คริส วิลเดอร์ กับโอกาสครั้งใหม่

คริส วิลเดอร์ อดีตผู้จัดการทีมชาวอังกฤษของ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ทีมใน วงการฟุตบอลต่างประเทศ เปิดใจถึงช่วงเวลา 5 ปีที่เขาทำหน้าที่กุมบังเหียนพลพรรค “ดาบคู่” รวมถึงความกดดันกับการทำงานในพรีเมียร์ลีก และการมองหาสโมสรใหม่ในอนาคต

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา เชฟฟิลด์ อยู่ในอันดับสุดท้ายของตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก ซึ่ง วิลเดอร์ ก็รับผิดชอบผลงานที่น่าผิดหวังด้วยการยินยอมยกเลิกสัญญากับสโมสรแม้ว่าก่อนหน้านี้ทั้ง 2 ฝ่ายจะเพิ่งขยายสัญญาฉบับใหม่ออกไปอีก 4 ปีก็ตาม

หลังจบฤดูกาลที่แล้วมันก็เป็นไปตามคาดที่ เชฟฟิลด์ ต้องตกชั้นลงมาเล่นในศึกเดอะ แชมเปี้ยนชิพ และตอนนี้พวกเขาก็ได้ สลาวิซา โยคาโนวิช โค้ชชาวเซอร์เบีย เข้ามาคุมทีมแทน ขณะที่ วิลเดอร์ ก็กำลังว่างงาน และมองหาทีมใหม่ แต่ตอนนี้เขาก็ภูมิใจกับผลงานเก่าที่พา “ดาบคู่” เลื่อนชั้นจาก ลีก วัน มาเล่นในพรีเมียร์ลีกสำเร็จ

คริส วิลเดอร์

ความภาคภูมิใจของ คริส วิลเดอร์

อดีตนายใหญ่ เชฟฟิลด์ เริ่มกล่าวว่า “ผมภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้นำสโมสรกลับไปเล่นในพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง ผมมีประสบการณ์ที่เหลือเชื่อกับทีม ซึ่งปีแรกในลีก วัน ผมพาทีมเก็บได้ 100 คะแนน จากนั้นก็ได้เลื่อนขั้นมาเล่นในเดอะ แชมเปี้ยนชิพ

“หลังจากนั้นเราก็ค่อยๆพัฒนาทีมจนได้ขึ้นมาเล่นในพรีเมียร์ลีก และถึงแม้เราจะเจอประสบการณ์ที่ไม่ดีนักเมื่อปีที่ผ่านมา แต่สโมสรแห่งนี้ก็มีความผูกพันกันอย่างมากระหว่างทุกส่วนของสโมสร ซึ่งผมรู้สึกได้เพราะว่า ผมยังอยู่ในเมืองนี้ เรานำความภาคภูมิใจบางอย่างกลับเข้าสู่ตราสัญลักษณ์ของสโมสรได้”

“ผมคิดว่าวิธีที่ดีที่สุดที่ผมสามารถอธิบายได้ก็คือ ทุกเกมในพรีเมียร์ลีกมันเป็นเหตุการณ์สำคัญทั้งหมด  ก่อนหน้าเกม ระหว่างเกม หลังจากจบเกม ผู้คนมีความคิดเห็นเกี่ยวกับคุณ ผู้เล่น และทีมของคุณ พวกเขาจะวิเคราะห์หลังจากที่คุณจบเกมแล้ว พวกเขาพิจารณาถี่ถ้วนมาก”

“เรามีฤดูกาลแรกที่ยอดเยี่ยม ดังนั้น จึงมีการพูดถึงแง่บวกมากมายเกี่ยวกับเรา มันเป็นฤดูกาลที่วิเศษ แต่โชคไม่ดีที่เราไม่สามารถรักษาผลงานยอดเยี่ยมแบบนั้นเอาไว้ได้”

ขณะเดียวกัน วิลเดอร์ ยังคงพอในกับผลงานของตัวเองกับ เชฟฟิลด์ โดยระบุว่า “แน่นอน มีบางสถานการณ์ที่ผมทำได้ และควรจะจัดการให้แตกต่างออกไป ในใจผมรู้ว่า

ผมไม่มีอีโก้พอที่จะคิดว่า ผมทำทุกอย่างถูกต้อง ความสัมพันธ์ แนวทางการสื่อสาร การเซ็นสัญญาบางอย่างที่เราทำ บางสิ่งที่เมื่อมองย้อนกลับไป ผมทำอย่างอื่นที่อาจจะไม่ดีนัก”

“แต่ในระหว่างการต่อสู้ที่ดุเดือด คุณอยู่ในความกดดัน และคุณต้องตัดสินใจแบบนั้น ผมอยากจะคิดว่า เพื่อสโมสรแห่งนี้ผมทำถูกมากกว่าทำผิด แต่นั่นเกิดขึ้นในทุกอย่าง ในทุกความสัมพันธ์ หรือทุกด้านของงานที่คุณทำอยู่ ไม่มีใครทำงานได้อย่างถูกต้องตลอดเวลาหรอก”

คริส วิลเดอร์

ต้องการสโมสรที่มีความกระหาย

วิลเดอร์ เคยเป็นเด็กลูกหม้อของ เชฟฟิลด์ และได้เล่นในทีมชุดใหญ่ถึง 2 ห้วงเวลา และยังได้เป็นกุนซือนานถึง 5 ปี ซึ่งทำให้เขาผูกพันกับสโมสรแห่งนี้มาก และตอนนี้ในวัย 53 ปี เขาก็อยากจะคุมทีมที่มีประเพณี ความกระหาย และแรงขับดันที่เหมือนกับ “ดาบคู่”

วิลเดอร์ ระบุว่า “ผมไม่คิดว่าจะมีสโมสรหรืองานที่สมบูรณ์แบบหรอก ในทุกๆงานมันจะมีสถานการณ์ที่มันไม่ตรงตามที่คุณต้องการเสมอ แต่คุณต้องการทำงานกับคนที่มีความคิดไปในทิศทางเดียวกัน และมันมักจะเป็นเรื่องยากที่คุณจะได้งานที่สมบูรณ์แบบ เพราะทุกสโมสรแนวทางของตัวเอง”

“เว้นแต่คุณจะเป็น เดวิด เบ็คแฮม ที่ อินเตอร์ ไมอามี ซึ่งคุณสามารถสร้างสโมสรของคุณเองได้ แต่คุณยังต้องจัดการเรื่องการบริหารสโมสรของคุณ โดยปกติคุณจะเดินเข้าไปในสโมสรที่ไม่เพรียบพร้อม ซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่า งานต่อไปผมจะต้องเจอสถานการณ์แบบนั้น ถ้าผมเดินเข้าไปในสโมสรที่อยู่ในตำแหน่งที่ไม่ดีนัก ผมก็จำเป็นต้องใช้ความสามารถของตัวเองเพื่อเปลี่ยนสิ่งนั้น”

“คุณต้องการมีส่วนร่วมในสโมสรที่เชื่อมโยงกัน มีความหลงใหล และมีแรงผลักดัน และผู้คนมากมายสามารถเข้ามามีส่วนร่วมได้ ไม่ว่าจะเป็นกองเชียร์ เจ้าของสโมสร ผู้จัดการทีม นักเตะ ผมสนุกกับการเดินทางของผมจริงๆ”

คริส

คริส วิลเดอร์ พร้อมเปิดรับโอกาส

ในเวลานี้ วิลเดอร์ พร้อมเผชิญกับความท้าทายใหม่แล้ว ซึ่งเขาก็ไม่ได้กำหนดว่า จะต้องทำงานในอังกฤษต่อไป หรือไปคุมทีมในต่างประเทศ เพราะทั้งหมดล้วนแต่เป็นความแปลกใหม่ที่อดีตกุนซือ เชฟฟิลด์ ต้องการอยู่เสมอ

วิลเดอร์ กล่าวว่า “ผมสนุกกับการทำงานในอังกฤษ แต่ผมจะเปิดรับโอกาสที่แตกต่างเช่นกัน ยกตัวอย่าง อเมริกา ทำให้ผมทึ่ง จริงๆ แล้วทัศนคติของคนอเมริกันที่มีต่อกีฬา และธุรกิจยอดเยี่ยมมากๆ พวกเขามีความเป็นมืออาชีพมากๆ และกำลังจะได้เป็นเจ้าภาพในศึกฟุตบอลโลกในปี 2026”

“คุณมองทุกโอกาสตามมูลค่า ประวัติศาสตร์ การสนับสนุน โครงสร้างพื้นฐาน สิ่งอำนวยความสะดวก ผมรู้สึกว่า ผมมีประสบการณ์เพียงพอแล้วที่จะคัดเลือกงานให้เหมะกับตัวเอง และหากมีสโมสรในลีก วัน ติดต่อมา ผมคิดว่า ตัวเองมีความทะเยอทะยานมากพอที่จะพาพวกเขาเลื่อนชั้นไปเล่นในพรีเมียร์ลีก”

“ผมอยากทำงานในพรีเมียร์ลีกจริงๆ รวมถึง ศึกเดอะแชมป์เปี้ยนชิพ ก็เช่นกัน ในอังกฤษลีกทุกระดับยอดเยี่ยมจริงๆ แต่มันยากมากที่ผู้จัดการทีมชาวอังกฤษจะได้รับโอกาสจากสโมสรชั้นนำ ผมเข้าใจดี โดยทั่วไปแล้วคุณต้องรับงานกับสโมสรที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมา” อดีตกุนซือ “ดาบคู่” กล่าวทิ้งท้าย

, ,

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *