ถึงแม้ถ้วยแชมป์รายการต่างๆของ วงการฟุตบอลต่างประเทศ ยังไม่ตัดสินกันในเดือนสิงหาคมนี้ แต่สำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การนำของ โอเล่ กุนาร์ โซลชา กุนซือชาวนอร์เวย์ ก็นำหน้าทีมอื่นๆไปก้าวหนึ่งแล้วหลังทำธุรกิจได้อย่างยอดเยี่ยมในซัมเมอร์รอบนี้
ในช่วงท้ายของ โชเซ่ มูรินโญ่ อดีตโค้ชชาวโปรตุเกสที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด นั้น เขาเคยแสดงความคิดเห็นว่า “ปีศาจแดง” คงพอใจกับการมีส่วนร่วมในการแข่งขันในรายการใหญ่ ติดท็อปโพร์ในพรีเมียร์ลีกมากกว่าจะคว้าแชมป์มาประดับตู้โชว์สโมสร
อย่างไรก็ตาม เป้าหมายของ มูรินโญ่ มันไม่เป็นที่น่าพอใจของตระกูลเกลเซอร์เจ้าของสโมสร และ เอ็ด วู้ดเวิร์ด รองประธานบริหาร ซึ่งทำให้เขาต้องโดนปลดในที่สุดก่อนที่ โซลชา จะเข้ามาทำหน้าที่แทน และคุมทีมมาจนถึงปัจจุบัน
เมื่อฤดูกาลที่แล้ว โซลชา พา แมนฯ ยูไนเต็ด จบด้วยตำแหน่รองแชมป์พรีเมียร์ลีก ซึ่งทำให้แฟนบอล “ปีศาจแดง” หลายคนตั้งความหวังว่า เขาจะพาทีมลุ้นแชมป์ได้อีกในปีนี้บวกกับการเสริมทัพได้อย่างสุดยอดนั้น ก็ทำให้ความกดดันมากเป็นเท่าตัว
ซัมเมอร์ที่ยอดเยี่ยม
แมนฯ ยูไนเต็ด เพิ่งคว้าตัว จาดอน ซานโช่ ปีกชาวอังกฤษมาจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ด้วยค่าตัว 73 ล้านปอนด์ และคว้าตัว ราฟาเอล วาราน กองหลังทีมชาติฝรั่งเศสมาจาก เรอัล มาดริด ด้วยค่าตัว 42 ล้านปอนด์ ซึ่งทำให้พวกเขามีขุมกำลังที่แข็งแกร่งอย่างมาก
ซานโช่ เป็นดาวรุ่งที่ดีที่สุดของวงการฟุตบอลยุโรปในปัจจุบัน ส่วน วาราน ก็เคยคว้าแชมป์ลาลีกา 3 สมัย, แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 4 สมัย และแชมป์ฟุตบอลโลกปี 2018 กับฝรั่งเศส 1 สมัย และทั้งคู่จะเข้ามาเป็นคีย์แมนให้กับ โซลชา ในฤดูกาลหน้า
ซานโช่ เป็นนักเตะที่ โซลชา อยากได้ตัวมานานแล้ว ขณะที่ วาราน ก็เป็นเป้าหมายของ แมนฯ ยูไนเต็ด มาเกือบ 10 ปี ก่อนจะได้ตัวมาสำเร็จในตลาดนักเตะรอบนี้หลังจากที่ปราการหลังเฟรนช์แมนวัย 28 ปี ปฏิเสธที่จะต่อสัญญาฉบับใหม่กับ มาดริด ออกไปจากสัญญาเดิมที่เหลือเพียงปีเดียว
ปัญหาที่ต้องแก้ไขของโอเล่ กุนาร์ โซลชา กุนซือชาวนอร์เวย์
แมนฯ ยูไนเต็ด ของ โซลชา ทำสถิติยอดเยี่ยมด้วยการเป็นทีมที่ทำประตูได้มากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของพรีเมียร์ลีกเมื่อฤดูกาลที่แล้ว แต่พวกเขามีสถิติเป็นกันอยู่ในอันดับที่ 5 และการนำ วาราน เข้ามาก็เพื่อแก้ไขปัญหาแนวรับแบบเร่งด่วน
เมื่อ 2-3 สัปดาห์ก่อน วู้ดเวิร์ด กังวลว่า การที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ให้ความสนใจ วาราน นั้น จะทำให้ มาดริด ยิ่งโก่งค่าตัวเข้าไปอีก แต่สุดท้ายพวกเขาก็ได้แนวรับชาวฝรั่งเศสมาในราคาที่เหมาะสม และในส่วนของ ซานโช่ พวกเขาก็ได้ค่าตัวที่ลดลงจากปีที่แล้วซึ่งถูกปักป้ายไว้ 100 ล้านปอนด์
รานงานข่าวระบุว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ประเมินไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่า การคว้าตัว ซานโช่ กับ วาราน เช้ามานั้น พวกเขาจะต้องจ่ายเงินราว 150 ล้านปอนด์ แต่การได้ทั้ง 2 รายมาด้วยค่าตัวไม่ถึงจำนวนดังกล่าวนั้น ถือเป็นการทำธุรกิจที่ยอดเยี่ยมในช่วงไวรัสโควิด 19 ระบาด
เป้าหมายระยะยาวพร้อมความกดดันของ โอเล่ กุนาร์ โซลชา กุนซือชาวนอร์เวย์
ขณะเดียวกัน โซลชา ก็เพิ่งจรดปากกาต่อสัญญาฉบับใหม่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ออกไปอีก 3 ปี เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา แต่เขาจะยังคงคุมทีมด้วยความกดดันอย่างหนักหลังจากยังไม่สามารถช่วยให้ “ปีศาจแดง” คว้าแชมป์รายการใดได้เลย
แม้จะยังไม่มีนักเตะใหม่มาเพิ่มเติมก่อนตลาดปิดในวันที่ 31 สิงหาคมนี้ แต่ โซลชา ก็ต้องสู้ด้วยขุมกำลังที่มีอยู่ในการพาทีมลุ้นแชมป์กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า , เชลซี ของ โทมัส ทูเคิ่ล และ ลิเวอร์พูล ของ เจอร์เก้น คล็อปป์
นอกจากนี้ โซลชา ยังต้องบริหารนักเตะที่ไม่อยู่ในแผนการทำทีมอย่าง เจสซี่ ลินการ์ด, อันเดรียส เปเรยร่า และดิโอโก้ ดาโลต์ ว่าจะมีอนาคตอย่างไรต่อไปหลังจากที่ทั้ง 3 ราย ย้ายออกไปเล่นด้วยสัญญายืมตัวเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา
สัญญาของ ปอล ป็อกบา กองกลางทีมชาติฝรั่งเศสก็เป็นเรื่องที่น่ากังวลเช่นกัน ซึ่ง โซลชา และ วู้ดเวิร์ด ต้องตัดสินใจว่า จะยอมขายอดีตแข้ง ยูเวนตุส ออกไปในช่วงซัมเมอร์นี้เลนหรือไม่หลังจากเหลือสัญญาอีกเพียงปีเดียว โดย แมนฯ ยูไนเต็ด พร้อมจะดึง รูเบน เนเวส, ซาอูล ญีเกส และ เอดูอาร์โด กามาแวงก้า เข้ามาทดแทน
โซลชา ยังอยากได้นักเตะใหม่เพิ่มอีกในตำแหน่งตัวรุกริมเส้น, กองกลาง และ แบ็คขวา แต่ก็ยังไม่มีใครรับกระกันได้ว่า เทรนเนอร์ชาวนอร์เวยจะได้ผู้เล่นตามที่เขาต้องการหลังสโมสรยอมทุ่มเงินกับ ซานโช่ และ วาราน ไปแล้ว
โซลชา จะต้องเผชิญบททดสอบสำคัญในฤดูกาลหน้ากับการพา แมนฯ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์มาประดับตู้โชว์ให้ได้อย่างน้อย 1 รายการ ซึ่งหากทำไม่สำเร็จบางทีโค้ชวัย 48 ปีก็อาจไม่ได้นั่งทำงานในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด ครบสัญญา 3 ปีก็เป็นได้