เชลซี ทีมดังแห่ง วงการฟุตบอลต่างประเทศ มีข่าวสนใจที่จะเซ็นสัญญากับ เออร์ลิง ฮาแลนด์ กองหน้าดาวรุ่งทีมชาตินอร์เวย์ของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มาล่าตาข่ายหลังจากที่พวกเขาประสบปัญหาแนวรุกปืนฝืดเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา
แม้ ฮาแลนด์ จะไม่ได้ร่วมโชว์ฝีเท้าในศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร 2020 ที่ผ่านมา เนื่องจากทีมชาตินอร์เวยืไม่ผ่านรอบคัดเลือก แต่ข่าวลือเกี่ยวกับอนาคตของเจ้าตัวนั้น ยังคงมีอย่างต่อเนื่องกับสโมสรยักษ์ใหญ่ทั่วยุโรป
ขณะเดียวกัน มีข่าวระบุว่า เชลซี ยื่นข้อเสนอ 150 ล้านปอนด์ ให้ ดอร์ทมุนด์ พิจารณาแล้ว บวกกับแถมตัว คัลลั่ม ฮัดสัน โอดอย และ แธมมี่ อับราฮัม 2 ดาวรุ่งชาวอังกฤษ เพื่อแลกกับ ฮาแลนด์ แต่ล่าสุด “เสือเหลือง” ปฏิเสธไปแล้ว
นอกจากนี้ ยังมีข่าวอีกว่า มิโน่ ไรโอล่า เอเย่นต์ของ ฮาแลนด์ ได้พบกับ บาร์เซโลน่า และ เรอัล มาดริด เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาแล้ว และยังมีอีก 2 สโมสรอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ให้ความสนใจกองหน้าวัย 20 ปี ด้วยเช่นกัน
เชลซี ภายใต้การคุมทีมของ โธมัส ทูเคิ่ล โค้ชชาวเยอรมัน ต้องเร่งเครื่องอย่างหนักหากหวังจะพา ฮาแลนด์ มาล่าตาข่ายในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ หลังจากพวกเขามีปัญหาในแนวรุก และหากดาวรุ่งชาวนอร์เวย์ ย้ายมาจริง ก็จะทำให้ “สิงโตน้ำเงินคราม” น่ากลัวขึ้นอีกมากทีเดียว
เออร์ลิง ฮาแลนด์ จะแก้ปัญหาเกมรุก เชลซี
ปัญหาการจบสกอร์ของ เชลซี เกิดขึ้นก่อนที่พวกเขาทำการแต่งตั้ง ทูเคิ่ล เข้ามาทำหน้าที่แล้ว ซึ่งมันชัดเจนมาตลอดตั้งแต่สมัยอดีตกุนซือหลายๆคนอย่าง อันโตนิโอ คอนเต้, เมาริซิโอ ซาร์รี่ และ แฟรงค์ แลมพาร์ด
ในแดนหน้า เชลซี ชุดปัจจุบัน อับราฮัม ยังเป็นเพียงดาวรุ่งที่ขาดประสบการณ์ และหาความแน่นอนไม่ได้ ส่วน ติโม แวร์เนอร์ ก็ฟอร์มตกอย่างน่าใจหาย ขณะที่ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ หัวหอกจอมเก๋าชาวฝรั่งเศสถูกปล่อยตัวให้กับ เอซี มิลาน ไปแล้ว
หากมองตามขุมกำลังแล้ว ทูเคิ่ล ไม่มีกองหน้าที่ไว้ใจได้ให้ใช้งานเลยในฤดูกาลใหม่ และมันเป็นการเสี่ยงอย่างมากหากเขาจะหวังถึ่ง แวร์เนอร์ กับ อับราฮัม ที่ยิงรวมกันได้เพียง 12 ประตูในพรีเมียร์ลีกเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา
อัตราการเปลี่ยนแปลงโอกาสเป็นประตูของ เชลซี ก็ต่ำเช่นเดียวกัน ตามรายงานของ Opta ระบุว่า พวกเขาเปลี่ยนโอกาสเป็นสกอร์ได้เพียง 14.4% โดยทำให้พวกเขาอยู่อันดับที่ 14 ในบรรดาสโมสรในพรีเมียร์ลีกทั้งหมดจาก 20 ทีม
ความคิดสร้างสรรค์ไม่ใช่ปัญหาเพราะ เชลซี ติดอันดับ 1 ใน 4 ของพรีเมียร์ลีกที่สร้างโอกาสลุ้นสกอร์ได้มากที่สุด แต่พวกเขาไม่สามารถทำให้มันเป็นประตูได้ และว่ากันตามตรง ฮาแลนด์ คือคำตอบ
สัญชาตญาณนักล่า
ฮาแลนด์ จะเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งอย่างให้ เชลซี ได้แน่นอน เนื่องจากเขาได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่า เป็นหนึ่งในศูนย์หน้าที่ดีที่สุดในยุโรป นับตั้งแต่แจ้งเกิดกับ เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก อดีตต้นสังกัดเก่าด้วยผลงานซัดไป 29 ลูก จาก 27 เกมที่ลงสนาม
หลังย้ายจาก ซัลซ์บวร์ก มาเล่นกับ ดอร์ทมุนด์ เมื่อเดือนมกราคมปี 2019 ฮาแลนด์ ยังคงระเบิดสกอร์ได้อย่างต่อเนื่องด้วยการซัดไปถึง 57 ประตูจากการลงเล่น 59 เกมรวมทุกรายการให้กับพลพรรค “เสือเหลือง” จนถึง ณ เวลานี้
ขณะเดียวกัน หัวหอกนอร์เวย์ ยังทำสถิติสุดยอดด้วยการซัดประตูในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2 ฤดูกาลล่าสุดได้มากถึง 20 ประตู เทียบเท่ากับ ลิโอเนล เมสซี่ จอมทัพ บาร์เซโลน่า และเป็นรองแค่ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ กองหน้าของ บาเยิร์น มิวนิค
ตัวเลขสถิติต่างๆของ ฮาแลนด์ จากการลงเล่นทั้งใน และนอกประเทศนั้น ช่วยอธิบายว่าทำไมเขาถึงถูกมองว่า เป็นซุปเปอร์สตาร์ที่รอคอยโอกาสที่ก้าวขึ้นมา และมันน่าสนใจมากหากเขาได้รับการสนับสนุนจาก เมสัน เมาท์ รวมถึง ฮาคิม ซิเยค ที่ เชลซี
ความแข็งแกร่ง ความเร็ว และอื่นๆของ เออร์ลิง ฮาแลนด์
อายุของ ฮาแลนด์ ยิ่งเพิ่มความน่าสนใจให้กับเขาอย่างเห็นได้ชัด โดยเจ้าตัวอายุเพียง 20 ปี แต่มีสภาพร่างกายที่แข็งแกร่งมาก ซึ่งนอกเหนือจากความสามารถในการจบสกอร์ของเขานั้น ความสูงถึง 6 ฟุต 4 นิ้ว ยิ่งทำให้เจ้าตัวน่ากลัวมากขึ้นไปอีก
ฮาแลนด์ เป็นกองหน้าสมัยใหม่ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนทั้งสภาพร่างกาย, ความเร็ว, เทคนิค, วิสัยทัศน์ และการจบสกอร์ที่เฉียบคม ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ เชลซี ขาดหายไปตั้งแต่หมดยุคของ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ตำนานดาวยิงทีมชาติไอวอรี่โคสต์
40 ประตูที่ ฮาแลนด์ ซัดในบุนเดสลีกามาจากการยิงในกรอบเขตโทษ และ 37 ประตูมาจากการเล่นแบบโอเพ่นเพลย์ ซึ่งสถิติดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า หัวหอกวัย 20 ปี ชื่นชอบการหาช่องว่างเพื่อปิดสกอร์ และจมูกไวอย่างมาก นอกจากนี้ เขายังสามารถทำประตูจากการรอจังหวะเพื่อนเปิดลูกฟรีคิกได้ด้วย
เชลซี เป็นทีมที่เล่นฟรีคิกได้นตรายอยู่แล้ว และการมี ฮาแลนด์ ยืนค้ำในกรอบเขตโทษจะยิ่งเพิ่มอาวุธหนักให้พวกเขามากไปอีก และการเล่นในจังหวะโอเพ่นเพลย์ภายใต้แท็คติคของ ทูเคิ่ล นั้น จะสมบูรณ์แบบหากมี ฮาแลนด์ เป็นคนรอโอกาสหน้าประตูคู่แข่ง