แฟรงค์ แลมพาร์ด ผู้กอบกู้ เอฟเวอร์ตัน

ย้อนกลับไปเมื่อเดือนมกราคมปีที่แล้ว แฟรงค์ แลมพาร์ด กุนซือชาวอังกฤษ โดน เชลซี สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก ไล่ออกจากตำแหน่งหลังจากทำผลงานได้น่าผิดหวัง และตอนนี้เขาหวนกลับมาทำงานอีกครั้งในฐานะผู้จัดการทีมคนใหม่ของ เอฟเวอร์ตัน

1 ปี หลังโดน เชลซี ไล่ออก แลมพาร์ด ก็ว่างงานมาตลอด และตกเป็นข่าวกับหลายๆสโมสร ขณะที่ เอฟเวอร์ตัน ทำผลงานได้อย่างย่ำแย่จนหล่นมาอยู่อันดับ 16 เหนือโซนตกชั้นเพียง 3 คะแนนเท่านั้น จึงทำให้ ราฟาเอล เบนิเตซ โค้ชชาวสเปนโดนไล่ออกเช่นกัน

แลมพาร์ด จะเข้ามารับงานหนักต่อจาก เบนติเซ ในการพา เอฟเวอร์ตัน ขยับหนีโซนอันตรายให้ได้เร็วที่สุด โดย ฟาร์ฮัด โมชิรี เจ้าของทีม “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” มั่นใจว่า อดีตกองกลางทีมชาติอังกฤษเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกับงานในถิ่น กูดิสัน ปาร์ค

แฟรงค์ แลมพาร์ด ทางเลือกที่สมเหตุสมผลของ เอฟเวอร์ตัน

การที่ โมชิรี ประกาศแต่งตั้ง เบนิเตซ เข้ามานั้น ทันทำให้แฟนบอล เอฟเวอร์ตัน หลายคนเกิดความไม่พอใจ เนื่องจาก นายใหญ่ขาวสเปน เป็นอดีตเทรนเนอร์ของ ลิเวอร์พูล ซึ่งเป็นคู่อริร่วมเมืองของ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน”

เบนิเตซ ถูกไล่ออกหลังจากพา เอฟเวอร์ตัน บุกไปพ่าย นอริข ซิตี้ 2-1 เมื่อวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากนั้น มีกุนซือมากมายที่ตกเป็นข่าวกับ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” อาทิ เวย์น รูนีย์, โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ, ดันแคน เฟอร์กูสัน รวมถึงตัวเต็งอย่าง วิคตอร์ เปเรร์ร่า

เปเรร์ร่า เป็นตัวเลือกแรกที่ โมชิรี อยากได้ตัวอย่างมาก โดยทั้ง 2 ฝ่ายมีการสัมภาษณ์กันนาน 20 นาที แต่ดูเหมือนว่า การเจรจาจะล้มเหลว และ แลมพาร์ด ก็ได้รับการสัมภาษณ์หลังจากนั้นก่อนจะบรรลุข้อตกลงกันในที่สุด

โมชิรี ต้องจ่ายเงินชดเชยจำนวนมากให้กับ เบนิเตซ ส่วนการเจรจากับ เปเรร์ร่า ก็ไม่ราบรื่น ดังนั้น แลมพาร์ด อาจกลายเป็นคนตัวเลือกดีที่สุดสำหรับ เอฟเวอร์ตัน ในช่วงเวลาที่ยากลำบากแบบนี้

แลมพาร์ด ได้ใช้เวลาหนึ่งปีเต็มๆกับครอบครัวหลังจากโดน เชลซี ไล่ออก แต่เขาก็ยังศึกษาเกมเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการกลับมาของตัวเองอยู่เสมอ และตอนนี้ อดีตแข้งทีมชาติอังกฤษ ก็สามารถกลับรับงานที่เอฟเวอร์ตัน ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ขณะเดียวกัน ด้วยประวัติศาสตร์ และประเพณี บวกกับฐานแฟนบอลที่คลั่งไค้ลฟุตบอลอย่างดุเดือดของ เอฟเวอร์ตัน นั้น ทันทำให้เป็นการจับคู่ที่ลงตัวระหว่าง แลมพาร์ด ซึ่งเคยเป็นอดีตนักเตะดังกับทัพ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน”

แลมพาร์ด จะนำทีมงานที่แข็งแกร่งกว่ามาสู่ เอฟเวอร์ตัน และจะได้รับประสบการณ์ในการทำงานร่วมกับนักเตะบิ๊กเนมที่ เชลซี มาใช้ประโยชน์ในถิ่นกูดิสัน ปาร์ค ซึ่งมันเป็นงานท้าทายอย่างมากสำหรับเทรนเนอร์วัย 43 ปี ช

แลมพาร์ด เคยยอมรับว่า เขาได้รับผลกระทบอย่างมากจากการถูกไล่ออกที่ เชลซี ดังนั้น เอฟเวอร์ตันจะได้โค้ชหนุ่มคนหนึ่งที่ต้องการพิสูจน์ฝีมือตัวเองว่า เขามีดีพอกับการทำงานในศึกพรีเมียร์ลีก

ความท้าทายที่ต้องเจอในกูดิสัน ปาร์ค

แลมพาร์ด เดินทางมาถึง เอฟเวอร์ตัน พร้อมทั้งได้รับการต้อนรับจากแฟนๆ ทันที ซึ่งงานแรกที่เขาต้องทำก็คือ เรียกความมั่นใจที่หดหายของบรรดาแข้ง “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” กลับคืนมาโดยเร็วที่สุดเพื่อสู้ศึกในช่วงที่เหลือของซีซั่นนี้

เฟอร์กูสัน ซึ่งรับหน้าที่กุนซือชั่วคราวนั้น ไม่สามารถสร้างแรงบันดาลใจนักเตะ เอฟเวอร์ตัน ได้เลยแม้แต่น้อย โดยเห็นได้ชัดจากเกมล่าสุดที่พวกเขาพ่ายให้กับ แอสตัน วิลล่า ของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด คาบ้าน 0-1  

เอฟเวอร์ตัน จะพบกับ เบรนท์ฟอร์ด ในศึกเอฟเอ คัพ รอบที่ 4 ที่กูดิสัน พาร์ค ในเกมต่อไป ก่อนที่ต้องเจอศึกหนักในการพบกับบรรดาทีมหนีตายอย่าง นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด, ลีดส์ ยูไนเต็ด และออกไปเยือน เซาแธมป์ตัน

แลมพาร์ด ต้องหาทางทำให้ ริชาร์ลิสัน หัวหอกแซมบ้า และ โดมินิก คัลเวิร์ต-เลวิน กองหน้าชาวอังกฤษ เล่นเข้าขากันให้ได้ ซึ่งเป็นปัญหามาตั้งแต่ยุค เบนิเตซ แล้ว นอกจากนี้ เขายังต้องหาวิธีทำเกมรับ เอฟเวอร์ตัน ให้แข็งแกร่งขึ้นด้วย

แลมพาร์ด สมควรได้รับเครดิตอย่างแท้จริงสำหรับความมุ่งมั่นของเขาที่จะใช้งานนักเตะเยาวชนทั้งที่ดาร์บี้ เคาน์ตี้ อดีตทีมเก่า และ เชลซี ซึ่งเขามอบโอกาสให้นักเตะอายุน้อยหลายรายอาทิ เมสัน เมาท์, รีส เจมส์, ฟิกาโย โทโมริ และ แธมมี่ อับราฮัม

ภายในทีม เอฟเวอร์ตัน แลมพาร์ด จะมีนักเตะดาวรุ่งฝีเท้าดีมากมายให้ใช้งานอาทิ แอนโธนี่ กอร์ดอน, นาธาน แพตเตอร์สัน, ลูอิส ดอบบิน และ จาร์ราด บรานธ์เวท ซึ่งบรรดาเด็กๆเหล่านี้พร้อมให้เขาถ่ายทอดประสบการณ์ให้

แลมพาร์ด จะต้องทำงานเพื่อซ่อมแซมรอยร้าวในความสัมพันธ์กับแฟนบอล เอฟเวอร์ตัน ตั้งแต่สมัย เบนิเตซ แต่ด้วยบุคลิก และสไตล์ของเขานั้น จะทำให้สาวก “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” หลงรักได้ไม่ยาก และน่าจะกลายเป็นคนที่แฟนๆชื่นชอบ

สิ่งที่ แลมพาร์ด ต้องทำเป็นอย่างแรก และสำคัญที่สุดคือ การเริ่มต้นอย่างรวดเร็วด้วยผลงานที่ดีที่เพื่อทำให้ฤดูกาลของสโมสรใหม่ของเขากลับคืนมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง และต้องทำให้ทีมหนีโซนตกชั้นให้ได้ ซึ่งมันเป็นความท้าทายที่เขารอมา 12 เดือนเต็มๆ

, , ,

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *