โรเมลู ลูกากู จอมฝืดผู้พา อินเตอร์ คว้าแชมป์

อินเตอร์ มิลาน สโมสรดังแห่ง วงการฟุตบอลต่างประเทศ สิ้นสุดการรอคอยที่ยาวนานถึง 11 ปีกับการคว้าแชมป์กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี หลังจากพวกเขาคว้าแชมป์ในฤดูกาลนี้สำเร็จ และ โรเมลู ลูกากู หัวหอกทีมชาติเบลเยียมก็เป็นคีย์แมนสำคัญที่ทำให้ “งูใหญ่” มาถึงจุดนี้ได้

ลูกากู ย้ายจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาเล่นกับ อินเตอร์ เมื่อซัมเมอร์ปี 2019 ด้วยค่าตัว 74 ล้านปอนด์ โดยเข้ามาแทน เมาโร อิคาร์ดี ดาวยิงทีมชาติอาร์เจนติน่า ที่ย้ายไปยัง ปารีส แซงต์ แชร์แมง ในลีกเอิง ฝรั่งเศส

 ลูกากู ย้ายออกจาก แมนฯ ยูไนเต็ด พร้อมกับสถิติซัดไป 42 ประตู จาก 96 เกมตลอด 2 ปี และได้รับการวิจารณ์อย่างหนักว่า เป็นการซื้อตัวที่ล้มเหลวของ “ปีศาจแดง” แต่ตอนนี้กองหน้าวัย 27 ปี พิสูจน์ตัวเองกับ อินเตอร์ ได้เรียบร้อยแล้ว

โรเมลู ลูกากู

การเปลี่ยนแปลงของ โรเมลู ลูกากู ที่ อินเตอร์

สมัยที่ค้าแข้งในอังกฤษกับทั้ง เอฟเวอร์ตัน และ แมนฯ ยูไนเต็ด ลูกากู มักจะได้รับบาบาทเป็นศูนย์หน้าตัวเป้าที่โดดเดี่ยว แต่กับ อินเตอร์ ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ อันโตนิโอ คอนเต้ เขาถูกปรับมาเล่นเป็นกองหน้าคู่ในระบบ 3-5-2

ลูกากู เล่นด้วยความมั่นใจมากขึ้น และถูกรีดศักยภาพออกมาได้อย่างเต็มที่ รวมถึงยังทำให้ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ ดาวยิงชาวอาร์เจนไตน์ คู่หูของเขาที่ อินเตอร์ นั้น โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น ซึ่งทั้งคู่ประสานงานกันอย่างเข้าขาลงตัว

ลูกากู กับ มาร์ติเนซ เล่นด้วยกันอย่างเป็นธรรมชาติ และเป็นนักเตะที่เคมีเข้ากันมาก ซึ่งพวกเขาทั้งคู๋ช่วยเหลือกันเป็นอย่างดี และไม่มีการหวงบอลเลยเมื่ออีกคนมีโอกาสที่ดีกว่าในการทำประตู โดยทั้ง 2 รายมีส่วนร่วมกับสกอร์ และแอสซิสต์ของ อินเตอร์ ในปีนี้ไปแล้ว 87 ประตู

นอกจากนี้ หัวหอกชาวเบลเยียม ยังปรับปรุงตัวเองด้วยการเล่นเป็นทีมมากขึ้น และในบางครั้งเขายังลงมาสร้างสรรค์เกมด้วยตัวเองมากกว่าสมัยที่เคยเล่นให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่คอยยืนเป็นศูนย์หน้าตัวเป้าในกรอบเขตโทษ

ในช่วงแรกที่ ลูกากู ย้ายมาเล่นกับ อินเตอร์ นั้น เจ้าหน้าที่วิทยาศาสตร์การกีฬาของสโมสรได้ให้เขาทานอาหารที่มีเนื้อสัตว์ และผักเยอะมากเพื่อลดไขมัน และมันก็ได้ผลหลังจาก ดาวยิงเบลเยียม มีสภาพร่างกายที่ปราดเปรียว และรวดเร็วมากกว่าเดิม

ลูกากู อินเตอร์

ก้าวสู่การเป็นนักเตะระดับท็อป

คำวิจารณ์ที่มีเกี่ยวกับตัวของ ลูกากู สมัยที่ค้าแข้งกับ แมนฯ ยูไนเต็ด คือ เขาไม่ได้เป็นผู้เล่นระดับตัดสินชัยชนะในบิ๊กแมตช์ได้ หลังจากเจ้าตัวซัดไปเพียงลูกเดียวกับ 5 แอสซิสต์ ใน 16 เกมที่เจอกับทีมใน 6 อันดับแรกของพรีเมียร์ลีก

ในปีแรกกับ อินเตอร์ คำวิจารณ์แบบเดียวกันยังคงมีอยู่หลังจากเขาโชว์ฟอร์มไม่ออกในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ บาร์เซโลน่า และเกมนัดชิงชนะเลิศศึกยูโรป้า ลีก ที่พ่ายให้กับ เซบีย่า เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ ลูกากู พัฒนาฟอร์มอย่างก้าวกระโดดหลังมีส่วนร่วมกับสกอร์ และแอสซิสต์ในเกมที่ อินเตอร์ เจอกับทีม 6 อันดับแรกในเซเรีย อา อย่าง เอซี มิลาน, อตาลันต้า, ยูเวนตุส, นาโปลี, ลาซิโอและ โรม่า

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า การทำงานกับ คอนเต้ ทำให้ ลูกากู พัฒนาขั้นมาก และในเวลานี้ หัวหอกชาวเบลเยียม ได้แสดงให้ทุกคนเห็นแล้วว่า เขาเป็นนักเตะชั้นยอดใน วงการฟุตบอลต่างประเทศ ณ เวลานี้

, , , , , , ,

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *