โมดริชโครสคาเซมิโร่ กองกลาง มาดริด

นี่อาจไม่ใช่ฤดูกาลที่น่าประทับใจนักสำหรับ เรอัล มาดริด สโมสรดังแห่งศึก La liga สเปน ภายใต้การคุมทีมของ ซีเนดีน ซีดาน ยอดกุนซือมากฝีมือชาวฝรั่งเศส แต่ในขณะที่เหลือเวลาอีกเพียง 1 เดือนจะจบฤดูกาลนั้น พวกเขายังคงมีลุ้นทั้งแชมป์ลา ลีกา และถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เพราะมี โมดริชโครสคาเซมิโร่ กองกลาง เรอัล มาดริด เป็นคีย์แมนสำคัญในแผงมิดฟิลด์

แน่นอนว่า สิ่งสำคัญที่ทำให้ “ราชันชุดขาว” ยังคงมีลุ้นแชมป์ 2 รายการใหญ่ก็คือ จุดแข็งในแดนกลางที่มี โมดริชโครสคาเซมิโร่ มิดฟิลด์ เรอัล มาดริด คอยบัญชาเกมทำให้พวกเขายังเป็นทีมที่สุดยอด และกลายเป็นทีมชั้นนำของ วงการฟุตบอลต่างประเทศ จนถึงตอนนี้ และก็ยังคงความเป็นสุดยอดทีมของวงการฟุตบอลแดนกระทิงดุได้อย่างยาวนานจลอดหลายปีที่ผ่านมา

โมดริช กองกลางทีมขาติโครเอเชียวัย 35 ปี โครส มิดฟิลด์ทีมชาติเยอรมันวัย 31 ปี คาเซมิโร่ ห้องเครื่องทีมชาติบราซิลวัย 29 ปี ยังคงผนึกกำลังกันได้อย่างลงตัว และมีฤดูกาลที่ยอดเยี่ยม โดยยอดมิดฟิลด์ทั้ง 3 ราย แทบไม่มีปัญหาบาดเจ็บรบกวน และเป็นกระดูกสันหลังให้กับทีมของ ซีดาน เกือบทั้งฤดูกาล และที่ผ่านๆมา พวกเขาทั้ง 3 คน ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมตลอด และแทบฟอร์มไม่ตกเลยแม้แต่นิดเดียว ซึ่งเรียกได้ว่า เป็นการยืนระยะในจุดสูงสุดได้อย่างยาวนานตลอดเส้นทางของพวกเขา

การแข่งขันฟุตบอลในศึก ลาลีกา สเปน นั้น มาดริด มีคะแนนตามหลัง แอตเลติโก มาดริด คู่อริร่วมเมืองอยู่เพียง 2 แต้มเท่านั้น โดยเหลือการแข่งขัน 4 นัด ซึ่งมันมีทาง และโอกาสที่เป็นไปได้ที่ มาดริด จะแซง”ตราหมี” คว้าแชมป์ในช่วงท้ายฤดูกาล แต่มันขึ้นอยู่กับว่า พวกเขารักษาความสม่ำเสมอได้มากเพียงใด

ขณะเดียวกันคู่แค้นตลอดกลางอย่าง “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า ภายใต้การคุมทีมของ โรนัลด์ คูมัน โค้ชชาวฮอลแลนด์ ที่ถึงแม้ฤดูดกาลนี้ฟอร์มการเล่น รวมถึงระบบทีมยังไม่เข้าที่เข้าทางนั้น แต่ก็ยังตามมาในอันดับที่ 3 ในศึกลาลีกา โดยมีแต้มเท่ากันกับ มาดริด แต่เป็นรองแค่ประตูได้เสีย

3 กองกลาง เรอัล มาดริด

แบ่งหน้าที่กันโดย โมดริช ทำหน้าที่คอยควบคุม เคลื่อนที่เชื่อมเกม และบัญชาเกม ส่วน โครส ทำหน้าที่เป็นคนคอยสร้างสรรค์เกมจากแนวลึกสลับกับจ่ายบอลทันทีเมื่อมีโอกาส ส่วน คาเซมิโล่ ยืนปักหลักคอยปัดกวาดหน้าแผงเกมรับ และคอยไล่ปิดช่วงเกมรุกฝ่ายตรงข้าม หรือทำลายเกมในจังหวะสำคัญต่างๆ

ตลอด 7 ปีที่ผ่านมา ไม่มีมิดฟิลด์คนใดของ “ราชันชุดขาว” จะมีศักยภาพ และโชว์ฟอร์มได้ดีกว่า โมดริช โครส คาเซมิโล่ 3 ยอดกองกลาง เรอัล มาดริด อีกแล้ว และพวกเขาทั้ง 3 คน ถือเป็นนักเตะที่มีอิทธิพลต่อเกม และแท็คติคของ มาดริด เป็นอย่างมาก

โมดริช โครส คาเซมิโล่ เล่นอยู่ในฟอร์มระดับท็อปเสมอ และเป็นกุญแจสำคัญในแท็คติคของ ซีดาน ตลอดหลายปีที่ผ่านมาจนแทบจะหาจุดอ่อนไม่เจอเลย และเป็นเรื่องยากที่ มาดริด จะหานักเตะกองกลางฝีเท้าระดับคุณภาพเข้ามาทดแทนได้

นอกจาก เรอัล มาดริด จะมี โมดริช โครส คาเซมิโล่ ยืนเป็นกุญแจสำคัญในแดนกลางนั้น พวกเขายังมี เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ มิดฟิลด์ดาวรุ่งชาวอุรุกวัย วัย 22 ปี และ อิสโก้ กองกลางทีมชาติสเปนวัย 29 ปี คอยเป็นกำลังเสริมชั้นดีให้กับ ซีดาน ในการสู้ศึกรายการสำคัญต่างๆในฤดูกาลนี้

ขณะเดียวกัน การที่ โมดริช โครส คาเซมิโล่ 3 ยอดกองกลาง เรอัล มาดริด ยืนปักหลักในแดนกลางนั้น ทำให้พวกเขาเก็บคีลนชีตได้ถึง 9 เกม 17 เกมหลังสุดแท้จะไม่มีบรรดากองหลังตัวจริงที่บาดเจ็บอย่าง ดานี การ์บาฆาล แบ็คขวาชาวสเปน , เซอร์คิโอ รามอส กองหลังกัปตันทีม , ราฟาเอล วาราน เซ็นเตอร์ฮาล์ฟทีมชาติฝรั่งเศส และ แฟร์กล็องด์ เมนดี้ แบ็กซ้ายเฟรนช์แมน

นอกจากนี้ การบาดเจ็บของแนวรับตัวหลักของ มาดริด นั้น ทำให้นักเตะที่ถูกมองข้ามอย่าง นาโช่ เฟอร์นันเดซ ได้แจ้งเกิดอีกด้วย โดยกองหลังวัย 31 ปี ซึ่งเป็นตัวสำรองมาตลอดนนั้นทำใหน้าที่แมน รามอส ได้อย่างยอดเยี่ยม โดย นาโช่ เล่นเกมรับได้อย่างเหนียวแน่น แข็งแกร่ง และเยือกเย็น แม้ก่อนหน้านี้เขาจะเป็นตัวสำรองที่แทบไม่ได้ลงสนามให้กับ มาดริด เลยก็ตาม

สิ่งที่สำคัญอีกอย่างของ มาดริด ในฤดูกาลนี้คือ ธิโบต์ กูร์ตัวส์ นายทวารมือ 1 ทีมชาติเบลเยียม ที่คว้าตัวมาจาก เชลซี สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อปี 2018 กลับคืนฟอร์มเก่งอีกครั้ง และเก็บคลีนชีตได้หลายเกม ซึ่งทำให้นักเตะ มาดริด คนอื่นๆเล่นด้วยความมั่นใจที่มากขึ้น

เมื่อแผงกองกลางลงตัว แนวรับแข็งแกร่ง และมีทีเด็ดจากแนวรุกโดยมี คาริม เบนเซม่า หัวหอกจอมเก๋าชาวฝรั่งเศส ยืนค้ำเป็นศูนย์หน้าตัวเป้านั้น เรอัล มาดริด ก็ยังเป็นที่ที่เต็มไปด้วยคุณภาพ และแข็งแกร่งอยู่เสมอไม่ว่าจะลงแข่งขันรายการใดทั้งในสเปน และในศึกฟุตบอลยุโรป

องค์ประกอบหลัก

อีกประการหนึ่งที่ทำให้ มาดริด ยังสามารถรักษาระดับฟอร์มการเล่นในฐานะทีมลุ้นแชมป์ก็คือ ความเชื่อมั่น และไม่หวั่นไหวเมื่อพวกเขาตกอยู่ในสถานการณืที่ยากลำบาก และนี่คือ ดีเอ็นเอ หรือสายเลือดของทีมที่มีจิตใจมุ่งมั่นจะเป็นแชมป์เต็มตัวของพวกเขาจากในหลายๆฤดูกาลที่ผ่านมา มาดริด ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า พวกเขาเป็นทีมที่สามารถพลิกสถานการณ์ได้ตลอดเวลาแม้จะเป็นรองคู่แข่งไปก่อนก็ตาม

ถึงแม้ว่า จะไม่มีใครรับประกันได้ว่า “ราชันชุดขาว” มาดริด ภายใต้การนำของ ซีดาน เทรนเนอร์ยอดฝีมือชาวฝรั่งเศส จะคว้าแชมป์รายการใดรายการหนึ่งได้หรือไม่ในช่วงจบฤดูกาลนี้ แต่ตอนนี้ทุกคนในวงการฟุตบอลก็สามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่า พวกเขาเป็นทีมเต็งแชมป์ลำดับต้นๆที่คู่แข่งหลายทีมไม่อยากเผชิญหน้าด้วย และเป็นสุดยอดทีมแห่งทศวรรษนี้เลยก็ว่าได้

การมีนักเตะอย่าง โมดริช โครส คาเซมิโร่ ช่วยกันยืนปักหลักในแดนกลาง และมีนักเตะมากประสบการณ์อย่าง รามอส ที่ผ่านเกมมาอย่างโชกโชนตลอดเส้นทางอาชีพ ยืนคุมแนวรับ บวกกับมันสมองในการวางแผน และการแก้เกมแบบละเอียดของ ซีดาน ในแต่ละเกมนั้น “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ยังคงเป็นทีมที่มีคุณภาพ และแข็งแกร่งอยู่เสมอยากที่ใครจะต่อกรด้วย