ทางออกของ โอบาเมยอง กับ “ไอ้ปืนใหญ่”

ผ่านไปไม่ถึง 18 เดือนนับตั้งแต่ มิเกล อาร์เตต้า กุนซือ อาร์เซน่อล ทีมดังแห่ง วงการฟุตบอลต่างประเทศ มีบทบาทสำคัญในการโน้มน้าวให้ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง กองหน้าชาวกาบอง ขยายสัญญาฉบับใหม่กับ “ไอ้ปืนใหญ่” แต่ตอนนี้ทุกอย่ามันตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง

ก่อนหน้านี้ โอบาเมยอง ตกเป็นเป้าหมายในการเสริมทัพของทีมดังอย่าง บาร์เซโลน่า, อินเตอร์ มิลาน และแม้แต่คู่แข่งในลอนดอนอย่าง เชลซี แต่สุดท้ายแล้วเขาก็เลือกจะปักหลักอยู่ในถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ต่อไป

แหล่งข่าวบอกว่า อาร์เตต้า มีส่วนสำคัญในการเจรจาช่วยให้ โอบาเมยอง ต่อสัญญาสำเร็จ และมอบตำแหน่งกัปตันทีมให้ต่อจาก กรานิต ชาก้า กองกลางชาวสวิตเซอร์แลนด์ แต่ล่าสุด ดาวยิงวัย 32 ปี โดนเรียกปลอกแขนคืนเรียบร้อยแล้วหลังมีปัญหาเรื่องวินั

บทบาทของ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง

ก่อนหน้านี้ภายใต้การคุมทีมของ อาร์เตต้า นั้น โอบาเมยอง คือทุกสิ่งทุกอย่างของพลพรรค “ไอ้ปืนใหญ่” อย่างไม่มีใครกล้าปฏิเสธ และเขาก็มีส่วนสำคัญที่ช่วยให้สโมสรคว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วยเอฟเอ คัพ ในปี 2020 มาครองได้สำเร็จอีกด้วย

เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2020 อดีตหัวหอก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ก็เพิ่งเซ็นสัญญาฉบับใหม่กับ อาร์เซน่อล ต่อไปอีก 3 ปี และมันก็กลายเป็นการทำธุรกิจที่สาวก “เดอะ กันเนอร์ส” ชื่นชมการทำงานของสโมสรอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ โอบาเมยอง ต้องตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกับที่ เมซุต โอซิล อดีตจอมทัพทีมชาติเยอรมันเผชิญที่ อาร์เซน่อล ก็คือ การเป็นนักเตะระดับบิ๊กเนมที่ได้รัค่าเหนื่อยมหาศาล แต่กลับไม่ได้รับโอกาสลงสนามอย่างสม่ำเสมอ

โอบาเมยอง ซัดให้ อาร์เซน่อล ไปแล้ว 72 ประตูจาก 111 เกมนับตั้งแต่ย้ายมาจาก ดอร์ทมุนด์ ในเดือนมกราคมปี 2018 ด้วยค่าตัวสถิติสโมสร 56 ล้านปอนด์ และหลังจากนั้นเขาก็โดนตั้งคำถามเกี่ยวกับพฤติกรรมนอกสนามมาตลอด  

ช่วงกลางเดือนธันวาคมที่ผ่านมา กองหน้าชาวกาบอง ขออนุญาต อาร์เตต้า กลับไปเยี่ยมแม่ที่ฝรั่งเศส แต่เขากลับมารายงานตัวช้า ซึ่งทำให้โดนปลดตากตำแหน่งกัปตันทีม และก็ต้องกลายเป็นตัวสำรองมาจนถึง ณ เวลานี้

ขณะเดียวกัน ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดอย่างหนึ่งของ อาร์เซน่อล คือ ความเด็ดขาดของกุนซือตั้งแต่ในยุคของ อาร์แซน เวนเกอร์ แล้ว และในยุคนี้ อาร์เตต้า ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า เขาเด็ดขาดเพียงใดกับลูกทีมที่ละเมิดวินัย

ปัญหา และอนาคตของ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง

อาร์เตต้า พยายามเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง และแนวทางการทำงานของ อาร์เซน่อล โดยโค้ชชาวสเปนนปลูกฝังจรรยาบรรณในการทำงานให้เข้มข้นมากขึ้น และความเป็นมืออาชีพแบบใหม่ ซึ่ง โอบาเมยอง ไม่สามารถทำได้

วินัยของ โอบาเมยอง ค่อนข้างมีปัญหาหลังจากฤดูกาลที่แล้วเขาถูกตัดออกจากทีมเนาองจากขาดการตรวจโควิด 19 ก่อนการแข่งขันยูโรป้าลีก ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และก็ถูกตักเตือนถึงความรับผิดชอบของตัวเองด้วย

อีกหนึ่งเดือนต่อมา อดีตดาวยิง ดอร์ทมุนด์ ถูกดร็อปเป็นตัวสำรองในเกมดาร์บี้ แมตช์ ลอนดอนเหนือกับ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ หลังจากที่มารายงานตัวสาย และแหล่งข่าวระบุว่า เขาก็ทำเหตุการณ์แบบนี้อีกเรื่อยๆ

โธมัส ทูเคิ่ล อดีตเทรนเนอร์ ดอร์มุนด์ ซึ่งเคยร่วมงานกับ โอบาเมยอง เคยให้สัมภาษณ์ว่า “ผมคิดว่าเขาพลาดการฝึกซ้อมเพียงครั้งเดียวในรอบ 2 ปี แต่บางทีเขาอาจมาถึงสนามซ้อมสาย 5 นาทีบ่อยๆ สิ่งนั้นอาจเกิดขึ้นกับเขาได้! แต่ถ้าเขาทำแบบนั้นบ่อยๆ เขาก็ดูรีบร้อน เขาขอโทษ แต่เขายังมีรอยยิ้มบนใบหน้าอยู่”

 “เมื่อเราอยากให้เขามาตรงเวลา เราจะบอกเขาว่าประชุมทีมคือ 10:45 น. แต่เราประชุมกัน 11 โมงเช้า ดังนั้น มันจึงมีโอกาสดีที่เขาจะอยู่ที่นั่นกับคนอื่นๆบ้าง”

แหล่งข่าวระบุว่า อาร์เตต้า ยืนยันว่า เขายังคงถอด โอบาเมยอง ออกจากตำแหน่งกัปตันทีมเช่นเดิม และตอนนี้ หัวหอกกาบอง ก็กลับมาร่วมซ้อมกับทีมแล้ว แต่นายใหญ่ “เดอะ กันเนอร์ส” ก็ยังไม่บอกว่า อนาคตของเขาจะเป็นอย่างไรต่อไป

ขณะเดียวกัน กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ กองหน้าดาวรุ่งที่ลงสนามแทน โอเบเมยอง กำลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม และก็ต้องดูว่า อาร์เตต้า จะตัดสินใจอย่างไรต่อไปกับอนาคตของ อดีตดาวยิง ดอร์มุนด์ ในช่วงที่เหลือของซีซั่นนี้

บาร์เซโลน่า และ ยูเวนตุส 2 ทีมดังแห่งยุโรปตกเป็นข่าวว่า กำลังจับตาดูสถานการณ์ของ โอเบเมยอง อย่างใกล้ชิด และบางทีตลอดนักเตะเดือนมกราคมที่กำลังจะเปิดนี้ กองหน้าวัย 32 ปี อาจจะย้ายออกจากถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ก็เป็นได้