ซิสโก้ มูนยอซ ผู้คุมฝูง “แตนอาละวาด”

ซิสโก้ มูนยอซ โค้ชชาวสเปนของ วัตฟอร์ด ทีมน้องใหม่ในพรีเมียร์ลีก และ วงการฟุตบอลต่างประเทศ ถือเป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรง เขาอายุเพียง 40 ปี และมีดีกรีพา ดินาโม ทบิลิซี คว้าแชมป์ลีกสูงสุดของจอร์เจียมาแล้ว ก่อนจะโยกมาคุม “แตนอาละวาด” เมื่อเดือนธันวาคมปี 2020

มูนยอซ พา วัตฟอร์ด เลื่อนชั้นกลับมาเล่นในพรีเมียร์ลีกได้สำเร็จหลังจากตกชั้นไป 1 ปี และในเกมเปิดฤดูกาลนั้น นายใหญ่เลือดกระทิงดุก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยพาพลพรรค “แตนอาละวาด” เปิดบ้ายเอาชนะ แอสตัน วิลล่า 3-2 และตอนนี้เขาก็เปิดเผยถึงความสำเร็จในช่วงที่ผ่านมากับทีม

ซิสโก้ มูนยอซ

ความสำเร็จของ ซิสโก้ มูนยอซ

มูนยอซ เริ่มเล่าว่า “การเลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในพรีเมียร์ลีกกับ วัตฟอร์ด เป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่ฟุตบอลจะมอบให้ผมได้ แต่มันเป็นฤดูกาลแห่งความเหงาโดยไม่ได้เจอลูกๆ เลยเป็นเวลา 6 เดือน และกิจวัตรประจำวันของคุณคือ เดินทางไปกลับระหว่างบ้านและที่ทำงาน แต่สุดท้ายมันก็คุ้มค่า”

“เราแสดงเจตจำนง และความทะเยอทะยานที่จะกลับมาเล่นในพรีเมียร์ลีก จากนั้น ผู้เล่นของเราก็ตั้งใจมาก จากมุมมองของผม พวกเขาต้องการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ และเรียนรู้ นั่นเป็นสิ่งที่ทรงพลังมากในสโมสรแห่งนี้”

“ผมพยายามจะเป็นตัวผมเองทั้งส่วนที่ดี และส่วนที่ไม่ดีของผม ผมอยู่เพื่อฟุตบอล ผมไม่ชอบคำว่า ‘เสพติด’ แต่ผมต้องการฟุตบอล และนั่นเป็นคำที่ใกล้เคียงที่สุดที่ผมต้องอธิบายความสัมพันธ์ของผมกับมันได้ ผมชอบไปทำงาน และชอบเป็นพิเศษเมื่อมีคนมาทำงานอย่างมีความสุข”

 นั่นเป็นพื้นฐาน และความต้องการที่ไม่สามารถซื้อได้สำหรับคนจำนวนมาก ผมเป็นนักฟุตบอลมาทั้งชีวิต ดังนั้น ผมรู้ว่ามันยากแค่ไหน ผมปฏิบัติต่อพวกเขาตามที่ผมต้องการได้รับการปฏิบัติต่อตัวเอง พวกเขาเป็นเพื่อนร่วมทีมของผม และพวกเขาก็เป็นผู้เล่นของผมด้วย”

มูนยอซ เคยเป็นอดีตนักฟุตบอลที่เล่นให้กับหลายสโมสรในสเปนอาทิ บาเลนเซีย, เรอัล เบติส และ เลบันเต้ โดยเจ้าตัวมีประสบการณ์มากมายทั้งในแง่ของความสำเร็จ และล้มเหลว ซึ่งทำให้เขานำมาปรับใช้ในการเป็นผู้จัดการทีม

เทรนเนอร์ วัตฟอร์ด กล่าวต่อว่า “ไม่ต้องสงสัยเลย ผมโชคดีมาก ผมเคยคว้าแชมป์ลา ลีกา ในปี 2004 ผมเคยคว้าแชมป์ยูฟ่า คัพ และได้เล่นในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่ผมก็เคยตกชั้นด้วยเช่นกัน ดังนั้น ผมมีความรู้สึกดีที่สุดและแย่ที่สุดในวงการฟุตบอล

 “หากคุณมอบตัวเองให้กับทีม คุณก็จะบรรลุสิ่งที่ต้องการ แต่คุณต้องทิ้งส่วนหนึ่งของตัวเองไว้ข้างหลังเพื่อที่จะก้าวไปข้างหน้าต่อไป ถ้าผมได้เรียนรู้อะไรจากช่วงหลายปีที่ผ่านมาในวงการฟุตบอล ก็แค่นั้นแหละ”

“ผมเคยร่วมงานกับโค้ชอย่าง ราฟาเอล เบนิเตซ มาแล้ว เขาทำงานอย่างมาขั้นตอน และมีรายละเอียดเยอะมาก นั่นคือ ราฟา เขาเป็นเหมือนครูสำหรับโค้ชทุกคน และมันจะเป็นช่วงเวลาแห่งอารมณ์ที่จะเผชิญหน้ากับ เอฟเวอร์ตัน ที่เขาคุมทีมอยู่ในฤดูกาลนี้ เขาเป็นคนพิเศษสำหรับผม และเขาสอนผมในสิ่งที่ผมไม่เคยคิดมาก่อน”

ซิสโก้ มูนยอซ

ย้ายไปเล่นฟุตบอล และเริ่มต้นอาชีพกุนซือในจอร์เจีย

สิ่งที่เซอร์ไพรส์เกิดขึ้นเมื่อปี 2011 หลังจาก มูนยอซ ตัดสินใจข้ามฟากไปเล่นฟุตบอลกับ ดินาโม ทบิลิซี ในจอร์เจีย และเขาก็ได้เริ่มต้นอาชีพกุนซือที่นั่นก่อนจะสร้างชื่อด้วยการพาสโมสรคว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้สำเร็จ

 มูนยอซ เล่าต่อว่า “ผมใช้เวลา 12 ปีในสเปน และกำลังมองหาบางสิ่งที่แตกต่างออกไป สำหรับการสูญเสียคุณภาพเล็กน้อยมันน่าทึ่งมาก ผมชอบมันนะ ผมได้เรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมอื่น และชื่นชมสิ่งต่าง ๆ ที่ผมมองข้ามไป และผมก็จะไม่เป็นคนเดิมอีกต่อไปหากไม่มีประสบการณ์เหล่านั้น”

“ผมเป็นหนี้ ดินาโม ทบิลิซี มาก เพราะพวกเขาให้โอกาสผมในการเริ่มต้นอาชีพการเป็นโค้ชที่นั่น และมันก็ยังคงเป็นสถานที่ที่พิเศษมากสำหรับผม ผมเปลี่ยนจากการคว้าแชมป์ลีกจอร์เจียมาสู่การทำงานในศึกเดอะ แชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ และจากนั้นก็ก้าวเข้าสู่ พรีเมียร์ลีก ในเวลาไม่กี่เดือน มันบ้ามากๆ”

ซิสโก้

เป้าหมายของ ซิสโก้ มูนยอซ กับ วัตฟอร์ด ในพรีเมียร์ลีกปีนี้

เมื่อถามถึงเป้าหมายของ วัตฟอร์ด กับการลุยพรีเมียร์ลีกปีนี้ อดีตนายใหญ่ ดินาโม ทบิลิซี แสดงความคิดเห็นว่า “เราต้องมองไปทีละเกม ทุกสัปดาห์ และเกมที่สำคัญที่สุดคือ การเปิดสนามกับ แอสตัน วิลล่า ที่เราสามารถเอาชนะพวกเขาได้”

 “คุณไม่สามารถคิดไปข้างหน้าถึงเกมที่จะเจอกับทีมอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เชลซี, ลิเวอร์พูล หรือใครก็ได้ ไม่เลย คุณต้องไม่คิดแบบนั้น คุณต้องคิดแต่ทีมที่อยู่ตรงหน้าที่คุฯจะต้องเผชิญหน้าด้วยในเกมถัดไปเท่านั้น”

 ขณะเดียวกัน มูนยอซ ยังเปิดเผยถึงความสัมพันธ์ในการทำงาร่วมกับครอบครัว ปอซโซ่ เจ้าจองสโมสร วัตฟอร์ด ที่ขึ้นชื่อเรื่องการปลดโค้ชว่า “ผมชอบทำงานกับพวกเขา และผมมีความสุขมากที่นี่ ถ้าวันหนึ่งมีบางอย่างเกิดขึ้น ผมจะมีเพียงคำขอบคุณสำหรับพวกเขาที่เชื่อในตัวผม  ทั้งหมดที่ผมทำได้คือ ทำงานอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้ ผมไม่สามารถทำงานหนักกว่านี้อีกแล้ว อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น มันเป็นเรื่องของอนาคต”

“ตอนนี้การได้แฟนบอลกลับมาในสนามมันดีกับเรามากๆ เราสามารถสนุกไปด้วยกันอีกครั้ง และทุกๆ อย่างที่มีความหมายมาก แม้จะมีทุกสิ่งที่เราทำสำเร็จในปีที่แล้ว แต่ผมรู้ว่าหลังจากนี้ไปมันจะแตกต่างจากทุกอย่างที่ผมเคยสัมผัสมาก่อน การกลับมาเล่นในพรีเมียร์ลีกสำหรับพวกเขา และเราคือความฝันที่เราเคยทำเมื่อปีที่แล้ว เราไม่สามารถรอได้ เราจะสนุกกับช่วงเวลานั้นไปพร้อมกัน” กุนซือ วัตฟอร์ด กล่าวทิ้งท้าย

, , ,

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *