เดเล่ อัลลี่ กองกลางชาวอังกฤษของ ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ สโมสรดังแห่งพรีเมียร์ลีก และ วงการฟุตบอลตค่างประเทศ ดูเหมือนว่า จะถูก “ไก่เดือยทอง” ปล่อยออกไปด้วยสัญญายืมตัมในตลาดนักเตะเดือนมกราคมนี้ หลังจากที่เขาไม่อยู่ในแผนการทำทีมของ อันโตนิโอ คอนเต้ โค้ชชาวอิตาเลียน
การถ่ายเลือดใหม่ของ ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์
คอนเต้ เข้ามาทำทีม สเปอร์ส แทนที่ของ นูโน่ เอสพิริโต ซานโต้ เทรนเนอร์ชาวโปรตุเกสตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา และดูเหมือนว่า เขากำลังปรับทีมใหม่ตามที่ตัวเองต้องการ ซึ่งทำให้นักเตะหลายๆคนอาจไม่ได้อยู่ในแผนการทำทีมในอนาคต
นับตั้งแต่เดือนมีนาคมปี 2020 เป็นต้นมา อัลลี่ ได้ลงสนามเป็นตัวจริงในลีกไปเพียงแค่ 14 เกม และภายใต้การทำงานร่วมกับ คอนเต้ นั้น เขาได้ลงเล่นไปเพียง 2 นาทีเท่านั้น และข่าวลือระบุว่า ดาวเตะวัย 25 ปี เตรียมถูกปล่อยออกจากสโมสรในเร็วๆนี้
ย้อนกลับไป 2-3 ฤดูกาลก่อน อัลลี่ ถือเป็นนักเตะชาวอังกฤษที่ได้รับการจับตามองอย่างมาก โดยเจ้าตัวระเบิดฟอร์มสุดยอดด้วยการมีค่าเฉลี่ยการทำประตูมากกว่าตำนานมิดฟิลด์ “สิงโตคำราม” อย่าง สตีเวน เจอร์ราร์ด, แฟรงค์ แลมพาร์ด หรือ พอล สโคลส์ ที่ทำได้ในวัยเดียวกันเสียอีก
ในฤดูกาล 2016-2017 อัลลี่ วัย 21 ปี ทำผลงานได้อย่างน่าเหลือเชื่อด้วยการซัดไปถึง 22 ประตูรวมทุกรายการให้กับ สเปอร์ส และคว้ารางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของ PFA อีกด้วย ซึ่งในเวลานั้น เขาถูกประเมินค่าตัวไวที่ 100 ล้านปอนด์เลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ อัลลี่ ฟอร์มตกลงไปอย่างน่าใจหาย และดูเหมือนว่า เขาจะไม่สามารถกลับมามีฟอร์มการเล่นที่เฉียบขาดได้เหมือนเดิมอีกแล้ว ซึ่งทาง ดาเนียล เลวี ประธานสโมสร สเปอร์ส ก็พร้อมจะปล่อยเขาออกไปด้วยสัญญายืมตัว และนี่ก็อาจเป็นอีกหนึ่งในการทพธุรกิจที่ล้มเหลวของ “ไก่เดือยทอง”
ความจริงก็คือ นักเตะตัวหลักของ สเปอร์ส หลายคนเริ่มอายุมากขึ้นแล้วหลังจากที่ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ อดีตเทรนเนอร์ชาวอาร์เจนไตน์พาทีมเข้าชิงชนะเลิศในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อปี 2019 และมันถึงเวลาที่พวกเขาต้องสร้างทีมขึ้นมาใหม่
2-3 ปีที่ผ่านมา สเปอร์ส ได้รับการยกย่องว่า เป็นทีมที่มีนักเตะอายุน้อยมากพรสวรรค์อยู่หลายราย และดูเหมือนว่า ทุกอย่างกำลังจะไปได้สวยกับแนวทางการทำงานของ เลวี่ แต่ตอนนี้กลายเป็นว่า ทุกอย่างมันมันตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง
ความผิดพลาดของ ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์
สิ่งที่เลวร้ายที่สุดที่เกิดขึ้นกับ สเปอร์ส คือ ได้รับเงินจำนวน 50 ล้านปอนด์ สำหรับค่าตัวของ ไคล์ วอล์กเกอร์ แบ็คขวาทีมชาติอังกฤษที่ย้ายไปเล่นกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อปี 2017 และ วอล์กเกอร์ ก็เป็นนักเตะเพียงรายเดียวในยุค โปเช็ตติโน่ ที่ สเปอร์ส ขายได้มากกกว่า 20 ล้านปอนด์
ขณะเดียวกัน สเปอร์ส ก็ต้องการค่าตัวในระดับเดียวกันกับ วอล์คเกอร์ ในกรณีของ แดนนี่ โรส แบ็คซ้ายชาวอังกฤษที่ เชลซี และ แมนฯ ซิตี้ ให้ความสนใจ และพวกเขาก็ยอมลดค่าตัวมาเหลือ 30 ล้านปอนด์ ตาการย้ายทีมก็ไม่เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม ค่าตัว 50 ล้านปอนด์ก็ปรากฏขึ้นครั้งเมื่อ โชเซ่ มูรินโญ่ โค้ชชาวโปรตุเกสอยากได้ตัว เอริค ดายเออร์ กองหลังชาวอังกฤษ และ โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ แนวรับชาวเบลเยียมไปร่วมทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ สเปอร์ส ก็พยายามเรียกค่าตัวให้สูงกว่านี้จน “ปีศาจแดง” ต้องถอยออกมา
คริสเตียน อีริคเซ่น จอมทัพชาวเดนมาร์กก็เป็นอีกคนที่ถูกปล่อยไปยัง อินเตอร์ มิลาน ด้วยค่าตัวเพียง 17 ล้านปอนด์หลังเหลือสัญญากับสโมสรอีกเพียง 6 เดือน ทั้งที่ก่อนหน้านี้ มิดฟิลด์ “โคนม” ถูกประเมินมูลค่าไว้มหาศาล
ในซัมเมอร์ล่าสุด เลวี่ ก็ประกาศขาย แฮร์รี่ เคน กองหน้าทีมชาติอังกฤษในราคามหาศาลถึง 150 ล้านปอนด์ โดยที่ แมนฯ ซิตี้ พร้อมจ่ายเพียง 100 ล้านปอนด์ และตอนนี้ เคน ก็เพิ่งยิงในลีกไปเพียงประตูเดียว ซึ่งบางทีอาจไม่มีใครอยากได้ตัวเขาไปล่าตาข่ายด้วยค่าตัวเกิน 50 ล้านปอนด์อีกแล้ว
นักเตะยุค โปเช็ตติโน่ อย่าง แยน แฟร์ทองเก้น และ วิคตอร์ วันยาม่า ย้ายออกไปแบบฟรีๆ ส่วน มุสซ่า ซิสโซโก้ ก็ถูกขายไปแค่ 3 ล้านปอนด์ ขณะที่ เอริค ลาเมร่า ก็ถูกปล่อยไปยัง เซบีย่า ในข้อเสนอสวนทางกับ ไบรอัน กิล ที่แทบไม่มีบทบาทในยุค คอนเต้
บางทีมีเพียง เลวี เท่านั้นที่สามารถจดจำเรื่องราวต่างๆได้อย่างแม่นยำว่าเกี่ยวกับธุรกิจที่เขาทำมาหลายปี และ สเปอร์ส กำลังอยู่ห่างจากการประเมินมูลค่านักเตะในตลาดมากเพียงใด และเห็นได้ชัดว่า สเปอร์ส อาจกลายเป็นทีมที่เสียเปรียบในการทำธุรกิจไปแล้ว
สเปอร์ส ล้มเหลวหรือไม่นั้น เลวี่ รู้อยู่แก่ใจในสิ่งที่เขาทำมาตลอดหลายปี และหลังจากนี้เจาก
ต้องรีบปรับนโยบายเพื่อให้พลพรรค “ไก่เดือยทอง” กลับมาเข้าที่เข้าทางทั้งใน และนอกสนามโดยเร็วที่สุด