สิ่งที่ เอริค เทน ฮาก ต้องทำหากมาคุม “ผี”

นักวิเคราะห์ฟุตบอลอังกฤษหลายคนประเมินว่า  ประเด็นสำคัญที่ เอริค เทน ฮาก กุนซือชาวฮอลแลนด์จะต้องสะสางหลังเข้ามารับงานกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก นั้น มีหลักอยู่ 4 เรื่อง

โค้ชชาวดัตช์วัย 52 ปี ของ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ได้รับการคาดหมายว่า จะเข้ามาเป็นนายใหญ่คนใหม่ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในซัมเมอร์นี้ และเบื้องต้นรายงานข่าวระบุว่า ทั้ง 2 ฝ่ายบรรลุดข้อตกลงกันไปเรียบร้อยแล้วด้วยหลังมีการสัมภาษณ์กันไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

ขณเดียวกัน บอร์ดบริหารของ แมนฯ ยูไนเต็ด ตั้งเป้าหมายว่า “ปีศาจแดง” จะกลับมาสู่เส้นทางที่ดีอีกครั้งภายในเวลา 18 เดือน ภายใต้การคุมทัพของ เทน ฮาก แต่นี่คือปัญหาบางส่วนที่เขาต้องเข้ามาแก้ไขในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด

1. เอริค เทน ฮาก ต้องตัดสินอนาคตของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้

หนึ่งในเรื่องสำคัญที่สุดหาก เทน ฮาก เข้ามาคุม แมนฯ ยูไนเต็ด ก็คือ อนาคตของ โรนัลโด้ โดยกองหน้าชาวโปรตุเกสอาจอายุมากถึง 37 ปีแล้วในตอนนี้ แต่เขาก็ยังแสดงให้เห็นว่า เป็นดาวยิงระดับโลกที่ไว้ใจได้อยู่เสมอ และยังคงเป็นหัวหอกหมายเลข 9 ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดของสโมสร

 จากการที่ เอดินสัน คาวานี่, มาร์คัส แรชฟอร์ด และ เมสัน กรีนวู้ด ต่างก็โชว์ฟอร์มได้ไม่สม่ำเสมอนั้นทำให้ โรนัลโด้ คือตัวเลือกเดียวที่ดีที่สุดสำหรับแนววรุกของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในฤดูกาลนี้ และ เทน ฮาก ก็ต้องตัดสินใจว่า ใครจะเป็นตัวเลือกแรกของเขาในแดนหน้า

ในซีซั่นนี้ โรนัลโด้ ซัดไปแล้ว 18 ประตู และอีก 3 แอสซิสต์จาก 32 เกมรวมทุกรายการหลังสุดให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด และอัตราส่วนนาทีต่อประตูของดาวเตะเลือด “ฝอยทอง” นั้น ก็ยังดูดีกว่าเพื่อนร่วมทีม “ปีศาจแดง” คนอื่นๆ

อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวระบุว่า เทน ฮาก จะได้รับสิทธิขาดในการบริหารทีม และการทำงานในสไตล์ที่ต้องการ ซึ่งเขาชอบใช้นักเตะอายุน้อยที่มีความกระหาย และสำหรับอนาคตของ โรนัลโด้ ที่เหลือสัญญาเพียง 12 เดือนนั้น ก็จะตกอยู่ในเครื่องหมายคำถามอย่างแน่นอน

2. ดีแคลน ไรซ์ คือ คำตอบในการแก้ปัญหาแดนกลางหรือไม่?

หลายคนลงมติแล้วว่า มิดฟิลด์ คือ ตำแหน่งเร่งด่วนที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ควรแก้ปัญหาก่อนเป็นลำดับแรก โดยก่อนหน้านี้มันเป็นจุดที่พวกเขาเจอปัญหามานานแล้วตั้งแต่สมัยของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา อดีตโค้ชชาวนอร์เวย์ มาจนถึงยุค ราล์ฟ รังนิก เทรนเนอร์ขัดตาทัพชาวเยอรมัน

ขณะเดียวกัน ปอล ป็อกบา กองกลางทีมชาติฝรั่งเศสเตรียมอำลา แมนฯ ยูไนเต็ด แบบไร้ค่าตัวในซัมเมอร์นี้หลังจากหมดสัญญากับสโมสร และแน่นอนว่า ตัวเลือกในแผงมิดฟิลด์ของพลพรรค “ปีศาจแดง” ก็จะว่างไป 1 ตำแหน่ง

รายงานข่าวระบุว่า เทน ฮาก ก็เริ่มมองหากลางกลางคนใหม่เข้ามาร่วมทีม แมนฯ ยูไนเต็ด แล้ว แต่ทั้งนี้ยังไม่มีการรายงานว่า ไรซ์ เป็นเป้าหมายที่เขาสนใจหรือไม่ โดยดาวเตะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด มีค่าตัวมหาศาลถึง 150 ล้านปอนด์ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องแข่งขันกับ เชลซี ที่กำลังสนใจ ไรซ์ เช่นเดียวกัน

แต่การที่พวกเขาไม่ได้ไปเล่นในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ปีหน้านั้น ก็อาจเป็นเรื่องยากในการดึงกองกลางวัย 23 ปี ไปร่วมทีม และบางทีการดึง ดอนนี่ ฟาน เดอ บีค กลับมาจากการยืมตัวน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีของ เทน ฮาก เนื่องจากทั้งคู่เคยร่วมงานกันมาแล้วที่ อาแจ็กซ์ และก็ประสบความสำเร็จอย่างมาก

3. สถานการณ์ของ มาร์คัส แรชฟอร์ด และ จาดอน ซานโช่

แมนฯ ยูไนเต็ด เซ็นสัญญากับ ซานโช่ มาจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ด้วยค่าตัวมหาศาลถึง 73 ล้านปอนด์ เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา ขณะที่ แรชฟอร์ด ก็ได้รับการคาดหมายว่า จะก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักของทีมในฤดูกาลนี้

อย่างไรก็ตาม ซานโช่ และ แรชฟอร์ด ไม่สามารถเค้นฟอร์มเก่งออกมาได้เลย ซึ่งพวกเขาทั้งคู่ไม่มีใครสามารถยึดตัวจริงได้เลย และล่าสุดดูเหมือนว่าอนาคตในทีมชาติอังกฤษของดาวเตะ แมนฯ ยูไนเต็ด ทั้ง 2 รายดูจะไม่แน่นอนเสียแล้ว  

หลังจากผ่าตัดหัวไหล่กลับมา แรชฟอร์ด ดูจะเล่นด้วยความไม่มั่นใจเหมือนเคย และภายใต้การคุมทีมของ รังนิก นั้น เขาก็ต้องตกไปเป็นตัวสำรอง ขณะที่ ซานโช่ ดูเหมือนว่า จะเริ่มกลับมาทำผลงานได้อีกอีกครั้ง และค่อยๆมีบทบาทกับทีมมากขึ้น

ด้วยสถิติของ เทน ฮาก ระบุว่า เขาเป็นผู้จัดการทีมรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบในการพัฒนาผู้เล่นอายุน้อยอยู่เสมอ และเขาก้ได้รับการยกย่องว่า เป็นหนึ่งในโค้ชที่พัฒนาฝีมือได้รวดเร็วมากที่สุดในวงการฟุตบอลยุโรป ซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่า ซานโช่ จะยังเป็นหนึ่งในแผนการทำทีมของเขาแน่นอน

อย่างไรก็ตาม ในทางตรงกันข้าม แรชฟอร์ด อายุ 24 ปีแล้ว และเหลือสัญญากับ แมนฯ ยูไนเต็ด เพียงปีเดียวเท่านั้น ซึ่งการเจรจาสัญญาฉบับใหม่ก็ยังไม่ได้ข้อสรุป จึงเป็นไปได้ว่า บางทีเขากำลังจะมองหาทางเลือกใหม่ให้กับตัวเองก็เป็นได้

เอริค เทน ฮาก

4. เอริค เทน ฮาก จะควบคุมห้องแต่งตัวอย่างไร

ในเวลานี้ เทน ฮาก ยังไม่ได้รับการประกาศให้เป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ของ แมนฯ ยูไนเต็ด อย่างเป็นทางการ แต่หลายคนก็เริ่มตั้งคำถามว่า เทรนเนอร์ชาวดัตข์รายนี้จะมีความสามารถมากพอในการรับมือบรรดาดาวดังของ “ปีศาจแดง” หรือไม่

เทน ฮาก ต้องเผชิญงานที่ท้าทายที่สุดในอาชีพของตัวเองในการเข้ามาบริหารงานทีมที่เต็มไปด้วยซุเปอร์สตาร์อย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด และปฏิเสธไม่ได้เลยว่า มันเป็นงานที่ยากสุดๆสำหรับเขาหากมองถึงชื่อชั้นของเจ้าตัวที่ไม่ได้โค้ชระดับบิ๊กเนม

ในช่วงที่ผ่านมา อดีตโค้ช แมนฯ ยูไนเต็ด อย่าง เดวิด มอยส์, หลุยส์ ฟาน กัล, โชเซ่ มูรินโญ่, โซลชา และ รังนิก ต่างก็พยายามอย่างยิ่งในการควบคุมห้องแต่งตัว “ปีศาจแดง” ให้มีแนวคิด และเป็นไปในทิศทางเดียวกัน แต่พวกเขาพิสูจน์แล้วว่า มันเป็นงานยากมากๆ

รอย คีน อดีตกองกลางกัปตันทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นนักวิเคราะห์เคยแสดงความคิดเห็นว่า “นี่คือผู้เล่นชุดเดียวกับที่ทำให้ มูรินโญ่ โดนไล่ออก และพวกเขาก็ทำให้ โอเล่ โดนไล่ออกเช่นกัน ผมสงสัยว่า เทน ฮาก จะหลีกเลี่ยงชะตากรรมเดียวกันได้อย่างไร”

เทน ฮาก ไม่เคยทำงานในอังกฤษเลย และเขาก็ไม่เคยมีความสัมพันธ์กับ แมนฯ ยูไนเต็ด มาก่อน ดังนั้น หลายคนคิดว่า เขาต้องกาคนที่เกี่ยวข้องกับสโมสรมาเชื่อมความสัมพันธ์เหมือนกับที่ มอยส์ มี ฟิล เนวิลล์, ฟาน กัล มี ไรอัน กิ๊กส์,  มูรินโญ่ มี ไมเคิล คาร์ริค,  โซลชาร์ มี ไมค์ ฟีแลน แม้แต่ รังนิก ก็มี ดาร์เรน เฟลตเชอร์

สิ่งที่ เทน ฮาก ต้องการเพื่อควบคุมห้องแต่งตัว แมนฯ ยูไนเต็ด คือ การสนับสนุนอย่างเต็มที่ของคณะกรรมการ และเจ้าของสโมสรเช่นเดียวกับที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ได้รับจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ เจอร์เก้น คล็อปป์ ได้รับจาก ลิเวอร์พูล

ขั้นตอนแรกในการทำงานคือ เทน ฮาก ต้องมีสิทธิขาดในตลาดนักเตะ โดยขายผู้เล่นที่ไม่ต้องการออกไป และเซ็นสัญญากับคนที่เขาต้องการ ซึ่งเขาต้องผ่าตัด แมนฯ ยูไนเต็ด ครั้งใหญ่ก่อนจะกลับไปท้าชิง แมนฯ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล ในอนาคต

, , , , , , ,