เจสซี่ มาร์ช ผู้กุมชะตา ลีดส์

เจสซี่ มาร์ช กุนซือชาวอเมริกันของ ลีดส์ ยูไนเต็ด สโมสรดังแห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กล่าวว่า เขาคุ้นเคยกับการถูกทุ่มเทสุดตัวในการทำงานมาแล้ว ดังนั้นการเข้ามาคุมทัพ “ยูงทอง” ที่กำลังดิ้นรนเพื่อหนีตกชั้นนั้น ไม่ได้ทำให้รู้สึกกังวลแต่อย่างใด

มันไม่ใช่แค่อันดับใกล้โซนอันตรายของ ลีดส์ ที่สร้างความท้าทายอย่างมากให้กับโค้ชวัย 48 ปี แต่การเข้ามาทำงานต่อจากยอดกุนซือมากประสบการณ์อย่าง มาร์เซโล บิเอลซ่า นั้น เป็นเรื่องที่น่าสนใจมากยิ่งกว่าสำหรับ มาร์ช

หลังเข้ามาทำงานต่อจาก บิเอลซ่า เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มาร์ช ก็พา ลีดส์ ทำผลงานได้ดีใน 3 เกมหลังสุดด้วยการเก็บชัยชนะ 2 เกม และเสมอ 1 เกม ซึ่งทำให้พลพรรค “ยูงทอง” ขยับมารั้งอันดับ 16 โดยมีแต้มเหนือโซนตกชั้น 6 คะแนน แม้ก่อนหน้านี้จะต้องพ่ายแพ้ติดกันก็ตาม

ในช่วงที่ผ่านมา มาร์ช เคยมีประสบการณ์การคุมทีมกับ 4 สโมรอย่าง มอนทรีโอล อิมแพค, นิวยอร์ค เร้ดบลู, เร้ดบลู ซัลซ์บวร์ก และ แอร์เบ ไลป์ซิก และการทำงานกับ ลีดส์ ล่าสุดนั้น ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาต้องก้าวออกจากขอบเขตของตัวเอง

ประสบการณ์ของ เจสซี่ มาร์ช

มาร์ช ผ่านประสบการณ์มาอย่างมากมายตั้งแต่สมัยที่เขาเป็นนักเรียนที่ Ivy League Princeton University โดยเจ้าตัวเล่าว่า “เมื่อผมก้าวเท้าเข้ามาใน พรินซ์ตัน ผมถูกรายล้อมไปด้วยผู้คนที่เคยไปโรงเรียนประจำ และโรงเรียนมัธยมปลาย และผมแทบไม่รู้วิธีเขียนบทความเลย”

“ผมแทบไม่รู้วิธีอภิปรายหัวข้อในหลักสูตรเลย ผมเป็นนักเรียนที่ดี แต่ผมไม่ได้สัมผัสถึงระดับการศึกษาที่คนอื่นๆ ส่วนใหญ่มี ผมต้องทำงานด้วย พ่อแม่ต้องกู้เงิน ผมมีเงินกู้ และจ่ายเงินกู้หลังจากเรียนจบ 15 ปี คุณถูกโยนลงไปในส่วนลึกในสถานการณ์ทั้งหมดเหล่านี้ และผมเดาว่าผมเคยชินกับมันแล้ว”

“นี่ไม่ได้กวนใจผมเลย แม้แต่การมาทำงานที่ ลีดส์ บางทีคุณอาจพูดว่า โอเค คุณมาที่ ลีดส์ ยูไนเต็ด คุณต้องมาทำงานต่อจากโค้ชที่ยอดเยี่ยมอย่าง มาร์เซโล บิเอลซ่า คุณอยู่ในการต่อสู้ตกชั้น คุณต้องทุ่มสุดตัว  แต่โอเค ไปเถอะ ผมไม่ได้มองว่ามันน่ากลัวหรือมีอะไรต้องกลัวเลยจริงๆ”

มาร์ช ที่เติบโตในเมืองราซีน รัฐวิสคอนซิน ประเทศสหรัฐอเมริกา กล่าวต่อว่า “เราอยากจะกล้าหาญ เราต้องการที่จะต่อสู้เพื่อสิ่งต่างๆ และครอบครัวของผมก็เป็นแบบนั้นมาตลอด แต่การมาทำงานกับ ลีดส์ ก็ยอดเยี่ยมมากๆ”

“แม้แต่ในชุมชน เมื่อมีคนเห็นผม พวกเขาเป็นมิตรมาก และพวกเขาก็เปิดกว้างมาก และผมรู้ว่าทุกคนคิดถึง มาร์เซโล แต่พวกเขาอดทน และสนับสนุนผมในทางที่เดี ผมบอกได้เพียงว่า ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองเคยทำงานในสโมสรที่มีผู้คนมากมายที่มองโลกในแง่ดี ให้การสนับสนุน และมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือในทุกวิถีทางที่ทำได้มากเท่านี้มาก่อน”

อดีตนายใหญ่ ซัลซ์บวร์ก และ ไลป์ซิก เคยได้พูดคุยกับ วิคตอร์ ออร์ต้า ผู้อำนวยการด้านกีฬาของ ลีดส์ ในช่วงล็อคดาวน์ในปี 2020 ในขณะที่เขากำลังทำงานกับ ซัลซ์บวร์ก และกล่าวว่า เขาไม่ได้คิดมากเกินไปเกี่ยวกับการย้ายมาทำงานในพรีเมียร์ลีก

มาร์ช กล่าวต่ออีกว่า “ผมใฝ่ฝันเสมอที่จะมาที่นี่ และเป็นผู้จัดการทีมที่ดีเมื่อผมมาที่ยุโรป แต่ผมไม่แน่ใจว่าจะเหมาะกับความก้าวหน้าทั้งหมดของผมอย่างไร แต่ผมเดินออกจากการประชุมกับ วิกเตอร์ และ กาบี้ รุยซ์ หัวหน้าแมวมองกับเขา และรู้สึกว่า มันช่างเป็นการสนทนาที่ยอดเยี่ยมจริงๆ”

อย่างไรก็ตาม ในช่วงต้นซีซั่นที่ผ่านมา มาร์ช มีช่วงเวลาที่ไม่ประสบความสำเร็จกับ ไลป์ซิก แต่เขาก็เชื่อว่า การย้ายมาทำงานกับ ลีดส์ นั้น มันเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม และสโมสรแห่งนี้ก็สมบูรณ์แบบสำหรับเขาด้วยเช่นเดียวกัน

“ผมรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ผมรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน, ผู้คน, ความคิด, เมือง, ผู้เล่น, วิกเตอร์ ออร์ตา, [ซีอีโอ] แองกัส คินเนียร์, เจ้าของทีม อันเดรีย ราดริซซานี  ผมรู้สึกว่าทุกอย่างดูเหมือนจะพอดีผมมากๆ”

“หลายครั้งที่ภรรยาของผมจะพูดว่า พลังงานของคุณเป็นอย่างไรบ้าง และผมเคยคิดว่า เธอกำลังพูดถึงอะไร แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าความรู้สึกของทุกคนที่นี่เป็นอย่างไร และมันมารวมกันได้อย่างไร นั่นคือพลังงาน และพลังงานที่สโมสรแห่งนี้รู้สึกถูกต้องสำหรับผมมากๆ”

เจสซี่ มาร์ช

การทำงานในความฝันอันยิ่งใหญ่

มาร์ช เคยเป็นอดีตนักเตะในตำแหน่งกองกลางของ ชิคาโก้ ไฟร์ และ ชีวาส ในลีกบ้านเกิด แต่เขาก็ไม่ใช้ผู้เล่นที่โด่งดังนัก และยอมรับว่า ตัวเองมีฝีเท้าด้อยกว่า คาลวิน ฟิลลิปส์ มิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษของ ลีดส์ เสียอีก

ขณะเดียวกัน อดีตกุนซือ ไลป์ซิก ต้องการปลูกฝังอัตราการทำงานให้กับตัวเอง ในขณะที่สังเกตกีฬาต่างๆ ในระหว่างการเรียนที่ พรินซ์ตัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพายเรือ ซึ่งเจ้าตัวระบุว่า “นีกพายเรือตื่นตอนตี 5 และกำลังเอาเรือลงน้ำตอน 5.30 น.”

“จากนั้น ผมจะวิ่งออกจากที่ที่ผมอาศัยอยู่และไปที่สะพานแล้วดูพวกเขาฝึกซ้อม และมันก็เงียบมาก น้ำก็หยุดนิ่ง และคุณจะเห็นนักกีฬาเหล่านี้ทุ่มทุกอย่างที่พวกเขามีในการฝึกซ้อมทุกวันและแทบทุกช่วงเวลาเลย”

“เห็นได้ชัดว่ามีการฝึกฝนรูปแบบ แต่ส่วนใหญ่เกี่ยวกับการผลักดันระดับของทางกายภาพ และความพยายามที่พวกเขาสามารถทำได้ทุกวัน ผมรู้สึกทึ่งกับมันและทั้งหมดที่ผมคิดก็คือ คุณจะทำให้ทีมฟุตบอลเข้ามามีส่วนร่วมกันได้อย่างไร ดังนั้น จึงเหมาะกับฟุตบอลประเภทนี้ที่ผมชอบเล่นด้วยการเพรสซิ่ง และเกมรุก”

 ความฝันของ มาร์ช ก็คือ พา ลีดส์ เข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศสัก 1 รายการ โดยระบุว่า “ผมอยากให้สโมสรแห่งนี้เป็นทุกอย่างที่สมควรจะเป็น ผมอยากให้สโมสรแห่งนี้พัฒนาต่อเนื่องปีแล้วปีเล่า ดูซิว่าเราจะปีนบันไดขึ้นอีกหน่อยได้ไหม และสร้างตัวเองให้มากขึ้นเรื่อยๆ”

“ผมรู้ว่าการกลับมาเล่นในพรีเมียร์ลีก และกลับมาอยู่ในรายการนี้อีกครั้งสำคัญแค่ไหน และแน่นอนว่าสิ่งที่เราโฟกัสในตอนนี้คือการรักษาสถานะของเราให้อยู่ในลีกต่อไป จากนั้นในฤดูร้อน เราต้องคิดจริงๆ ว่า ตกลง เราจะใช้แผนที่สามารถช่วยเราทีละขั้นตอน ทีละขั้นตอน ใหญ่ขึ้น ใหญ่ขึ้น ดีขึ้น และดีขึ้นได้อย่างไร”

“แล้วความสำเร็จหมายความว่าอย่างไร ผมไม่ทำสิ่งนี้โดยไม่มีเป้าหมายในใจ และผมไม่รังเกียจที่จะพูดว่า คุณต้องการคว้าถ้วยรางวัล เพราะนี่เป็นเรื่องใหญ่ในเยอรัน คุณไม่ควรพูดอย่างนั้นเพราะคุณแค่เตรียมตัวเองให้ล้มเหลว แต่เอาเถอะ งานนี้ ธุรกิจนี้เกี่ยวกับการฝันให้ใหญ่ และผลักดันทุกวันให้สำเร็จในเป้าหมายเหล่านั้น” กุนซือ ลีดส์ กล่าวทิ้งท้าย

, , , , ,