5 กุนซือพรีเมียร์ลีกเก้าอี้ร้อน

ในช่วงเริ่มต้นของทุกฤดูกาลในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ และใน วงการฟุตบอลต่างประเทศ นั้น จะมีการพูดคุยกันเกี่ยวกับ กุนซือ คนแรกที่ถูกไล่ออกหลังจากที่ทำผลงานช่วงออกสตาร์ทได้อย่างน่าผิดหวัง และไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่คาเอาไว้ 

ในปีนี้ก็เช่นกัน ศึกพรีเมียร์ลีก มีผู้จัดการทีมหลายคนที่ทำผลงานให้กับต้นสังกัดพวกเขาได้ไม่ดีนัก ซึ่งทำให้มีข่าวลืออย่างหนาหูเกี่ยวกับอนาคตของพวกเขา และนี่คือ 5 เทรนเนอร์ที่เป็นตัวเต็งจะโดนตะเพิดพ้นตำแหน่งตั้งแต่ในช่วงต้นซีซั่น

โค้ช

1. มิเกล อาร์เตต้า ( กุนซือ อาร์เซน่อล)

อาร์เซน่อล ได้ให้เงิน อาร์เตต้า เสริมทัพไปมากมายเมื่อตลาดนักเตะซัมเมอร์ที่ผ่านมาด้วยการคว้าผู้เล่นใหม่อย่าง มาร์ติน โอเดการ์ด (เรอัล มาดริด), เบน ไวท์ (ไบรท์ตัน), อารอน แรมสเดล (เชฟฯยูไนเต็ด) , มิก้า บีเร็ธ (ฟูแล่ม), นูโน่ ตาวาเรส (เบนฟิก้า) และ แซมบี้ โลคองก้า (อันเดอร์เลช) ซึ่งมีค่าตัวรวมกันสูงถึง 147 ล้านยูโร หรือประมาณ 5,640 ล้านบาทเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม อาร์เตต้า พา อาร์เซน่อล ออกสตาร์ทฤดูกาลใหม่ด้วยการแพ้ในลีก 3 เกมรวดต่อ เบรนท์ฟอร์ด, เชลซี และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งทำให้อนาคตของโค้ชหนุ่มชาวสเปนในทัพ “ไอ้ปืนใหญ่” ถูกตั้งคำถามมากขึ้น

อาร์เตต้า คลายความกดดันลงไปได้บ้างหลังพา อาร์เซน่อล ทำผลงานกระเตื้องกลับมาชนะ 2 เกมติดต่อกันในเกมกับ นอริช ซิตี้ และ เบิร์นลีย์ แต่ก็ไม่มีใครรับประกันได้ว่า เทรนเนอร์วัย 39 ปี จะทำผลงานสม่ำเสมอได้ตลอดรอดฝั่ง และเจ้าตัวก็มีแววโดนปลดได้ตลอดเวลา

โค้ช

2. ซิสโก้ มูนยอซ (วัตฟอร์ด)

มูนยอซ นำ วัตฟอร์ด ประเดิมเกมแรกได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการเปิดบ้ายเอาชนะ แอสตัน วิลล่า 3-2 แต่หลังจากนั้น เขากลับพาพลพรรค “แตนอาละวาด” ฟอร์มตกแบบดื้อๆด้วยการพ่าย 3 เกมรวดต่อ ไบรท์ตัน, ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ และ วูล์ฟแฮมปตัน วันเดอเรอร์ส ก่อนจะกลับมาคว้าชัยในเกมกับ นอริช

ขณะเดียวกัน การที่ วัตฟอร์ด เปลี่ยนกุนซือไปแล้ว 7 รายนับตั้งแต่ปี 2015 นั้น มันยิ่งตอกย้ำให้เห็นอนาคตของ มูนยอซ มากขึ้นว่า หากเขาทำผลงานได้น่าผิดหวังต่อไปอีก 1-2 เดือน อนาคตของเจ้าตัวในทัพ “แตนอาละวาด” ก็อาจจบเร็วกว่าที่คิดก็เป็นได้

 กุนซือ

3. สตีฟ บรูซ ( กุนซือ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด)

บรูซ ไม่ใช่คนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดจากแฟนบอล นิวคาสเซิ่ล หลังจากเข้ามารับงานต่อจาก ราฟาเอล เบนิเตซ อดีตเทรนเนอร์ชาวสเปนเมื่อปี 2019 และสาวก “ทูน อาร์มี่” หลายคนก็คิดว่า เขาไม่เหมาะสมที่จะอยู่ในตำแหน่งจนถึงตอนนี้

ผู้จัดการทีมชาวอังกฤษวัย 60 ปี พา นิวคาสเซิ่ล ประเดิม 5 เกมแรกในพรีเมียร์ลีกด้วยการไม่เจอกับชัยชนะเลย แต่ ไมค์ แอชลีย์ เจ้าของสโมสร “สาลิกาดง” ก็ไม่ได้กระตือรือร้นที่จะไล่ บรูซ ออกจากตแหน่งแบบทันที

อย่างไรก็ตาม การที่ นิวคาสเซิ่ล ทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวังต่อเนื่อง บวกกับแรงกดดันจากแฟนบอลก็อาจทำให้ แอชลีย์ ต้องพิจารณาอนาคตของ บรูซ อย่างจริงจังอีกครั้งในเร็วๆนี้

 กุนซือ

4. ปาทริค วิเอร่า (คริสตัล พาเลซ)

อดีตกองกลางทีมชาติฝรั่งเศสกัปตันทีม อาร์เซน่อล ได้รับการคาดหมายว่า จะเข้ามาพลิกสไตล์การเล่นอันน่าเบื่อของ พาเลซ หลังจากเช้ามารับงานต่อจาก รอย ฮอดจ์สัน อดีตนายใหญ่ชาวอังกฤษที่ประกาศวางมือไปเมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม วิเอร่า พา พาเลซ พ่ายรวด 4 เกมแรกในพรีเมียร์ลีกให้กับ เชลซี, เบรท์ฟอร์ด และ เวสต์แฮม ยูไนตเต็ด ก่อนจะกระเตื้องเล็กน้อยด้วยการเอาชนะ สเปอร์ส แต่ก็ถูก ลิเวอร์พูล เปิดรัง แอนฟิลด์ ไล่ถล่มไปอีก 3-0

 วิเอร่า กำลังเจอสถานการณ์กดดันอย่างหนัก ซึ่งจะว่ากันตามตรงผลงานของเขาดูจะแย่กว่าในยุคของ ฮอดจ์สัน เสียอีก และในช่วงต่อจากนี้น่าจับตามองอย่างยิ่งว่า ฟอร์มการเล่นของ พาเลซ จะเป็นอย่างไรต่อไป ซึ่งฟอร์มในสนามของพลพรรค “ดิ อีเกิ้ลส์” มันก็ส่งผลต่ออนาคตของโค้ชเฟรนช์แมนเช่นกัน

 กุนซือ

5. ราล์ฟ ฮาเซนฮุทเทิ่ล ( กุนซือ เซาธ์แฮมป์ตัน)

จุดจบที่ย่ำแย่ของ เซาแธมป์ตัน ในฤดูกาล 2020/21 มันส่งผลกระทบต่อพวกเขามาจนถึงปีนี้ โดยเมื่อซีซั่นที่แล้ว ฮาเซนฮุทเทิ่ล พาพลพรรค “นักบุญ” เก็บชัยชนะได้เพียง 4 จาก 21 เกมหลังสุด และในฤดูกาลนี้ 5 เกมแรกพวกเขายังไม่เจอกับชัยชนะเลยแม้แต่เกมเดียว

ขณะเดียวกัน แดนนี่ อิงส์ กองหน้าตัวหลักก็โดนปล่อยให้กับ วิลล่า ไปแล้ว ซึ่งส่งผลกระทบต่อเกมรุกของ เซาแธมป์ตัน อย่างเห็นได้ชัด และฟอร์มการเล่นในสนามจองพวกเขาก็ยังไม่สมำเสมอ งแน่นอนว่า ฮาเซนฮุทเทิ่ล ก็อยู่ในข่ายที่จะโดนเด้งเช่นกันหาก “นักบุญ” ไม่สามารถพลิกฟอร์มกลับมาได้

, , , , , , , ,

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *