นับตั้งแต่ แม็ตต์ เมียซก้า อดีตกองหลังวันเดอร์คิดชาวสหรัฐอเมริกา ย้ายจาก นิวยอร์ค เร้ด บูลส์ ในบ้านเกิดมาเล่นกับ เชลซี ทีมดังแห่ง วงการฟุตบอลยุโรป เมื่อตลาดนักเตะเดือนมกราคมปี 2016 นั้น ชีวิตของเขาก็เปลี่ยนแปลงไปออ่างไม่น่าเชื่อ
ไม่นานหลังย้ายมาเล่นในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ เมียซก้า ก็ต้องกลายเป็นนักเตะพเนจรตระเวนไปค้าแข้งด้วยสัญญายืมตัวกับ 4 สโมสรไล่ตั้งแต่ วิเทสส์ อาร์เน่ม ในฮอลแลนด์, น็องส์ ในฝรรั่งเศส, เรดดิ้ง ในเดอะแชมเปี้ยนชิพ และล่าสุดกับ อันเดอร์เลชท์ ในเบลเยียมเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา
ซัมเมอร์นี้ เมียซก้า กลับสู่ เชลซี อีกครั้ง โดยก่อนหน้านี้เขามีโอกาสลงสนามให้กับทีมชุดใหญ่ไปเพียง 2 เกม และถึงแม้ตอนนี้ กองหลังวัย 25 ปี ยังเหลือสัญญากับ “สิงโตน้ำเงินคราม” อีก 2 ปี แต่เจ้าตัวก็ยอมรับว่า อนาคตยังไม่มีอะไรแน่นอน
แม็ตต์ เมียซก้า กับอนาคตที่ เชลซี
อดีตเด็กปั้น นิวยอร์ค เร้ด บูลส์ กล่าวว่า “แผนการของผมตอนนี้คือ เดินหน้าต่อไป มันเป็นคำง่ายๆ ซึ่งพูดตามตรง นั่นคือเป้าหมายหลัก เราจะรอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นในตลาดนักเตะรอบนี้ ผมรู้ว่ามีความสนใจเข้ามา และเอเย่นต์ของผมได้พูดคุยกับบางสโมสรไปแล้ว ผมต้องการเคลียร์ทุกอย่างในฤดูร้อนนี้เพื่อตัวเองจะได้เตรียมพร้อมได้เหมาะสมที่ไหนสักแห่ง ผมคิดว่าถึงเวลาต้องเดินหน้าต่อไป เชลซี รู้เรื่องนี้ และผมก็รู้เช่นกัน”
เมียซก้า ยอมรับว่า เขาอยากมีโอกาสลงสนามให้กับ เชลซี มากกว่านี้ แต่การที่เขาถูกปล่อยยืมตัวไปหาประสบการณ์กับทั้ง วิเทสส์, น็องส์, เรดดิ้ง และ อันเดอร์เลชท์ นั้น ก็ทำให้เขาโอกาสลงเล่นอย่างสม่ำเสมอกับฟุตบอลอาชีพทีมชุดใหญ่มากถึง 150 เกม
เซ็นเตอร์แบ็คชาวอเมริกัน อธิบายต่อว่า “ผมมีเส้นทางอาชีพที่ไม่แน่นอนอยู่บ้าง แต่บอกตามตรง ผมจะไม่คิดเปลี่ยนแปลงมันหรอก เพราะผมได้เรียนรู้เยอะมาก ผมได้เรียนรู้มากมายในประเทศต่างๆ เหล่านี้ ปรัชญาฟุตบอลที่แตกต่างกัน และเห็นได้ชัดว่า ผมเติบโตขึ้นมามากจากการใช้ชีวิตกนอกสนามในวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน อยู่ในประเทศต่างๆ เรียนภาษาต่างๆ ดังนั้น มันจึงเป็นการเดินทางที่ดีสำหรับผม”
ความมั่นคงในอาชีพ
เมียซก้า ยังอายุเพียง 25 ปี ซึ่งถือว่ายังไม่มากสำหรับตำแหน่งปราการหลัง และการที่เส้นทางอาชีพไม่มั่นคงนั้น มันก็ไม่ได้รบกวนสมาธิในการเล่นฟุตบอลของเขา โดยเวลานี้ เจ้าตัวก็พร้อมแล้วที่จะเผชิญหน้ากับความท้าทายใหม่ที่รออยู่
“ผมไม่ใช่เด็กแล้ว ผมต้องการตั้งหลักปักฐานให้เป็นหลักแหล่ง เมื่อฤดูกาลสิ้นสุดลง มันเหมือนกับว่า เอาล่ะ ผมจะต้องกลับมาที่นี่ และมันก็ต้องเป็นแบบนั้นเพราะผมยังมีสัญญากับ เชลซี” อดีตกองหลัง นิวยอร์ค เร้ด บูลส์ กล่าว
ขณะเดียวกัน เมียซก้า ยังพูดถึงประสบการณ์ของเขาที่ อันเดอร์เลชท์ ซึ่งได้ร่วมงานกับกุนซือย่าง แวงซองต์ กองปานี อดีตยอดกองหลังทีมชาติเบลเยียมที่ทำให้เขาได้เรียนรู้มากมายเกี่ยวกับการเล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ
“เห็นได้ชัดว่ามีผู้จัดการทีมที่ดีมากมาย แต่สิ่งหนึ่งที่ผมต้องพูดออกมาคือ แวงซองต์ เป็นโค้ชที่จริงจังทั้งในสนามซ้อม และการวิเคราะวิดีโอ เขาต้องทำให้แน่ใจว่า ผู้เล่นทุกคนรู้บทบาทขอตังเอง และเขาต้องการ นั่นเป็นเรื่องที่ดีมากที่ได้ทำงานกับเขา”
มันเป็นเรื่องปกติที่ผู้เล่น และผู้จัดการทีมจะพูดคุยกันหลังการฝึกซ้อม ซึ่ง กอมปานี ก็ให้คำแนะนำกับ เมียซก้า เยอะมากไม่ว่าจะเป็นมุมมองต่อการเล่นเกมรับ, การหาจังหวะเข้าสกัดบอล และการปิดพื้นที่แนวรุกคู่แข่ง
เมียซก้า เล่าต่อว่า “บางครั้งผมก็หงุดหงิดตัวเองที่ทำตาทที่โค้ชขอไม่ได้ เขาแนะนำให้ผมใจเย็นกว่านี้ แต่แทนที่เขาจะตะโกนใส่ผมด้วยคามโมโห แต่ไม่เลย เขาพูดกับผมดีมากๆ เขาทำให้ผมพัฒนาตัวเองได้เยอะมากจริงๆ”
แม็ตต์ เมียซก้า กับทีมชาติสหรัฐฯ
ถึงแม้จะมีประสบการณ์มากมายกับการเล่นในหลายสโมสรที่ยุโรป แต่กับทีมชาติสหรัฐฯ ภายใต้การนำของเทรนเนอร์ เกร็กก์ เบอร์ฮัลเทอร์ นั้น เมียซก้า ยังไม่ได้เป็นตัวเลือกแรกในแผงแนวรับ โดยนับตั้งแต่ปี 2015 เขามีโอกาสลงรับใช้ชาติไปเพียง 22 เกม
เมียซก้า กล่าวว่า “เมื่อใดก็ตามที่คุณมีโอกาสลงเล่น คุณต้องทำให้แน่ใจว่า คุณเป็นตัวแทนของชาติที่เหมาะสม และต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด คุณต้องทุ่มเทสุดตัว สำหรับผม มันก็ไม่ต่างกันเลย ผมอยู่ที่นี่เพื่อทำงาน ของตัวเอง”
“ถ้ามีโอกาสช่วยทีม แน่นอน ผมพร้อมเสมอ เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณลงเล่นให้ทีมชาติ คุณก็อยากจะเอาชนะ คุณต้องทำผลงานให้ดี และสำหรับอเมริกา ไม่มีทางรับประกันได้เลยว่าคุณจะเป็นตัวจริงทุกเกม คุณต้องเล่นให้ดี คุณต้องอยู่ในฟอร์มที่ดี และท้ายที่สุดคุณต้องพร้อมด้วย ดังนั้น สำหรับผม ตอนนี้มันก็แค่ช่วยทีม เมื่อไหร่ก็ตามที่ผมถูกเรียกตัว” เมียซก้า กล่าวทิ้งท้าย