ราฟาเอล เบนิเตซ เทรนเนอร์ชาวสเปน ของ เอฟเวอร์ตัน สโมสรดังแห่ง พรีเมียร์ลีก และ วงการฟุตบอลต่างประเทศ ใช้เงินเสริมทัพนักเตะใหม่ไปเพียง 1.7 ล้านปอนด์เท่านั้นในตลาดนักเตะซัมเมอร์ที่ผ่านมา และดูเหมือนว่า “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” จะเจอคนที่เหมาะสมกับพวกเขาแล้ว
นับตั้งแต่ ฟาฮัด โมชิริ นักธุรกิจชาวอังกฤษเชื้อสายอิหร่านเข้ามาเทคโอเวอร์ เอฟเวอร์ตัน ตั้งแต่ปี 2016 จนถึง ณ ปัจจุบัน นั้น พลพรรค “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” ใช้เงินในการคว้านักเตะใหม่มาร่วมทีมเกือบ 500 ล้านปอนด์เลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม ในซัมเมอร์ที่ผ่านมา เบนิเตซ ทำสิ่งที่หลายคนเซอร์ไพรส์พอสมควรหลังลงทุนไปเพียง 1.7 ล้านปอนด์ในการคว้านักเตะใหม่อย่าง ซาโลมอน รอนดอน, เดมาไร เกรย์, อันดรอส ทาวน์เซนด์, แอนดี้ โลเนอร์แกน และ อัสเมียร์ เบโกวิช เข้ามาร่วมทีม
ราฟาเอล เบนิเตซ เทรนเนอร์ชาวสเปน ใช้เงินอย่างเหมาะสม
ในยุคปัจจุบันในเป็นเรื่องยากที่สโมสรจะใช้เงินเพียง 1.7 ล้านปอนด์ คว้านักเตะใหม่ 5 รายมาร่วมทีม และมันเป็นจำนวนเงินที่น้อยที่สุดนับตั้งแต่ปี 1990 ที่ เอฟเวอร์ตัน ทำการเสริมทัพมา ซึ่งมันเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อไม่น้อย
แม้จะได้นักเตะใหม่มาร่วมทีมแบบไม่เสียค่าตัว แต่ผู้เล่นอย่าง รอนดอน ที่คว้าตัวมาจาก ต้าเหลียน โปร ในศึกไชนีสซุเปอร์ลีกนั้น ก็มีค่าเหนื่อยมหาศาล นอกจากนี้ เอฟเวอร์ตัน ก็ไม่สามารถหาทีมใหม่ให้ผู้เล่นค่าเหนื่อยแพงที่ไม่อยู่ในแผนการทำทีมอย่าง ฮาเมส โรดริเกซ จอมทัพชาวโคลอมเบียได้
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เอฟเวอร์ตัน สูญเสียเงินมากมายไปกับการซื้อนักเตะแล้วใช้งานไม่คุ้มค่าตัวหลายรายอาทิ อเล็กซ์ อิโวบี่, ยานิค โบลาซี่, ดาวี คลาสเซ่น, เซงต์ โทชุน, มอยเซ่ คีน, แอชลีย์ วิลเลียมส์, ฌอง-ฟิลิปป์ กบาแม็ง และ ธีโอ วัลคอตต์ ซึ่งพวกเขาค่าตัวรวมกว่า 200 ล้านปอนด์
เริ่มงานทันที
หลังจากเข้ามาแทนที่ของ คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือชาวอิตาลี นั้น เบนิเตซ เริ่มนำแนวทางที่ชัดเจนของเขามาใช้งานทันที โดยโค้ชวัย 61 ปี เริ่มมองหานักเตะที่เขาต้องการทันทีโดยเริ่มติดต่อไปที่ ทาวน์เซนด์ และ รอนดอน ซึ่งเคยร่วมงานกันที่ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด อย่างรวดเร็ว
ทาวน์เซนด์ ถูกกำหนดให้รับบทบาทเป็นตัวริมเส้นในแบบฉบับที่ เบนิเตซ ต้องการ ส่วน รอนดอน ก็เข้ามายืนค้ำเป็นศูนย์หน้าตัวเป้าตามถนัด และคอยเป็นตัวสนับสนุน โดมินิค คัลเวิร์ต-เลวิน หัวหอกชาวอังกฤษ และ ริชาร์ลิสัน ดาวยิงชาวบราซิล
ขณะที่ เกรย์ ที่ย้ายไปเล่นกับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ในบุนเดสลีก เยอรมัน เมื่อฤดูกาลที่แล้วถูกดึงกลับมาเล่นในอ้งกฤษอีกครั้ง และทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมภายใต้การคุมทีมของ เบนิเตซ หลังซัดไป 2 ประตู จาก 3 เกมในพรีเมียร์ลีก และมีชื่อเป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมของสโมสรเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาอีกด้วย
แนวทางการทำทีมของ ราฟาเอล เบนิเตซ เทรนเนอร์ชาวสเปน
แนวทางการทำทีมของ เบนิเตซ คือ มองหานักเตะฝีเท้าดี ราคาไม่แพง และสามารถปรับตัวเข้ากับระบบการเล่นของเขาได้ ซึ่งแตกต่างจากยุคของ อันเชล็อตติ อย่างสิ้นเชิง โดย ราฟา มีแนวคิดว่า เอฟเวอร์ตัน ไม่ใช่ทีมที่เน้นครองบอลเพื่อกดดันคู่แข่ง
เบนิเตซ ใช้จุดแข็งคือเกมรับที่แข็งแกร่ง และเกมโต้กลับไวที่เฉียบขาด ซึ่งทำให้กองหน้าอย่าง รอนดอน และ คัลเวิร์ต-เลวิน เป็นคีย์แมนสำคัญในเกมรุก รวมถึงความเร็วของปีกทั้ง 2 ฝั่งอย่าง เกรย์ และ ทาวน์เซนด์
นอกจากนี้ ริชาร์ลิสัน ก็ได้รับบทบาทเพิ่มเติมในการเป็นตัวสร้างสรรค์เกม และใช้ความเร็วเข้าไปหาโอกาสทำประตูในกรอบเขตโทษคู่แข่ง ซึ่งมันเป็นวิธีที่ เบนิเตซ ถนัดมาตลอดตั้งแต่สมัยคุม บาเลนเซีย และ ลิเวอร์พูล แล้ว
ในเวลานี้ เอฟเวอร์ตัน ภายใต้การนำของโค้ชจอมแท็คติคอย่าง เบนิเตซ กลายเป็นทีมที่ไม่ได้ใช้เงินฟุ่มเฟือยอีกแล้ว พวกกเขาเสริมทัพในตำแหน่งที่ต้องการ และสามารถใช้งานได้ทันที แลถึงแม้จะเป็นเพียงแค่ช่วงต้นฤดูกาล แต่นายใหญ่ชาวสเปนคนนี้ก็เริ่มทำให้เห็นแล้วว่า เขาเป็นคนที่เหมาะสมสำหรับถิ่น กูดิสัน ปาร์ค