ไทริค มิตเชลล์ จากแข้งโนเนมสู่ทัพ “สิงโตคำราม”

ไทริค มิตเชลล์ แบ็คซ้ายตัวเก่งของ คริสตัล พาเลซ สโมสรดังแห่งศึก พรีเมียร์ลีก ได้รับโอกาสครั้งสำคัญด้วยการถูก แกเร็ธ เซาธ์เกตต์ ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษเรียกตัวไปติดทัพ “สิงโตคำราม” เป็นครั้งแรกในเส้นทางอาชีพนักฟุตบอล

หลังจากที่บรรดาฟูลแบ็คหลายๆคนของอังกฤษอย่าง เบน ชิลเวลล์ ของ เชลซี คีแรน ทริปเปียร์ ของ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ลุค ชอว์ ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ของ ลิเวอร์พูล ต่างพากันได้รับบาดเจ็บนั้น มิตเชลล์ จึงถูกเรียกตัวเข้าสู่ทีม

ความฝันที่เป็นจริงของ ไทริค มิตเชลล์

มิตเชลล์ ซึ่งมีชื่อติดทีมชาติอังกฤษแบบเซเอร์ไพรส์ในเกมอุ่นเครื่องกับ สวิตเซอร์แลนด์ และ ไอวอรี่ โคสต์ เริ่มเล่าว่า  “มันเป็นฝันที่เป็นจริงของผม ผมไม่เคยคิดเลยว่ามันจะเกิดขึ้นเร็วขนาดนี้”

ขณะที่ เซาธ์เกตต์ เปิดเผยถึงการเรียกกองหลังวัย 22 ปี เข้ามาสู่ทีมว่า “เขาทำได้ดีมากกับ คริสตัล พาเลซ เขาพัฒนาฝีเท้าอย่างรวดเร็ว และในเกมใหญ่ๆที่ต้องรับมือกับบรรดานักเตะชั้นนำในพรีเมียร์ลีกนั้น เขาก็ทำผหน้าที่ได้ดีมาก”

ในช่วงที่ผ่านมา มิตเชลล์ ไม่เคยติดทีมชาติอังกฤษมาก่อนเลยแม้จะเป็นในชุดเยาวชนก็ตาม แต่นับตั้งแต่เขาย้ายจากอคาเดมี่ เบรนท์ฟอร์ด มาเล่นกับ พาเลซ ในปี 2016 นั้น เจ้าตัวก็พัฒนาฝีเท้าอย่างก้าวกระโดด

ริชาร์ด ชอว์ อดีตผู้จัดการทีมชุดอายุต่ำกว่า 23 ปี ของ พาเลซ เปิดเผยว่า มิตเชลล์ มีศักยภาพใกล้เคียงกับอดีตเพื่อนร่วมทีมอย่าง อารอน วาน-บิสซากา อดีตแบ็คขวาของทีมที่ปัจจุบันย้ายไปเล่นกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ชอว์ กล่าวว่า “บุคลิกของ ไทริค ยอดเยี่ยมมาก เขาสงบนิ่งมาก มันไม่มีอะไรในสนามที่สามารถมากวนใจเขาได้เลย เมื่อเขาเข้ามาในในทีม U23 เขาเป็นนักเตะที่โดดเด่นกว่าคนอื่นๆ และการดวลตัวต่อตัวกับคู่แข่งเขาก็ทำได้ดีมาก”

“สิ่งแรกที่ผมมองหาในตำแหน่งฟูลแบ็คคือ การเล่นเกมรับ และเขาเป็นกองหลังที่ตัวต่อตัวได้ยอดเยี่ยมจริงๆ เขาคล้ายคลึงกับ อารอน วาน-บิสซาก้า มากๆในเรื่องการเล่นเกมรับ เขาเป็นผู้เล่นที่เอาชนะได้ยากมากจริงๆ เขามักจะยืนตำแหน่งได้ถูกที่ถูกเวลาอยู่เสมอ”

ขณะเดียวกัน ทักษะการป้องกันของ มิตเชลล์ ทำให้เขาเป็นส่วนสำคัญในแผงหลังของ พาเลซ ภายใต้การคุมทัพของ ปาทริค วิเอร่า เทรนเนอร์ชาวฝรั่งเศส ซึ่งมีผลงานน่าประทับใจในฤดูกาลนี้ โดยมีเพียง 7 ทีมเท่านั้นที่เสียประตูน้อยกว่าพลพรรค “ดิ อิเกิ้ลส์”

ก้าวเข้าสู่ทีมชุดใหญ่ของ พาเลซ

การเล่นเกมรับที่ยอดเยี่ยมของ มิตเชลล์ ทำให้ รอย ฮอดจฺสัน อดีตโค้ชจอมเก๋าของ พาเลซ ดันเข้าขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา โดยส่งประเดิมสนามในเดือนกรกฎาคมปี 2020 ซึ่งในเวลานั้นก็ต้องแย่งตำแหน่งกับ แพทริค ฟาน อานโฮลท์ กองหลังชาวดัตช์ด้วยเช่นกัน

ชอว์ ซึ่งตอนนี้เป็นผู้ช่วยโค้ชของ วัตฟอร์ด ยู-23 กล่าวต่อว่า “มันยากสำหรับผู้เล่นอายุน้อยที่จะได้เล่นในพรีเมียร์ลีก ผู้จัดการทีมไม่มีเวลามาดูคุณมากนัก และคุณต้องลงสนามในพรีเมียร์ลีกทันที คุรไม่มีเวลามาเรียกร้องอะไร และต้องตั้งใจทำงาน แต่นั่นคือสิ่งที่ ไทริค ทำ”

ผลงาน 2 แอสซิสต์ จาก 29 นัดในพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้นั้น ทำให้ความท้าทายครั้งต่อไปของ มิทเชลล์ คือการเพิ่มคุณภาพการเล่นเกมรุกให้มากขึ้นกว่าเดิม และนั่นคือ คุณสมบัติหลักของฟูลแบ็คที่ประสบความสำเร็จภายใต้การทำงานกับ เซาท์เกต ในแคมป์ทีมชาติอังกฤษในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

แต่ด้วยฐานป้องกันที่แข็งแกร่งนั้น ชอว์ ก็เชื่อว่า มิทเชลล์ พร้อมสำหรับการพัฒนาในด้านอื่นๆมากกว่าไปนี้เช่นกัน โดยระบุว่า “เขาพัฒนาเกมรุกได้ดีขึ้นจริงๆ ผมเห็นว่าเกมการเล่นของเขาพัฒนาขึ้นก่อนที่ผมจะออกจาก พาเลซ”

“เราไม่เคยกังวลเรื่องการเล่นเกมรับของเขามากนัก เขารู้ว่าเมื่อใดควรเข้าปะทะ และควรออกบอลเมื่อใด เขารู้วิธีที่ทำให้เพื่อนร่วมทีมเห็นว่า เขาพร้อมช่วยเหลืออยู่เสมอ เขาเคลื่อนที่ได้ในเวลาที่เหมาะสม”

“แต่ในเกมฟุตบอลสมัยใหม่ตอนนี้ คุณต้องแอสซิสต์ด้วย เพราะคุณจะได้เห็นโอกาสในการทำประตู ทีมชาติอังกฤษมีฟูลแบ็คมากมายที่ไม่เพียงแต่เป็นฟูลแบ็กที่ดีเท่านั้น แต่พวกเขายังเล่นบอลได้ดีมาก นั่นคือ สิ่งที่กองหลังสมัยใหม่ต้องมี และทำ สำหรับ ไทริค นั่นเป็นสิ่งหนึ่งที่เขาพัฒนาขึ้นจริงๆ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา”

ขณะเดียวกัน ชอว์ ก็ตั้งตารอคอยที่จะได้เห็น มิทเชลล์ ได่ประเดิมรับใช้ทีมชาติอังกฤษเป็นครั้งแรก และเขามั่นใจว่าอดีตลูกทีมของเขาจะใช้โอกาสนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และจะก้าวมาเป็นขาประจำในทัพ “สิงโตคำราม” ในอนาคต

ชอว์ กล่าวว่า “เขาอาจจจะประหม่าเล็กน้อยเมื่อต้องพบกับเพื่อนร่วมทีมเป็นครั้งแรก แต่นั่นเป็นสิ่งที่ดีที่ต้องมี และเมื่อเขาลงสนามซ้อม ผมคิดว่าเขาจะทำหน้าที่อย่างยอดเยี่ยม สถานการณ์ต่างๆเกิดขึ้นได้ในวงการฟุตบอล”

“คุณสร้างโชคของคุณเองในวงการฟุตบอล และคุณต้องคว้ามันไว้ และดูว่า มันจะพาคุณไปที่ไหน แต่ผมคิดว่า เซาธ์เกตต์ ได้สร้างสภาพแวดล้อมที่ทำให้ผู้เล่นเข้าร่วมทีมได้ง่ายขึ้นในตอนนี้”

ความฝันของ มิตเชลล์ กลายเป็นความจริง แต่พรสวรรค์ ตัวตัน และการทำงานหนักของเขาหมายความว่า เขาพร้อมแล้วสำหรับความท้าทายครั้งนี้