ชูเอา เฟลิกซ์ กับการเกิดใหม่ในถ้ำ “ตราหมี”

หลังจากช่วงเวลา 2 ปีครึ่งที่ต้องพิสูจน์ตัวเอง ชูเอา เฟลิกซ์ กองหน้าวันเดอร์คิดทีมชาติโปรตุเกสของ แอตเลติโก มาดริด ทีมดังแห่งศึก ลา ลีกา สเปน ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า เขาได้กลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่เก่งที่สุดในโลกไปเรียบร้อยแล้ว

ย้อนกลับไปในฤดูกาล 2018-19 สมัยที่ค้าแข้งกับ เบนฟิก้า ในลีกสูงสุดโปรตุเกสนั้น เฟลิกซ์ ระเบิดฟอร์มด้วยการซัดไปถึง 20 ประตู จาก 43 เกมรวมทุกรายการ ซึ่งสถิติดังกล่าวทำให้เขาได้รางวัลโกลเด้นบอยไปครอง และได้รับการยกย่องว่า เป็นหนึ่งในนักเตะดาวรุ่งที่ดีที่สุดในวงการฟุตบอล

ความคาดหวังในตัว ชูเอา เฟลิกซ์ กับ แอตเลติโก มาดริด

หลังจบซีซั่นที่น่าทึ่งกับ เบนฟิก้า นั้น แอตฯ มาดริด ยอมทุ่มเงินจำนวนมหาศาลถึง 113 ล้านปอนด์ คว้าตัว เฟลิกซ์ ในวัย 19 ปี ไปล่าตาข่าย พร้อมทำให้แข้งเลือด “ฝอยทอง” กลายเป็นนักเตะที่แพงที่สุดอันดับ 4 ในประวัติศาสตร์ของวงการลูกหนังในเวลานั้น

อดีตเด็กปั้น เบนฟิก้า ถูกคาดหมายว่า จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในเกมรุกของ แอตฯ มาดริด แต่ทุกอย่างมันตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงหลังจากที่เขาซัดไปเพียง 4 ประตูจาก 22 เกมแรกกับพลพรรค “ตราหมี” จนในที่สุดก็ต้องตกลงไปเป็นตัวสำรอง

จริงอยู่ที่ เฟลิกซ์ เป็นส่วนหนึ่งของทีม แอตฯ มาดริด ที่ทำผลงานยอดเยี่ยมคว้าแชมป์ลา ลีกา เมื่อฤดูกาลที่แล้ว แต่เขาไม่ได้เป็นส่วนสำคัญของทีมเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผลงานยิงไปเพียง 7 ประตู จากการลงสนาม 31 เกมในลีก

ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์หลายคนมองว่า ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ ผู้จัดการทีมชาวอาร์เจนไตน์ของ แอตฯ มาดริด ไม่ไว้วางใจให้ เฟลิกซ์ ลงเป็นตัวจริง แม้จะเป็นผู้เล่นที่มีพรสวรรค์ด้านเทคนิค แต่ดาวเตะวัย 22 ปี ก็มีสภาพร่างกายที่ไม่เหมาะกับสไตล์การเล่นของพลพรรค “ตราหมี”

นอกจากนี้ ยังมีคำวิจารณ์ที่ชัดเจนอย่างหนึ่งเกี่ยวกับ เฟลิกซ์ คือ ทัศนคติที่ไม่เต็มใจในการช่วยทีมเล่นกับเกมรับมากนัก โดยเห็นได้จากสถิติการวิ่งกดดันคู่แข่งที่เขามีจำนวนตัวเลขน้อยกว่ากองหน้าคนอื่นๆของ แอตฯ มาดริด อย่าง หลุยส์ ซัวเรซ, อองตวน กรีซมันน์, อังเกล คอร์เรอา และ มาเธอุส กุนญ่า

สำหรับโค้ชอย่าง ซิเมโอเน่ ที่ให้ความสำคัญกับการทำงานหนัก และความดุดันนอกเหนือคุณลักษณะอื่นๆ ทั้งหมด นั่นจะเป็นปัญหาเสมอกับนักเตะมากพรสวรรค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการสร้างสรรค์เกมของ เฟลิกซ์ ต้องถูกจำกัดด้วยแท็คติคของทีม

ย้อนกลับไปเมื่อ 6 สัปดาห์ก่อน ดูเหมือนมันจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ว่านี่จะเป็นอีกฤดูกาลหนึ่งที่น่าผิดหวังสำหรับหัวหอกชาวโปรตุกีส หลังจากเขาได้ลงเป็นตัวจริงแค่ 6 เกมในลีกจากทั้งหมด 24 เกม และพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยมของเขาถูกเมินจาก ซิเมโอเน่ ที่พยายามจะทำให้ แอตณ มาดริด ให้หลุดพ้นจากความตกต่ำที่หลังแพ้ ไปถึง 7 จาก 12 เกมหลังสุด

จุดเปลี่ยนสำคัญ

อย่างไรก็ตาม เกมที่ แอตฯ มาดริด ยกพลไปเยือน โอซาซูน่า ในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมานั้น  พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า มันเป็นจุดเปลี่ยนที่ไม่คาดคิดทั้งสำหรับ เฟลิกซ์ และพลพรรค “ตราหมี” หลังจากพวกเขาโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมเอาชนะเจ้าถิ่นได้ 3-0

ในเกมกับ โอซาซูน่า เฟลิกซ์ ได้รับเลือกให้ลงเป็นตัวจริง และเขาก็ทำประตูได้ในการใช้เวลาเพียง 3 นาที และต่อมาได้แอสซิสต์ให้ ซัวเรซ ซัดประตูที่ 2 ซึ่งเกมถัดมา ซิเมโอเน่ ก็ไว้วางใจมอบหมายให้เขาได้ออกสตาร์ทในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้ายที่พบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

เฟลิกซ์ ไม่ทำให้ ซิเมโอเน่ ผิดหวังหลังซัดประตูให้ แอตฯ มาดริด ขึ้นนำ แมนฯ ยูไนเต็ด ตั้งแต่นาทีที่ 7 ก่อยจะจบด้วยการเสมอ 1-1 และตั้งแต่นั้นมา อดีตแข้ง เบนฟิก้า ก็ได้ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง 8 นัดติดต่อกันเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปี และยังคงส่งทำผลงานได้อย่างต่อเนื่อง

 8 เกมหลังสุดที่ผ่านมา เฟลิกซ์ ซัดไป 2 ประตูในการชนะ เรอัล เบติส 3-1 พาทีมบุกไปเอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด ถึง โอลด์ แทรฟฟอร์ด 1-0 แอสซิสต์ 2 ครั้งให้กับ โกเก้ ยิงประตูในเกมกับ ราโบ บาเยกาโน่ และซัด 2 ประตูช่วยให้ทีมถล่ม อลาเบส 4-1

ฆวน แม็คเทียร์ นักข่าวฟุตบอลจาก มาดริด ผู้เขียนหนังสือเกี่ยวกับการคว้าแชมป์ของ แอตฯ มาดริด ในปี 2014 เชื่อว่า เฟลิกซ์ ยังมีอะไรอีกมากที่จะตามมา โดยระบุว่า “ผมไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญที่ฟอร์มของเขายอดเยี่ยมในช่วงหลัง”

“เขาต้องเริ่มต้นในแต่ละวันที่สนามซ้อมให้ดี และนั่นง่ายมากที่เขาได้เป็นตัวจริง เราต้องจำไว้ว่าเขายังอายุเพียง 22 ปี ดังนั้น เขายังไม่สมควรเป็นผู้นำทีม แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาจะเป็นสตาร์แมนของสโมสรในเวลานี้”

“นั่นคือเหตุผลที่เขาเซ็นสัญญากับ แอตฯ มาดริด จนถึง 2026 แม้ว่าบางคนจะบอกว่าเขาไม่ได้อยู่สโมสรที่ถูกต้อง แต่เขาก็ยังกลายเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลดีที่สุดในโลกได้”

อย่างไรก็ตาม มีการถกเถียงกันอย่างต่อเนื่องว่า เฟลิกซ์ จะสามารถเติบโตได้อย่างแท้จริงหรือไม่จากแท็คติคการเล่นเกมรับเป็นหลักตามที่ ซิเมโอเน่ เรียกร้อง ซึ่งหลายคนคิดว่า ดาวยิงวัย 22 ปี อาจจะหยุดพัฒนาได้

แม้ว่าจะต้องดิ้นรนเพื่อพิสูจน์อย่างหนักกับ แอตฯ มาดริด แต่พรสวรรค์ในการเล่นฟุตบอลของ เฟลิกซ์ ก็ชัดเจนอยู่เสมอ และเขาก็ยังมีคนชื่นชมมากมาย ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โจน ลาปอร์ต้า ประธาน บาร์เซโลน่า ยอมรับว่า เขาจะพยายามนำ เฟลิกซ์ ไปเล่นที่ คัมป์ นู ด้วยการแลกตัวกับ กรีซมันน์

ในทางกลับกัน นักวิเคราะห์คนอื่นๆ คิดว่า เฟลิกซ์ ได้กลายเป็นคีย์แมนในทีมของ ซิเมโอเน่ ไปเรียบร้อยแล้ว และอดีตดาวรุ่ง เบนฟิก้า ก็ทำให้ แอตฯ มาดริด มีทางเลือกในการเล่นเกมรุกที่หลากหลายมากขึ้นกว่าเดิม

ผลการแข่งขันที่ยอดเยี่ยมในระยะหลังของ แอตฯ มาดริด นั้น เฟลิกซ์ มีส่วนร่วมมาตลอด และแม้ว่าอนาคตระยะยาวของเขาจะยังมีข้อสงสัยอยู่บ้าง แต่ตอนนี้เขาก็กำลังอยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุดในอาชีพค้าแข้งของเขาอย่างชัดเจน และเป็นผู้เล่นที่สำคัญที่สุดของ “ตราหมี” อย่างไม่มีใครกล้าปฏิเสธ