปีที่ผ่านมาในวัย 18 ปี มันน่าเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมากที่สุดของ กรีนวู้ด หลังถูก แกเร็ธ เซาธ์เกตต์ เรียกตัวไปติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ แต่เขาก็ทำพลาดด้วยการฝ่าฝืนกฏ Lockdown ออกไปเที่ยวกับ ฟิล โฟเด้น มิดฟิลด์ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จนเป็นพาดหัวข่าวใหญ่
กรีนวู้ด เล่าว่า “มันเป็นเรื่องยากจริงๆ พวกคุณก็รู้ว่ามันเป็นยังไง เห็นได้ชัดว่ามันเป็นความท้ายทายทางจิตใจที่ผมต้องเผชิญ คุณต้องปิดกั้นการรับรู้ข่าวทั้งหมด เพราะถ้าคุณเล่ให้กับหนึ่งในสโมสรที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด คุณต้องรับมือกับมันให้ได้ ผมต้องลืมมันและมุ่งเน้นไปที่การเล่นฟุตบอลเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ตอนนี้ผมทำได้แล้ว ผมมีความสุขที่ได้กลับมาเล่นฟุตบอลด้วยฟอร์มที่ดีที่สุด”
ขณะที่ โซลชา ก็มองปัญหาของ กรีนวู้ด เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย และสิ่งที่ลูกทีมของเขาต้องเผชิญนั้น สามารถนมาเป็นแรงผลักดันเชิงบวกได้ โดยระบุว่า “เขามีปัญหาเล็กน้อย แต่ในระยะยาวนั่นจะทำให้เขายืนหยัดได้เป็นอย่างดี”
กรีนวู้ด เล่าเสริมว่า “ผมเห็นด้วยกับ โซลชา ผมผ่านมันมาได้แล้ว และผมก็แข็งแกร่งขึ้น เพราะสิ่งเล็กน้อยทั้งหมดนี้ทำให้คุณเป็นคนที่ดีขึ้น เป็นมนุษย์ที่ดีขึ้น และเป็นนักฟุตบอลที่ดีขึ้น มันทำให้คุณได้เรียนรู้บางสิ่งบางอย่างเหมือนกับตอนที่คุณกำลังเล่นคุณเรียนรู้จากความผิดพลาดของตัวเองว่า คุณปล่อยให้มันส่งผลกระทบต่อคุณหรือคุณจะผลักดันให้ตัวเองเอาชนะมัน”
“ผู้จัดการทีมให้ความสำคัญกับผมอย่างเต็มที่ และเขาช่วยผมได้เยอะมาก เขาพูดกับเด็ก ๆ ทุกคนเป็นจำนวนมากทั้งแบบรายบุคคล และแบบกลุ่ม ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่มีเขาอยู่ข้างๆเสมอ”
อยากคว้าแชมป์กับ แมนฯ ยูไนเต็ด
การเล่นฟุตบอลระหว่าง Lockdown เป็นเรื่องแปลกสำหรับทุกคน และสำหรับ กรีนวู้ด ก็เช่นกันที่เขาฉลองประตูโดยไม่มีแฟนบอล และตอนนี้วงการลูกหนังเมืองผู้ดีอนุญาตให้แฟนบอลบางส่วนกลับมาชมสนนามได้แล้ว
กรีนวู้ด กล่าวว่า “ผมคิดว่าทุกคนคิดถึงแฟน ๆ พวกเขาเป็นส่วนสำคัญของสโมสรฟุตบอลแห่งนี้ หากไม่มีแฟน ๆ มันก็ไม่ใช่สโมสรฟุตบอลที่แท้จริงๆ มันจะเป็นการดีที่จะให้พวกเขากลับมาอีกสักหน่อยเมื่อจบฤดูกาล และเห็นได้ชัดว่าในฤดูกาลหน้ามันสามารถให้ความรู้สึกเหมือน โอลด์แทรฟ ฟอร์ด ที่แท้จริงกลับมาอีกครั้ง”
ในช่วงท้ายของฤดูกาล กรีนวู้ด มีงานสำคัญที่พา แมนฯ ยูไนเต็ด ลงเล่นเกมนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลยูโรป้า ลีก กับ บียาร์เรอัล รออยู่ และเขาก็หวังว่า จะคว้าแชมป์ร่วมกับพลพรรค “ปีศาจแดง” ได้สำเร็จ โดยระบุว่า “การคว้าแชมป์บางอย่างกับ แมนฯ ยูไนเต็ด มันน่าทึ่งมาก”
“ผมต้องการทำแบบนั้น เราอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่จะทำมัน และการจบฤดูกาลพรีเมียร์ลีกที่ดี และการคว้าแชมป์ในนัดชิงชนะเลิศคงจะดี เราต้องการแชมป์สัก 1 รายการหลังจากเราไม่ได้แชมป์มานานแล้ว ดังนั้นหากเราทำได้มันจะยอดเยี่ยมมาก”
ส่วนอนาคตกับการติดทีมชาติอังกฤษในการไปลุยฟุตบอลยูโร 2020 กรีนวู้ด กล่าวว่า “มันคงจะดีที่ได้ไปยูโร แต่ผมแค่อยากจะโฟกัสกับ แมนฯ ยูไนเต็ด อย่างเต็มที่สำหรับช่วงที่เหลือของฤดูกาลนี้โดยเฉพาะรอบชิงชนะเลิศยูโรป้า ลีก”
“จะเกิดอะไรขึ้นเกิดขึ้นผมไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้มากนัก ผมคิดถึงผลงานของตัวเองกับ แมนฯ ยูไนเต็ดเป็นอย่างแรก และการช่วยทีมทำประตู ผมจะโฟกัสไปที่การเล่นฟุตบอลของผมเท่านั้น”