ทำไม โรเมลู ลูกากู ไม่เหมาะกับ เชลซี

โรเมลู ลูกากู กองหน้าทีมชาติเบลเยียมของ เชลซี สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยิงได้เพียง 2 ประตูจาก 12 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีก ซึ่งทำให้ โธมัส ทูเคิ่ล กุนซือชาวเยอรมัน “สิงโตน้ำเงินคราม” ต้องเจอบททดสอบสำคัญที่ทำให้ลูกทีมรายนี้โชว์ฟอร์มเก่งอีกครั้ง

ลูกากู เริ่มต้นฤดูกาลได้อย่างแข็งแกร่งหลังยิงไป 4 ประตู จากการลงสนาม 4 นัดแรกของตัวเองให้กับ เชลซี หลังย้ายจาก อินเตอร์ มิลาน ในกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี มาเล่นในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ด้วยค่าตัวมหาศาลถึง 97.5 ล้านปอนด์ ในเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว

อย่างไรก็ตาม หลังได้รับบากเจ็บที่ข้อเท้าในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ลูกากู ก็ยังไม่สามรถเรียกฟอร์มการเล่นกลับมาได้เลย และล่าสุดจากการที่เขาออกมาให้สัมภาษณ์วิจารณ์แท็คติคของ ทูเคิ่ล นั้น ก็ยิ่งทำให้กลายเป็นประเด็นขึ้นมาอีก

โรเมลู ลูกากู ถูกเปลี่ยนบทบาท

ขณะเดียวกัน บทสัมภาษณ์ของ ลูกากู กับสื่อมวลชนแดนมพะกะโรนีก็ส่งผลให้เขาต้องฟื้นฟูความสัมพันธ์กับกองเชียร์ของ เชลซี ขึ้นมาอีก โดยหัวหอกวัย 28 ปี ระบุว่า ช่วงเวลาที่ อินเตอร์ คือ สิ่งที่ดีที่สุดของเขาหลังจากล้มเหลวกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ อันโตนิโอ คอนเต้ อดีตโค้ช “งูใหญ่” ก็มีอิทธิพลมหาศาลกับเขา

ลูกากู ประสบควาสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่กับ อินเตอร์ หลังพาทีมคว้าแชมป์กัลโช่ เซเรีย อา ได้สำเร็จในรอบกว่าทศวรรษของสโมสร และยังระเบิดสกอร์ได้ถึง 64 ประตูจากการลงเล่น 95 นัดในทุกรายการตลอด 2 ปีกับ “งูใหญ่”

ภายใต้การทำงานกับ คอนเต้ นั้น ลูกากู ถูกเรียกจุดแข็งออกมาใช้งานภายใต้ระบบ 3-5-2 ซึ่งดาวยิงชาวเบลเยียมยืนเป็นกองหน้าคู่กับ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ และประสานงานกันได้อย่างสุดยอดจนช่วยกันถล่มประตูมากมาย

ขณะที่ระบบของ ทูเคิ่ล นั้นคล้ายกับของ คอนเต้ ในแง่ที่ว่ามันประกอบด้วยการยืนกองหลัง 3 คน แต่แนวรุกนั้นมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยที่ เชลซี ลูกากู มักจะเล่นเป็นกองหน้าตัวเป้าคนเดียว และถูกขนาบข้างด้วยปีก 2 คน แทนที่จะเป็นกองหน้าคู่แบบที่ อินเตอร์

ระบบการเล่นของ เชลซี เป็นปัญหาสำหรับ ลูกากู ด้วยเหตุผลหลายอย่าง อาทิ เขาต้องเป็นตัวหลักในการจบสกอร์ ครองบอล และหันหลังให้กับคู่แข่ง โดยบอลจะถูกสร้างสรรค์มาจากแดนกลาง และตัวรุกริมเส้นที่ ทูเคิ่ล วางเอาไว้ และมันเป็นงานที่เขาไม่ชื่นชอบ

อดีตกองหน้า อินเตอร์ กล่าวว่า “ผมตัวใหญ่ และทุกคนคิดว่า ผมเป็นกองหน้าตัวเป้าคนเดียวได้ แค่ครองบอล และคอยยิงประตู แต่ผมไม่เคยชอบการเล่นแบบนั้นเลย และเกลียดมันมาก จุดแข็งที่ดีที่สุดของผมคือ ผมอันตรายเมื่อต้องเผชิญหน้ากับเป้าหมาย เพราะนั่นเป็นช่วงที่ผมไม่ค่อยเลือกจังหวะที่ผิด”

ลูกากู สามารถเล่นแบบนั้นได้ที่ อินเตอร์ โดยหันหน้าเข้าหาประตูคู่แข่งมากกว่าที่จะอยู่ห่างจากประตู ส่วนหนึ่งเป็นเพราะรูปแบบการเล่นของ คอนเต้ ซึ่งทำให้หัวหอกเบลเยียมได้เล่นตามสไตล์ที่ตัวเองต้องการ และทำผลงานได้ดี

การเล่นระบบกองหน้า 2 คน ทำให้ ลูกากู มีเวลาครองบอลมากขึ้น และเขาจะฉีกตัวเองออกไปด้านขวาเพื่อหาช่องว่าง เก็บบอล และพาบอลเข้าไปลุ้นประตู ซึ่งเป็นงานที่เขาถนัด แต่ที่ เชลซี ทูเคิ่ล ชอบใช้ตัวริมเส้น 2 คนทำให้เขาต้องถูกจำกัดหน้าที่ และมีอิสระน้อยลง

ในฤดูกาลนี้ ลูกากู ยิงประตูน้อยลง สัมผัสบอลน้อยลง ส่งบอลน้อยลง และสร้างโอกาสน้อยลงกว่าสมัยที่เขาเล่นกับ อินเตอร์ แต่สิ่งที่น่าสังเกตคือ เขาต้องดวลลูกกลางอากาศได้มากขึ้น ซึ่งเป็นหลักฐานเพิ่มเติมว่าบทบาทของเขาเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน

ขาดผู้สนับสนุน

หลังเกมที่ เชลซี บุกไปพ่าย แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-1 เมื่อวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมา ลูกากู พลาดโอกาสทำประตูแบบน่าเสียดายไปหลายครั้ง และทำให้ ทูเคิ่ล ออกมาวิจารณ์ผลงานของเขาผ่านสื่อจนกลายเป็นประเด็น

โค้ชชาวเยอรมัน กล่าวว่า “เรามีช่วงจังหวะที่ดีๆหลายครั้ง แต่เราก็ไม่สามารถทำประตูได้เลย นั่นหมายความว่า กองหน้าของเราขาดการยืนตำแหน่ง การอ่านเกม  ละความนิ่ง แน่นอน เราต้องการเขา เขาเป็นส่วนหนึ่งของทีม”

“แต่เราสามารถทำได้ดีกว่านี้มาก บางครั้ง ลูกากู จำเป็นต้องทำหน้าที่เปิดช่องว่างด้วย เขาเสียบอลหลายครั้งในสถานการณ์ที่ดี และเขามีโอกาสทำประตูแต่ก็พลาดไป”

ในการเป็นตัวจริง 17 นัดของ ลูกากู นั้น ทูเคิ่ล เปลี่ยนแนวรุกแทบตลอดโดยมี อดีตแข้ง อินเตอร์ ยืนเป็นศูนย์หน้าตัวกลาง ซึ่งทำให้เขาขาดความเจ้าใจกับเพื่อนร่วมทีม ซึ่งมันไม่เหมือนสมัยกับการเล่นที่ อินเตอร์ ซึ่งเขาได้เล่นกับ มาร์ติเนซ เป็นประจำ

การหมุนเวียนนักเตะแนวรุกของ ทูเคิ่ล เกิดขึ้นจากความจำเป็นในบางครั้ง แน่นอนว่า คริสเตียน พูลิซิช, ไค ฮาเวิร์ตซ์, ฮาคิม ซิเยค, เมสัน เมาท์, คัลลั่ม ฮัดสัน โอดอย และ ติโม แวร์เนอร์ ต่างก็มีสภาพร่างกายที่ไม่สมบูรณ์

แต่ปัญหาที่ใหญ่กว่าคือ ไม่มีผู้เล่นคนใดสามารถโชว์ฟอร์มในระดับสูงได้อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งอันที่จริงสำหรับแนวรุกของ เชลซี ในฤดูกาลนี้ มีเพียง เมาท์ และ ฮัดสัน โอดอย เท่านั้นที่อยู่ใน 50 อันดับแรกของผู้เล่นพรีเมียร์ลีกในแง่ของโอกาสที่สร้างสรรค์โอกาส

ขณะเดียวกัน ข้อมูลการจ่ายบอลของ Opta แสดงให้เห็นว่า เมาท์ และ มัตเตโอ โควาซิส เป็น 2 ผู้เล่นที่จ่ายบอลให้ ลูกากู เป็นประจำ ส่วนคนอื่นๆอย่าง ซิเยค, เมาท์, แวร์เนอร์, ฮาเวิร์ตซ์, และ ฮัดสัน โอดอย ก็แทบไม่ได้เล่นร่วมกับเขาเลย

ทูเคิ่ล อธิบายว่า  “โรเมลู ไม่ใช่ปัญหาของเราเลย เรามักตกอยู่ในความสนใจของสื่ออยู่เสมอ เราถูกตัดสินจากพวกคุณ และนั่นเป็นเข่าวแทบจทุกวัน ถ้าคุณเป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยม หรือคุณเล่นได้ดี คนเหล่านี้พูดถึงคุณ และถ้าคุณเล่นไม่ดี คุณก็จะเป็นข่าวอีก นี่เป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจ ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ก็ตาม”

“มันไม่ค่อยเกิดขึ้นในวงการฟุตบอลที่คุณมีสถานการณ์หรือปัญหา และมันเป็นทางออกเดียว มันเป็นส่วนผสมของอิทธิพลมากมายเสมอ เขามีส่วนร่วมกับเรามากขึ้น และเขาก็มีปัญหาบ้าง มีเหตุผลสำหรับเรื่องนี้ เราคุยกันแล้ว นั่นคือวิธีที่มันเป็น และเขาไม่ใช่คนเดียวที่เราพึ่งพาระหว่างเกม ดังนั้นมันจึงไม่มีอะไรพิเศษ”