เกิดอะไรขึ้นกับ จาดอน ซานโช่

โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีมชาวนอร์เวย์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรดังแห่ง วงการฟุตบอลต่างประเทศ กำลังเจอความกดดันอย่างหนักหลังพาทีมพ่าย ลิเวอร์พูล คาบ้าน 0-5 เมื่อวันที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมา แต่มีอีกสิ่งหนึ่งที่เขาต้องหาทางออกคือ ฟอร์มของ จาดอน ซานโช่ ปีกดาวรุ่งชาวอังกฤษที่ย้ายมาจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ด้วยค่าตัวมหาศาลถึง 73 ล้านปอนด์

 ในเกมล่าสุดกับ ลิเวอร์พูล ซานโช่ มีรายชื่อเป็นตัวสำรองแต่กลับไม่ได้รับโอกาสลงสนามจาก โซลชา นอกจากนี้ การกลับมาของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดาวเตะชาวโปรตุเกสนั้น ก็ทำให้สถานะในทีมชุดแรกของ อดีตแข้ง ดอร์ทมุนด์ ซับซ้อนขึ้นไปอีก

จาดอน ซานโช่ ย้ายมาผิดเวลา

โซลชา คุม แมนฯ ยูไนเต็ด มาเกือบ 3 ปีแล้ว และดูเหมือนว่า ซานโช่ จะเข้ามาเป็นจิ๊กซอว์ที่สำคัญในเกมรุกของพลพรรค “ปีศาจแดง” ในปีนี้ แต่ทุกอย่างมันตรงกันข้ามอย่างสิ่นเชิง โดยดาวเตะวัย 21 ปี ฟอร์มตกอย่างไม่น่าเชื่อหลังลงเล่นไป 7 เกม ยิงประตู และทำแอสซิสต์ไม่ได้เลย

ก่อนหน้านี้ ซานโช่ ได้รับการยกย่องว่า เป็นผู้เล่นอายุน้อยที่มีพรสวรรค์มากที่สุดคนหนึ่งของยุโรป โดย เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ ลิเวอร์พูล เคยกล่าวว่า  “จาดอน ซานโช่ คือ นักเตะที่มีพรสวรรค์ระดับโลก” เขามีทุกสิ่งที่คุณต้องการเพื่อกลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่เก่งที่สุดในโลกในอนาคตอย่างแท้จริง”

อย่างไรก็ตาม ซานโช่ กับเจอสถานการณ์ที่ยากลำบากกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งมันคล้ายกับกรณีของ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค กองกลางชาวดัตช์ที่เคยทำผลงานได้อย่างสุดยอดกับ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ก่อนจะย้ายมา “ปีศาจแดง” ในปี 2020 และตกเป็นตัวสองมาจนถึงเวลานี้

ตลอด 4 ปีที่เล่นกับ ดอร์ทมุนด์ ซานโช่ พัฒนาตัวเองอย่างมากทั้งในเรื่องของฝีเท้า และแท็คติคในสนาม เขามีความสามารถในการสร้างสรรค์เกมด้วยตัวเอง จบสกอร์ ผ่านบอล และยังสามารถลงมาช่วยเล่นเกมรับได้เป็นอย่างดี

แต่ตอนนี้ ซานโช่ ดูเหมือนเป็นคนละกันกับตอนที่เล่นให้กับ ดอร์ทมุนด์ ซึ่งอาจเป็นเรื่องแท็คติคที่แตกต่างกันจึงทำให้เขาดูสับสัน และเพื่อนร่วมทีม แมนฯ ยูไนเต็ด คนอื่นๆอาจไม่ให้การสนับสนุนเขามากพอในสนาม

แท็คติคที่เปลี่ยนไป

โซลชา ไม่ได้เป็นกุนซือที่เก่งเรื่องการเล่นเกมรับเป็นระบบทีม ซึ่งเห็นได้จากการที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เสียประตูแทบทุกเกม และการทำเกมรรุกที่เน้นต่อบอลเท้าสู่เท้านั้น นายใหญ่ “ปีศาจแดง” ก็ไม่ได้ทำในสไตล์เดียวกับ ดอร์ทมุนด์

ลูเซียง ฟาฟร์ อดีตกุนซือ ดอร์ทมุนด์ ใช้ระบบ 4-2-3-1 เป็นหลัก และให้ ซานโช่ เล่นเป็นตัวรุกอิสระฝั่งขวา และสลับมาตรงกลาง โดยมี เออร์ลิง ฮาแลนด์ กองหน้าทีมชาตินอร์เวย์เป็นตัวเป้า ซึ่ง ซานโช่ ก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในการเคลื่อนที่ตัดแนวรับเพื่อจบสกอร์ และแอสซิสต์ให้เพื่อนร่วมทีม

นอกนากนี้ ความสัมพันธ์กับผู้เล่นในตำแหน่งฟูลแบ็คก็มีความสำคัญอย่างยิ่ง ซานโช่ ต้องการการสนับสนุนจากนักเตะคนอื่นๆด้วย โดยที่ ดอร์ทมุนด์ เขาเล่นได้เข้าขารู้ใจกับ อัชราฟ ฮาคิมี แบ็คชาวโมร็อกโก แต่ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด นั้น อารอน วาน บิซาก้า ไม่สามารถทำแบบนั้นได้เลย

แท็คติคเหล่านี้สร้างความแตกต่าง ซานโช่ ซัดไป 37 ประตู และแอสซิสต์ 41 ครั้งตลอด 4 ปีกับ ดอร์ทมุนด์ แต่ผลงานกับ แมนฯ ยูไนเต็ด มันแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง และดูเหมือนว่า เขาต้องใช้เวลาอีกพอสวรในการเรียกฟอร์มเก่งกลับมา

แกรี่ เนวิลล์ อดีตแบ็คขวาทีมชาติอังกฤษของ แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งปัจจุบันรับบทกูรูแสดงความคิดเห็นถึง ซานโช่ ว่า “ผมคิดว่า นักเตะแบบเขาไม่ควรเป็นปัญหาสำหรับผู้จัดการทมีเลย เขาควรจะเป็นของขวัญของสโมสร แต่ผมไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นแล้วในตอนนี้”

“ในขณะนี้ ซานโช่ กำลังตกเป็นเหยื่อกับฟอร์มการเล่นที่ไม่ดีของ แมนฯ ยูไนเต็ด โดยก่อนหน้านี้เขาได้รับการคาดหมายว่า จะเข้ามายกระดับเกมรุกของทีม แต่ตอนนี้มันตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง”

โซลชา และ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องหาทางออกให้เร็วที่สุดว่า จะจัดการกับ ซานโช่ อย่างไรต่อไป และค่าตัวมหาศาลถึง 73 ล้านปอนด์ที่พวกเขาจ่ายให้ ดอร์ทมุนด์ นั้น ต้องได้รับผลตอบแทนกลับคืนมาบ้าง เพราะมันอาจเป็นการใช้เงินโดยไร้ประโยชน์อีกครั้งของ “ปีศาจแดง”