เมื่อยุคทองของ มาดริด & บาร์ซ่า กำลังสิ้นสุด

มาดริด บาร์ซ่า 2 สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกลาลีกา สเปน และ วงการฟุตบอลต่างประเทศ ถือเป็นทีมที่แทบจะไม่มีใครเทียบเท่าได้เลยในระหว่างปี 2009-2018 แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า พวกเขากำลังกลายเป็นทีมที่ตามหลังคู่แข่งไปแล้ว

มาดริด ภายใต้การคุมทัพของ ซีเเดีน ซีดาน เทรนเนอร์ชาวฝนรั่งเศส เคยคว้าแชมป์ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ถึง 3 สมัยติดต่อกันในระหว่างปี 2016-2018 ส่วน บาร์เซโลน่า ภายใต้การนำของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือชาวสเปนก็กวาดแชมป์อย่างนับไม่ถ้วนในช่วงปี 2008-2011

อย่างไรก็ตาม เมื่อมองไปที่ขุมกำลังของ มาดริด ในฤดูกาลนี้บรรดาแข้งหลักหลายคนมาอายุมากแล้วไม่ว่าจะเป็น ลูก้า โมดริช มิดฟิลด์โครแอต 35 ปี, เซอร์คิโอ รามอส กองหลังกัปตันทีม 35 ปี, คาริม เบนเซม่า หัวหอกชาวฝรั่งเศส 33 ปี , มาร์เซโล่ แบ็คซ้ายชาวบราซิล 32 ปี และ โทนี่ โครส มิดฟิลด์ทีมชาติเยอรมัน 31

เหตุผลที่ มาดริด บาร์ซ่า ล้มเหลว

นอกจากนี้ การที่ มาดริด ปล่อยตัว คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ปีกซุเปอร์สตาร์ให้กับ ยูเวนตุม เมื่อซัมเมอร์ปี 2018 นั้น จนถึงตอนนี้พวกเขายังไม่สามารถหาคนมาแทนได้แบบเหมาะสมเลย โดย เอเด็น อาซาร์ ปีกชาวเบลเยียม ที่ซื้อมาจาก เชลซี เพื่อเข้ามาทดแทนนั้น ก็อายุ 30 ปี แล้ว และฟอร์มก็ไม่พีคเหมือนก่อน

ขณะเดียวกัน มาดริด ตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย 2 ครั้ง และตกรอบรองชนะเลิศในฟุตบอลยุโรป 1 ครั้ง หลังจากพวกเขาปล่อย โรนัลโด้ ออกจากสโมสร ซึ่งเห็นได้ชัดว่า การขาดดาวเตะโปรตุเกสส่งผลต่อขุมกำลัง “ราชันชุดขาว” อยู่มากเช่นกัน

ตลอด 2-3 ฤดูกาลที่ผ่านมาในฟุตบอลยุโรปนั้น ทีมจากอังกฤษ และ เยอรมัน กลายเป็นทีมที่น่ากลัว และเข้ารอบชิงฯอยู่เป็นประจำ โดยปีที่ผ่านมา บาเยิร์น มิวนิค ก็คว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จ และในปีนี้เป็น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ เชลซี ต้องพบกันในนัดชิงฯ

ในเกมรอบสุดท้ายที่ มาดริด พบกับ เชลซี เมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมานั้น ซีดาน เลือกนักเตะตัวจริงโดยมีนักเตะเพียง 3 คนเท่านั้นที่มีอายุต่ำกว่า 28 ปี และนั่นแสดงให้เห็นถึงค่าเฉลี่ยอายุผู้เล่น “ราชันชุดขาว” ที่มากขึ้น

ความผิดพลาดของ มาดริด บาร์ซ่า

ส่วน บาร์เซโลน่า ได้เงิน 222 ล้านยูโรจากการขาย เนย์มาร์ กองหน้าทีมชาติบราซิลให้กับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ไปเมื่อซัมเมอร์ปี 2017 แต่พวกเขาใช้เงินเกินไปอีกเท่าตั้วในการคว้านักเตะใหม่อย่าง เฟลิเป้ คูตินโญ่, อุสมาน เดมเบเล่ และ อองตวน กรีซมันน์ เข้ามาเสริมทัพ

คูตินโญ่ และ เดมเบเล่ สอบตกอย่างสิ้นเชิงในถิ่นคัมป์ นู ขณะที่ กรีซมันน์ ก็ยังทำผลงานได้เสมอตัว และล่าสุดการที่ บาร์เซโลน่า แต่งตั้ง โรนัลด์ คูมัน โค้ชชาวดัตช์ เข้ามาคุมทัพเมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมานั้น หมายความว่า พวกเขาต้องใช้เวลาในการสร้างทีมใหม่

นอกจากนี้ บาร์เซโลน่า ก็ยอมปล่อยกองหน้าคนสำคัญอย่าง หลุยส์ ซัวเรซ ไปให้กับ แอตเลติโก มาดริด ไปเมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา และก็ยังหาหัวหอกคนใหม่ที่มีคุณภาพเท่ากันมาทดแทนไม่ได้เลยจนถึง ณ เวลานี้ ส่วน ลิโอเนล เมสซี่ จอมทัพอาร์เจนไตน์ก็ยังอนาคตไม่ชัดเจน

รายจ่ายมหาศาล

มาดริด และ บาร์เซโลน่า นั้น ถือเป็น 2 สโมสรที่ต้องจ่ายค่าเหนื่อยผู้เล่นในทีมมากอันดับแรกๆของ วงการฟุตบอลต่างประเทศ ซึ่งหากเปรียบเทียบกับทีมมหาเศรษฐีอย่าง เชลซี, แมนฯ ซิตี้ และ เปแอสเช นั้น ทีมดังกล่าวแทบไม่มีปัญหาเรื่องสภาะการเงินเลย

ส่วนแนวทางการบริหารทีมของ 2 สโมสรแชมป์ยุโรปใน 2 ปีที่ผ่านมาอย่าง ลิเวอร์พูล และ บาเยิร์น ก็สามารถยืนได้ด้วยขาตัวเอง และมีแนวทางการทำธุรกิจที่ชัดเจนซึ่งแทบไม่ขาดทุนเลยในตลอดหลายๆปีที่ผ่านมา

มาดริด และ บาร์เซโลน่า อาจถึงเวลาแล้วที่ต้องปรับโครงสร้างของสโมสรใหม่เพื่อพาตัวเองกลับมาสู่ในจุดสูงสุดของวงการฟุตบอลอีกครั้ง