อิบราฮิมา โกนาเต้ กำแพงเหล็ก “หงส์แดง”

หลังจากเจอวิกฤตอาการบาดเจ็บของผู้เล่นแนวรับเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมานั้น ทำให้ ลิเวอร์พูล ทีมดังแห่ง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตั้งเป้าหมายในการเสริมกองหลังเป็นลำดับแรก และ อิบราฮิมา โกนาเต้ เซ็นเตอร์แบ็คดาวรุ่งชาวฝรั่งเศสก็ถูกคว้าตัวมาจาก แอร์เบ ไลป์ซิก ด้วยค่าตัว 36 ล้านปอนด์เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา

เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือชาวเยอรมันของ ลิเวอร์พูล ยืนยันว่า โกนาเต้ เป็นเป้าหมายเพียงคนเดียวที่เขาอยากได้ตัวมาร่วมทีม และในที่สุดทั้งคู่ก็ได้มาร่วมงานกันในถิ่น แอนฟิลด์ หลังจากการเจรจาต่างๆลุล่วงไปได้ด้วยดี

อิบราฮิมา โกนาเต้ กับเส้นทางการย้ายมายัง ลิเวอร์พูล

โกนาเต้ เริ่มเล่าว่า “ใช่ ผมเคยคุยกับ เจอร์เก้น 2-3 ครั้งแล้ว ถ้าเขาโทรหาคุณ คุณต้องคิดว่า เขาไม่ได้โทรมาคุยกับคุณเรื่องสัพเพเหระหรอก แต่เราคุยกันเยอะมากเกี่ยวกับผม ชีวิตส่วนตัวของผม เกี่ยวกับเขา สโมสร ความคิดของผู้เล่น และทุกอย่าง

“มันไม่ใช่แค่ผมกับเขา รู้ไหม มันเกี่ยวกับทุกอย่างที่ผมตัดสินใจ ไม่ว่าจะเป็นสภาพจิตใจของสโมสร นักเตะที่ผมจะทำงานด้วยทุกวัน เกี่ยวกับเมือง เกี่ยวกับทุกสิ่ง และด้วยสิ่งนี้มันทำให้ผมตัดสินใจย้ายมายัง ลิเวอร์พูล”

 โกนาเต้ ก็เป็นเช่นเดียวกับผู้เล่นใหม่คนอื่นๆ ที่ย้ายมายัง ลิเวอร์พูล อาทิ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน และ ฟาบินโญ่ ซึ่ง คล็อปป์ ต้องการให้นักเตะเหล่านั้นได้ปรับตัวกับระบบเป็นระยะเวลาหลายสัปดาห์ก่อนจะค่อยให้โอกาสได้ลงสนามในสีเสื้อ “หงส์แดง”

คล็อปป์ เคยอธิบายว่า “การเป็นนักเตะ ลิเวอร์พูล หมายความว่าคุณต้องรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ที่คุณไม่เคยรับมือมาจากที่อื่น เพราะที่สโมสรเก่าคุณอาจจะได้ลงเล่นอยู่ตลอดเวลา แต่ที่นี่มันไม่ใช่แบบนั้น”

กองหลังวัย 22 ปี ก็ต้องใช้เวลาพอสมควรก่อนจะได้ลงเล่นให้ ลิเวอร์พูล แต่ คล็อปป์ ก็ไม่ได้การีนตีว่า เขาจะได้ลงสนามทุกเกม ซึ่ง โกนาเต้ ก็คุ้นเคยกับสถานการณ์การแย่งตำแหน่งอยู่แล้วตั้งแต่สมัยที่เล่นกับ โซโชซ์ ในบ้านเกิด และ ไลป์ซิก

อดีตแนวรับ ไลป์ซิก กล่าวต่อว่า “ผมเคยถาม เจอร์เก้น ว่า ผมจะได้เล่นหรือไม่ และเขาก็ตอบว่า ใช่ นายจะได้เล่น แต่เขาไม่ได้บอกผมว่า ผมจะได้เล่นมากหรือน้อยเพียงใด แต่มันก็เป็นแบบนั้นกับผมเสมอ ตอนที่ผมอยู่กับ โซโชซ์ หรือตอนที่ผมไปเล่นเยอรมัน โค้ชก็ไม่เคยบอกผมว่า คุณจะไดเป็นตัวหลัก”

“สิ่งเหล่านี้มันอยู่กับผมเสมอ ผมฝึกซ้อมอย่างหนัก และหลังจากทำงานทีละขั้นตอน ผมก็ยึดตัวริงมาได้ และทำไมผมจะทำแบบนี้ไม่ได้กับ ลิเวอร์พูล และนี่เป็นสิ่งที่ดี เพราะหลังจากนี้ ผมจะทำงานให้หนักมากขั้นไปอีก”

ความยอดเยี่ยม และความแข็งแกร่ง

ย้อนกลับไปเมื่อเดือนกันยายนปีที่ผ่านมา โกนาเต้ ได้ประเดิมสนามให้กับ ลิเวอร์พูล ในเกมที่เปิดบ้านเอาชนะ คริสตัล พาเลซ 3-0 โดยเกมนั้น เขาได้ยืนคู่กับ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค และ 16 เกมต่อมาที่ได้ลงสนามเขายังไม่เคยพบกับความพ่ายแพ้เลยแม้แต่ครั้งเดียว

แน่นอนว่าหนึ่งใน 16 เกมนั้น เกมที่สำคัญที่สุดคือ ศึก คาราบาว คัพ นัดชิงชนะเลิศ เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่ง โกนาเต้ ลงสนามมาแทน โจเอล มาติป และมีส่วนช่วยให้ ลิเวอร์พูล เอาชนะการดวลจุดโทษ เชลซี พร้อมคว้าแชมป์ไปครอง

“ถ้าผมต้องพูดเกี่ยวกับบรรยากาศ แฟนบอลของ ลิเวอร์พูล หรือ เชลซี ผมคิดว่า มันน่าทึ่งมาก มันเป็นเกมที่เหลือเชื่อ ความเข้มข้น และทุกๆ อย่าง มันบ้าไปแล้ว มันเหมือนกับรอบชิงชนะเลิศของยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เลยด้วยซ้ำ”

“การดูเกมนี้มันบ้ามาก การได้ลงเล่นเป็นความฝัน และมันเป็นการชนะด้วยการดวลจุดโทษครั้งแรกที่ผมเคยเล่นในอาชีพค้าแข้ง เราไม่ได้ซ้อมยิงจุดโทษกันมากนัก แต่ก็อาจมีผู้เล่นบางคน แต่หลังจากที่ทุกคนยิงได้ นี่ก็น่าทึ่งสำหรับเรา” โกนาเต้ กล่าว

ขณะเดียวกัน กองหลังชาวฝรั่งเศสยังได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงให้กับ ลิเวอร์พูล ในเกมบิ๊กแมทช์อย่าง การเจอกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เชลซี, ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์, อาร์เซนอล, อินเตอร์ มิลาน และ เอซี มิลาน ซึ่งทั้งหมดนี้เขาก็ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม

โกนเต้ กล่าวต่อว่า “แน่นอน มันไม่มีเกมไหนง่ายเลย โดยเฉพาะในพรีเมียร์ลีก คุณเห็นสิ่งนี้ในทีวี แต่เมื่อคุณอยู่ในสนามจริง มันบ้ามากขึ้นเรื่อยๆ คุณไม่มีทางเจอทีมที่แย่เลย ถ้าผมสามารถพูดแบบนี้ด้วยความเคารพต่อทุกทีมในบุนเดสลีกา”

“แต่บางครั้งในบุนเดสลีกา คุณเล่นกับทีมหนึ่ง และคุณรู้ว่า คุณจะชนะพวกเขาได้ แต่ที่นี่คุณไม่มีทางรู้เลย คุณเล่นกับทีมที่รั้งท้ายตาราง แต่มันก็จะยากเหมือนกับว่าคุณกำลังเล่นกับทีมชั้นนำ และนี่มันบ้ามาก ในพรีเมียร์ลีก ความเข้มข้น และพลังของทีม ความคิดของแฟน ๆ ทุกอย่างมันสุดยอดมาก” ปราการหลัง “หงส์แดง” กล่าวปิดท้าย

, , , , ,

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *