ปอล ป็อกบา กับชีวิตที่ลำบากในทัพ “ผี”

ปอล ป็อกบา มิดฟิลด์ทีมชาติฝรั่งเศสของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เปิดเผยว่า เขามีอาการซึมเศร้าหลังจากเคยได้ร่วมงานกับ โชเซ่ มูรินโญ่ อดีตเทรนเนอร์ชาวโปรตุเกสของ “ปีศาจแดง”

กองกลางวัย 29 ปี มีความสัมพันธ์ที่ยากลำบากกับ มูรินโญ่ และก็สูญเสียตำแหน่งรองกัปตันทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ไปในเดือนกันยายน 2018 ซึ่งทำให้ ป็อกบา เครียดอย่างหนักรวมทั้งส่งผลไปถึงฟอร์มการเล่นในสนาม

ปอล ป็อกบา กับช่วงเวลาที่ยากลำบากภายใต้การคุมทีมของ โชเซ่ มูรินโญ่

ดาวเตะเฟรนช์แมน เริ่มกล่าวว่า  “ผมประสบภาวะซึมเศร้าหลายครั้งในอาชีพการงาน แต่คุณอย่าพูดถึงมันเลย และบางครั้ง คุณไม่รู้ด้วยซ้ำว่า คุณเป็นโรคซึมเศร้า คุณแค่ต้องการแยกตัวออกไปอยู่คนเดียว และนี่คือสัญญาณที่ไม่ดีนัก”

“โดยส่วนตัวแล้ว มันเริ่มต้นเมื่อผมได้ทำงานกับโชเซ่ มูรินโญ่ ในทีม แมนฯ ยูไนเต็ด เพราะคุณจะเริ่มตั้งคำถามกับตัวเอง และสงสัยว่า คุณเป็นฝ่ายผิดหรือเปล่า เพราะคุณไม่เคยใช้ชีวิตในช่วงเวลาแบบนี้มาก่อนในเส้นทางอาชีพ”

ป็อกบา ย้ายจาก ยูเวนตุส ในกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี กลับมาร่วมทีม แมนฯ ยูไนเต็ด อีกครั้งด้วยค่าตัวสถิติโลกตอนนั้นที่จำนวน 89 ล้านปอนด์ ในปี 2016 ซึ่งมันเป็นช่วงฤดูร้อนเดียวกันกับที่ มูรินโญ่ ก็เข้ามารับงานในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด ต่อจาก หลุยส์ ฟาน กัล โค้ชชาวฮอลแลนด์

ป็อกบา มีส่วนร่วมช่วยให้ แมนฯ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วย ลีก คัพ และแชมป์ ยูโรป้า ลีก ในปี 2017 ภายใต้การร่วมงานกับ มูรินโญ่ แต่ความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งคู่ในทัพ “ปีศาจแดง” ก็เริ่มแย่ลงเมื่อเริ่มต้นฤดูกาลถัดไป

มูรินโญ่ บอกกับนักข่าวว่า ป็อกบา จะไม่มีวันได้เป็นกัปตันทีมอีกเลยภายใต้คุมทีมของเขา โดยตามรายงานข่าวระบุว่า มันสืบเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับทัศนคติของอดีตมิดฟิลด์ ยูเวนตุส และไม่นานหลังจากนั้น ป็อกบา ก็ถูกถอดออกจากแหน่งรองกัปตันทีม แมนฯ ยูไนเต็ด

ขณะเดียวกัน ป็อกบา ก็รู้สึกเครียดอย่างหนักกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งทำให้เขาไปพูดคุยกับอดีตผู้เล่น แมนฯ ยูไนเต็ด อย่าง ปาทริซ เอฟร่า แบ็คซ้ายรุ่นพี่ชาวฝรั่งเศสที่เคยประสบภาวะซึมเศร้าเช่นกัน และก็ช่วยให้เขาผ่านมันมาได้

อดีตแข้ง ยูเวนตุส กล่าวต่อว่า “ผมไม่ต้องการให้ช่วงเวลาเชิงลบเหล่านี้ทำให้ผมลืมความสำเร็จทั้งหมดของผม แต่ก็ไม่จำเป็นที่ทุกอย่างมันต้องง่ายเสมอไป และเมื่อคุณทำคนสิ่งต่างๆคนเดียวไม่ได้ ผมก็คุยกับ ปาทริซ เอฟร่า ที่เคยเจอสถานการณ์เดียวกัน เพราะเขาเข้าใจคุณเป็นอย่างดี”

“การพูดคุย การรับฟัง การกำจัดความโกรธ และความหดหู่ที่ถาโถมใส่คุณ มันเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผม แน่นอน เราได้รับเงินเป็นจำนวนมากจากการเล่นฟุตบอล และเราไม่สามารถบ่นมันออกมาได้จริงๆหรอก แต่เงินเหล่านั้นมันก็ไม่ได้หยุดคุณให้ผ่านช่วงเวลาเหล่านี้ได้เลย”

“เช่นเดียวกับทุกคนบนโลกนี้ บางช่วงเวลามันยากกว่าช่วงเวลาอื่นๆ หลายคนคิดว่า เพราะคุณหาเงินได้ คุณจึงควรมีความสุขอยู่เสมอ แต่ความจริงชีวิตไม่ใช่แบบนั้นเลย ในโลกฟุตบอลก็เช่นกัน เราไม่ใช่ซุปเปอร์ฮีโร่ เราเป็นแค่มนุษย์คนหนึ่งเท่านั้น”

“ฟุตบอลเป็นกีฬาประเภททีมมากที่สุด คุณจะถูกตัดสินผลงานทุกๆ 3 วัน คุณต้องทำได้ดีตลอดเวลา แม้ว่าเราจะมีปัญหาเหมือนทุกๆ คนก็ตาม”

“แน่นอน คุณจะรู้สึกได้ในร่างกายหรือในใจของคุณ และคุณอาจรู้สึกไม่สบายเป็นเดือนหรือเป็นปีก็ได้ แต่คุณพูดไม่ได้ อย่างน้อยก็ในที่สาธารณะ ทุกอย่างอยู่ในใจ และจิตใจของคุณควบคุมทุกอย่าง และนักกีฬาระดับสูงทุกคนต้องผ่านช่วงเวลาเหล่านี้ แต่มีเพียงไม่กี่คนที่พูดถึงเรื่องนี้”

“ผมคิดว่า ถ้าคุณไม่แข็งแกร่งทางจิตใจ คุณก็จะล้มเหลวในกีฬาชนิดนี้ การทดลองเหล่านี้สร้างคุณขึ้นมา แต่คุณไม่สามารถยอมแพ้ได้”

ปอล ป็อกบา

อนาคตกับ แมนฯ ยูไนเต็ด และเป้าหมายต่อไป

ขณะเดียวกัน อนาคตของ ป็อกบา กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ยังคงไม่แน่นอนเนื่องจากสัญญาฉบับปัจจุบันของเขากับ “ปีศาจแดง” จะหมดอายุเมื่อสิ้นสุดฤดูกาลนี้ และทั้ง 2 ฝ่ายก็ยังไม่มีข้อสรุปแต่อย่างใด ซึ่งมีข่าวว่า แข้งวัย 29 ปี เตรียมตัวจะย้ายสโมสรแบบไร้ค่าตัว

ป็อกบา กล่าวว่า “การเล่นกับทีมชาติฝรั่งเศสภายใต้การทำงานกับ ดิดิเย่ร์ เดชองส์ นั้น ผมรู้สึกดีมาก  และผมกับเขาเข้ากันได้ดีมาก เขาให้เล่นในบทบาทที่ผมคุ้นเคย แต่ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ผมยังไม่รู้เลยว่า บทบาทจริงๆ ของตัวเองคืออะไร ผมไม่รู้คำตอบจริงๆ”

เมื่อถามถึงสัญญาที่จะหมดลง กองกลางชาวฝรั่งเศส เปิดเผยว่า “ตอนนนี้ผมเล่นเพื่อคว้าชัยชนะ มองไปข้างหน้า และไล่ตามแชมป์ตลอดหลายปีที่ผ่านมาที่ผมไม่สามารถคว้าถ้วยรางวัลได้ บอกตามตรง ผมไม่พอใจกับผลงานของตัวเองตลอด 5 ฤดูกาลที่ผ่านมา จริงๆ แล้วมันไม่ใช่เรื่องดีเลย

“สำหรับปีนี้มันจบลงแล้ว เราก็ยังไม่สามารถคว้าแชมป์อะไรได้เลย ไม่ว่าจะเป็นกับ แมนฯ ยูไนเต็ดหรือสโมสรอื่น ผมอยากคว้าถ้วยรางวัลให้มากกว่านี้” กองกลางทีมชาติฝรั่งเศสชุดแชมป์โลกปี 2018 กล่าวทิ้งท้าย

, , , , , ,