วิเคราะห์ตัวเต็งกุนซือใหม่ “ผี”

หลังจบเกมในศึก พรีเมียร์ลีก ที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำได้แค่เปิดรัง โอลด์ แทรฟฟอร์ด เสมอกับ “สุนัขจิ้งจอก” เลสเตอร์ ซิตี้  1-1 เมื่อวันเสาร์ที่ 2 เมษายนที่ผ่านมานั้น พลพรรค “ปีศาจแดง” รู้ดีว่า ความหวังในการคว้าตั๋วไปเล่นในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้าเหลือน้อยเต็มทีแล้ว

ปัจจุบัน แมนฯ ยูไนเต็ด ยังคงโชว์ฟอร์มด้ำม่สม่ำเสมอโดยรั้งอันดับ 7 ในตารางคะแนน และมีแต้มตามหลังทีมอันดับ 4 อย่าง ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ 3 แต้ม นอกจากนี้ยังตามหลัง อาร์เซน่อล ทีมอันดับ 5 อยู่ 3 คะแนน แต่ “ไอ้ปืนใหญ่” ยังแข่งน้อยกว่า 2 เกม

หลังปลด โอเล่ กุนนาร์ โซลชา อดีตโค้ชชาวนอร์เวย์ไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา และแต่งตั้ง ราล์ฟ รังนิก กุนซือชาวเยอรมันเข้ามาคุมทีมชั่วคราวนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้นแต่อย่างใด ซึ่ง รังนิก เองก็พาทีมเอาชนะได้เพียง 9 จาก 21 เกมรวมทุกรายการ

ในตอนนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องการอีกถึง 14 แต้มจาก 8 เกมสุดท้ายในลีกเพื่อทำให้ตัวเองมีคะแนนดีกว่า 64 คะแนน ในยุคที่ เดวิด มอยส์ อดีตโค้ชชาวสก็ตแลนด์เคยทำเอาไว้ในซีซั่น 2013-14 ซึ่งเป็นผลตอบแทนที่แย่ที่สุดในรอบ 3 ทศวรรษของสโมสร

แน่นอนว่า แมนฯ ยูไนเต็ด จะต้องหันกลับมาพิจารณาอย่างละเอียดอีกครั้งว่า ใครจะเข้ามาเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ขอพวกเขาในซัมเมอร์นี้ และพา “ปีศาจแดง” กลับไปสู่เส้นทางแห่งความสำเร็จโดยเร็วที่สุด

ทางเลือกแม่ทัพคนใหม่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

บอร์ดบริหาร แมนฯ ยูไนเต็ด มีความกระตือรือร้นที่จะสร้างความมั่นใจให้กับกองเชียร์ในการค้นหากุนซือคนใหม่ของพวกเขา และไม่ใช่แค่เพียง 2 ตัวเต็งอย่าง เอริค เทน ฮาก โค้ชชาวดัตช์ของ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม และ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ เทรนเนอร์ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ในฝรั่งเศสเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ไม่มีข้อโต้แย้งเลยว่า เทน ฮาก และ โปเช็ตติโน่ คือ ทางเลือกที่เป็นไปได้มากที่สุด โดยตัวเลือกอื่นๆในข่ายพิจารณาอย่าง หลุยส์ เอ็นริเก้ ก็มุ่งมั่นที่จะพาทีมชาติสเปนไปลุยศึกฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ ซึ่งทำให้มีความเป็นไปได้น้อยมาก

ขณะที่ ตอนนี้สถานการณ์ที่ เชลซี เริ่มมีเสถียรภาพในระดับหนึ่ง และการค้นหาเจ้าของคนใหม่ดูเหมือนว่าพบใครบางคนที่มุ่งมั่นที่จะรักษา “สิงโตน้ำเงินคราม”  ให้เป็นสโมสรระดับแนวหน้าต่อไป ดังนั้น แนวคิดในการดึง โธมัส ทูเคิ่ล โค้ชชาวเยอรมันออกจาก สแตมฟอร์ด บริดจ์ ก็เป็นเรื่องยาก

ฆูเลน โลเปเตกี เทรนเนอร์ฝีมือดีชาวสเปนของ เซบีย่า แทบจะเป็นตัวเลือกที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ ส่วน เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือชาวไอร์แลนด์เหนือของ เลสเตอร์ ก็เป็นทางเลือกที่ยากเช่นกันเนื่องจากเคยเป็นอดีตโค้ชของ ลิเวอร์พูล คู่ปรับตลอดกาล

ดังนั้น ทางเลือกที่เหลือ และมีความเป็นได้มากที่สุดสำหรับ แมนฯ ยูไนเต็ด มันจึงเหลือ 2 ทาง ซึ่งก็คือ เทน ฮาก และ โปเช็ตติโน่ แต่ก็คงจะมีคำถามตามมาอีกเช่นเดียวกันว่า จะมีความเป็นไปได้เพียงใดเนื่องจากทั้ง 2 คน ยังคงมีสัญญากับต้นสังกัดของพวกเขา

นาสเซอร์ อัล คาไลฟี ประธานสโมสร เปแอสเช และ เอ็ดวิน ฟาน เดอ ซาร์ อดีตนายทวารชาวดัตช์ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งตอนนี้เป็นผู้บริหารระดับสูงของ อาแจ็กซ์ ต่างก็อยู่ในคณะกรรมการสมาคมสโมสรยุโรป ECA ที่จะประชุมกันที่ เวียนนา ประเทศออสเตรีย ในสัปดาห์นี้ ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า แมนฯ ยูไนเต็ด อาจจะส่งตัวแทนไปเจรจาในเบื้องต้น

ขณะเดียวกัน เห็นได้ชัดว่า การเข้ามาทำงานในฐานะกุนซือคนใหม่ของ แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นความท้าทายอย่างมากในปัจจุบัน และมีโค้ชหลายๆคน ที่ต้องการมาพิสูจน์ความสามารถของพวกเขาในระดับสูงสุดกับ “ปีศาจแดง”

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ความเป็นไปได้ของ แมนฯ ยูไนเต็ด

สมัยทำงานกับ สเปอร์ส นั้น โปเช็ตติโน่ เป็นที่ชื่นชอบของแฟนบอล แมนฯ ยูไนเต็ด อย่างมาก แต่ความสงสัยเกี่ยวกับฝีมือโค้ชชาวอาร์เจนติน่ายังคงมีอยู่หังจากเขาพา เปแอสเช ตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ทั้งที่สโมสรมีนักเตะชั้นนำมากมายอย่าง เนย์มาร์ และ คิเลียน เอ็มบั๊บเป้  

ผลงานที่ล้มเหลของ โปเช็ตติโน่ อาจหมายความว่า เขาจะถูกปลดออกจากตำแหน่งนายใหญ่ เปแอสเช เมื่อสิ้นสุดฤดูกาลนี้ และผู้อำนวยการฟุตบอล เลโอนาร์โด้ ก็พร้อมจะยกเครื่องใหม่ภายในสโมสรเพื่อไล่ล่าความสำเร็จต่อไป

ขณะที่ ผลงานของ เทน ฮาก นั้น โดดเด่นจากการพา อาแจ็กซ์ เข้าไปสู่รอบรองชนะเลิศของศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในปี 2019 ซึ่งตกรอบด้วยฝีมือของ สเปอร์ส ภายใต้การคุมทัพของ โปเช็ตติโน่

แต่ เทน ฮาก ก็ยังถูกมองว่า จะรับมือกับการทำงานในอังกฤษได้หรือไม่

อดีตผู้จัดการทีม อาแจ็กซ์ ก่อน เทน ฮาก อย่าง ปีเตอร์ บอสซ์ และ แฟรงค์ เดอ บัวร์ เมื่อออกจากสโมสรไปทำงานกับทีมใหม่ก็ล้มเหลวที่ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และ อินเตอร์ มิลาน ตามลำดับ ซึ่งทำให้ เทน ฮาก ก็ถูกตั้งคำถามเช่นเดียวกัน

          ในเวลานี้ รังนิก กล่าวถึงสถานการณ์ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ว่า “ผมไม่ใช่หมอดู ผมไม่รู้ว่า แมนฯ ยูไนเต็ด จะเป็นอย่างไรในฤดูกาลหน้า มันเป็นงานของผมที่จะพาทีมจบฤดูกาลนี้ด้วยคะแนนสูงสุด การพูดแบบนี้นั่นไม่ได้หมายความว่า ผมจำเป็นต้องพาทีมจบที่สี่”

“ผลลัพธ์ของเราในเกมกับ เลสเตอร์ มันไม่ได้ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นอย่างชัดเจน มันไม่ได้ช่วยอะไรเลยที่จะดูตารางทุกสุดสัปดาห์ และคาดเดาว่าจะเกิดอะไรขึ้น ตอนนี้ เราไม่ใช่ทีมเต็งสำหรับคว้าตำแหน่งท็อปโฟร์”

, , , , , ,