หลังทำผลงานสุดยอดจากการคว้าแชมป์กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี มาถึง 9 สมัยติดต่อกันในระหว่างปี 2011-2020 แต่ตอนนี้ “เจ้าม้าลาย” ยูเวนตุส สโมสรดัง แห่ง วงการฟุตบอลต่างประเทศ ไม่สามารถคว้าแชมป์มาได้ 2 ปีติดต่อกันแล้ว
ขณะเดียวกัน ในซีซั่นนี้ ยูเวนตุส ฟอร์มตกอย่างหนัก และทำลงานได้อย่างย่ำแย่ด้วยการหล่นมารั้งอันดับ 5 ในตารางคะแนน โดยมีแต้มตามหลัง “งูใหญ่” อินเตอร์ ทีมจู่งมากถึง 11 คะแนน ซึ่งดูเหมือนว่า จะหมดโอกาสลุ้นแชมป์ไปอีกปีค่อนข้างแน่แล้ว
ยูเวนตุส ภายใต้การคุมทัพของเทรนเนอร์ มัสซีมีเลียโน อัลเลกรี กำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากอย่างหนัก และจำเป็นต้องถ่ายเลือดครั้งใหญ่เพื่อพาตัวเองกลับมาทวงความสำเร็จในวงการฟุตบอลแดนมะกะโรนีอีกครั้ง
1. ยูเวนตุส สโมสรดัง ต้องค้นหาสไตล์การเล่นให้เหมาะสับ
นักเตะ ยูเวนตุส เต็มใจทำงาน และต่อสู้เพื่ออดีตเจ้านายเก่าที่หวนกลับมาอีกครั้งอย่าง อัลเลกรี ซึ่งเห็นได้จากผลการแข่งขันที่ดีขึ้นตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาหลังจากที่พวกเขาเก็บชัยชนะ 6 เสมอ 2 และเจอความพ่ายแพ้ครั้งเดียวคือ ในเกมโคปปา อิตาเลีย กับ อินเตอร์
ขณะเดียวกัน ตลอด 7 เกมหลังสุดในเซเรีย อา ยูเวนตุส ไม่แพ้ใครเลย แต่ฟอร์มการเล่นของพวกเขาก็ไม่ดีดีนัก โดยเกมที่เอาชนะได้ส่วนใหญ่พลพรรค “เจ้าม้าลาย” อาศัยการฉกฉวยข้อผิดพลาดของผู้เล่นฝ่ายตรงข้าม
อัลเลกรี ยังไม่สามารถค้นหาแผงกองกลาง และแบ็คโฟร์ที่ลงตัวได้เลย และนั่นคือ สิ่งที่เขาต้องทำโดยเร็วที่สุดเพื่อวางรากฐานสำหรับอนาคต
2. การถ่ายเลือดครั้งใหม่ของสโมสร
ยูเวนตุส ใช้เงินไปหลายร้อยล้านยูโรหลังพา คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ปีกซุเปอร์สตาร์ชาวโปรตุเกสเข้ามาร่วมทีมเมื่อ 4 ปีที่แล้ว และยังไม่รวมถึงนักเตะที่คว้าตัวเข้ามาแต่ไม่อยู่ในแผนการทำทีมอย่าง เอมเร่ ชาน, ดั๊กลาส คอสต้า และ อารอน แรมซีย์ ซี่งแต่ละคนมีค่าเหนื่อยมหาศาล
อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ โรนัลโด้ กลับไปเล่นกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แล้ว ชาน, คอสต้า และ แรมซีย๋ ก็น่าจะถูกปล่อยตัวออกไปในซัมเมอร์นี้ ซึ่งบางทีมันถึงเวลาที่ อัลเลกรี ต้องมองหานักเตะใหม่เพื่อสร้างทีมสำหรับอนาคต
รายงานข่าวระบุว่า ในอีก 18 เดือนข้างหน้านั้น มีนักเตะในทีมชุดใหญ่ของ ยูเวนตุส จะหมดสัญญาพริ้มกันถึง 8 ราย และมันก็ถึงช่วงสำคัญที่ “เจ้าม้าลาย” ต้องปฏิวัติขุมกำลังอีกครั้ง
3. ตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตของ เปาโล ดิบาล่า
ปัจจุบัน ดิบาล่า รับค่าเหนื่อยกับ ยูเวนตุส จำนวน 13.5 ล้านยูโรต่อปี และมีรายงานว่า เขาต้องการเพิ่มค่าแรงเป็น 15 ล้านยูโร (บวกโบนัส) ในสัญญาฉบับใหม่จนถึงปี 2026 โดยตอนนี้เขาอายุ 28 ปีแล้ว และตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นมา เขายิงได้เพียง 41 ประตูจาก 133 เกมให้กับ “เจ้าม้าลาย”
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า ยูเวนตุส เลื่อนการเจรจาสัญญาสัญญาฉบับใหม่กับหัวหอกชาวอาร์เจนไตน์ไปจนถึงเดือนหน้า และเอเย่นต์ของเขาพร้อมที่จะพูดคุยกับสโมสรอื่นๆ และดูเหมือนว่า จะมีหลายทีมที่อยากได้ตัว ดิบาล่า ไปเสริมทัพ
อย่างไรก็ตาม ทีสโมสรในยุโรปไม่เกิน 10 แห่งที่สามารถจ่ายค่าเหนื่อยได้มากขนาดนั้นให้กับ ดิบาล่า และบางทีหากมีทีมที่ยื่นข้อเสนอที่เหมาะสมเข้ามา ยูเวนตุส ก็ควรจะรีบพิจารณาอย่างละเอียด
4. ใช้ช่วงเวลาที่ เฟเดริโก เคียซ่า บาดเจ็บให้เป็นประโยชน์
แน่นอนว่า คิเอซ่า คือ ปัจจุบัน และอนาคตของ ยูเวนตุส และอาการบาดเจ็บที่เอ็นไข้วหน้าของเขาเป็นปัญหาใหญ่ แต่ ยูเว่ ก็มีขุมกำลังเชิงลึกมากมายในแนวรุกอย่าง ดิบาล่า และ อัลบาโร่ โมราต้า หัวหอกชาววสเปน รวมถึง มอนเซ่ คีน ดาวยิงชาวอิตาลี
มันสำคัญมากที่ ยูเวนตุส จะต้องเตรียมพร้อมสำหรับศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า พวกเขาจะต้องรอ คิเอซ่า กลับมา และบางที โมราต้า, ดิบาล่า และ คีน อาจจะเป็นทางออกที่ยอดเยี่ยมของพวกเขาก็เป็นได้
5. การยืมตัว และดึงนักเตะจากอคาเดมี่ขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่
เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ยูเวนตุส ให้ความสำคัญกับทีมเยาวชน และทีมชุดบีอย่างมาก ซึ่งนักเตะหลายๆคนได้มีโอกาสก้าวมาเล่นในทีมขชุดใหญ่ แต่ก็ยังไม่ได้อยู่ในทีมแบบสม่ำเสมอมากนัก ขณะที่ทีมชุดอายุต่ำกว่า 23 ปีของพวกเขาตกไปอยู่ในดิวิชั่น 3 แล้ว
ขณะเดียวกัน การยืมตัวนักเตะในตลาดนักเตะเดือนมกราคมนี้ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับ ยูเวนตุส เช่นเดียวกัน โดยก่อนหน้านี้ “เจ้าม้าลาย” ได้ลงทุนทรัพยากรมหาศาลในอคาเดมี่ของพวกเขา แต่ก็ยังดูไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร
ไม่มีใครคาดคิดว่า อคาเดมี่เยาวชนของ ยูเว่ จะเหมือนกับ บาร์เซโลน่า ที่สร้างดาวดังมาประดับวงการมากมาย แต่ ยูเวนตุส ก็มีดาวรุ่งที่น่าสนใจอย่าง มาติอัส ซูเล่ ปีกชาวอาร์เจนไตน์เจ้าของฉายา “นิว ดิ มาเรีย” ที่รอโอกาสแจ้งเกิดอยู่