ปีเตอร์ กูลัคซี่ โกล์กัปตันทีมชาติฮังการีของ แอร์เบ ไลป์ซิก ทีมดังแห่งศึก บุนเดสลีกา เยอรมัน เป็นนักเตะของสโมสรเพียงรายเดียวที่เคยร่วมงานกับบรรดากุนซือชั้นยอดอย่าง ราฟา เบนิเตซ, เคนนี่ ดัลกลิช, รอย ฮ็อดจ์สัน, โรเจอร์ ชมิดท์, อาดี ฮัทเทอร์, ราล์ฟ รังนิค, เจสซี่ มาร์ช, จูเลียน นาเกลส์มันน์ และ ราล์ฟ ฮาเซนฮุตเทิล
ในวัย 31 ปี กูลัคซี่ ผ่านประสบการณ์มาอย่างโชกโชน โดยก่อนหน้านี้ในระหว่างปี 2007 ถึง 2013 เจ้าตัวเคยเฝ้าเสาให้กับ ลิเวอร์พูล ในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แต่เขาไม่เคยลงเล่นให้กับทีมชุดแรกของพลพรรค “หงส์แดง” เลยแม้แต่เกมเดียว
ช่วงที่อยู่กับ ลิเวอร์พูล นั้น กูลัคซี่ ต้องใช้เวลาส่วนใหญ่เล่นกับทีมในลีกรองของเมืองผู้ดีด้วยการยืมตัว แต่ตอนนี้เขากลายมาเป็นผู้เล่นคนสำคัญของ ไลป์ซิก และเป็นหนึ่งในนักเตะที่พาสโมสรประสบความสำเร็จหลายๆอย่างในช่วงที่ผ่านมา
ปีเตอร์ กูลัคซี่ ผ่านเส้นทางที่ยากลำบาก
เส้นทางอาชีพของ กูลัคซี่ เริ่มต้นกับทีม เอ็มทีเค บูดาเปสต์ ในบ้านเกิดก่อนจะย้ายไป ลิเวอร์พูล ในปี 2007 ซึ่งเข้าใช้เวลานานถึง 6 ปีกับ “หงส์แดง” ในฐานะนายทวารตัวสำรองเพื่อเรียนรู้จาก เปเป้ เรน่า โกล์ชาวสเปน จากนั้น ก็ถูกปล่อยยืมตัวไปยัง เฮียร์ฟอร์ด ยูไนเต็ด, ทรานเมียร์ โรเวอร์ส และ ฮัลล์ ซิตี้
อดีตมือกาว ลิเวอร์พูล เริ่มเล่าว่า “มันไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่มีช่วงเวลาที่ชัดเจนว่าผมสามารถไปถึงระดับที่จำเป็นเพื่อขึ้นไปบนจุดสูงสุดได้ แต่ผมมีความฝันนี้อยู่ในหัวของผม และผมมีความสุขจริงๆ ที่อาชีพการงานของผมเป็นเช่นทุกวันนี้”
“ผมค่อนข้างโชคดีเล็กน้อย เพระผมมีการตัดสินใจที่ดีตลอดอาชีพการงานของผมในแง่ของการเปลี่ยนแปลงสโมสรในช่วงเวลาที่เหมาะสม ผมค่อนข้างอดทน ตอนที่อยู่กับ ลิเวอร์พูล ผมได้ประโยชน์จากการทำงานร่วมกับผู้เล่นที่ยอดเยี่ยม และโค้ชที่ยอดเยี่ยม”
“ผมไม่อยากเร่งรีบ และเมื่อผมรู้สึกโอเคว่า ถึงเวลาแล้วที่จะก้าวขึ้นมาเป็น 1 แต่บางทีอาจจะไม่ได้อยู่ในระดับสูงสุด แต่เพื่อเป็นส่วนสำคัญของทีม ซึ่งนั่นคือตอนที่ผมตัดสินใจย้ายไปเล่นกับ เร้ดบลู ซัลซ์บวร์ก”
ในปี 2013 หลังหมดสัญญากับ ลิเวอร์พูล กูลัคซี่ ก็ตัดสินใจย้ายไปเล่นกับ เร้ดบลู ซัลซ์บวร์ก ในออสเตรียแบบไร้ค่าตัว ซึ่งภายใต้การทำงานร่วมกับโค้ชอย่าง ฮาเซนฮุตเทิล นั้น เขาก็ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ
ต่อมาในปี 2015 ราล์ฟ รังนิก อดีตเทรนเนอร์ของ ไลป์ซิก ก็จ่ายเงิน 2.7 ล้านปอนด์คว้าตัว กูลัคซี่ ไปเฝ้าเสา โดยในช่วงเริ่มต้นเขาต้องตกเป็นมือ 2 ของ ฟาบิโอ โกลตอร์ติ โกล์ชาวสวิตเซอร์แลนด์ และ 1 ปีถัดมาเจ้าตัวก็ยึดมือ 1 ได้สำเร็จมาจนถึง ณ เวลานี้
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ไลป์ซิก เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งจากเดิมที่เป็นทีมระดับบุนเดสลีกา 2 ในช่วงที่ กูลัคซี่ เซ็นสัญญานั้น ตอนนี้พวกเขากลายเป็นขาประจำในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ไปเรียบร้อยแล้ว แต่อดีตโกล์ ลิเวอร์พูล ก็ยังยึดมั่นในการทำงานหนักเหมือนเดิม
มือกาววัย 31 ปี กล่าวต่อว่า “คุณต้องเล่นบอลกับเท้าให้เก่งขึ้น แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องหนึ่งในวงการฟุตบอลยุคนี้ เพราะการเล่นหลังแนวรับสูงก็สำคัญเช่นกัน ผมพูดเสมอว่าสิ่งสำคัญของผู้รักษาประตูยังคงเป็นการเซฟบอล แน่นอน และนี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุด”
“แต่มันมีเรื่องเล็ก ๆ มากมายก่อนหน้านั้นด้วยการตัดสินใจด้วยการยืนตำแหน่ง สิ่งที่ยิ่งใหญ่สำหรับการเล่นฟุตบอลคือ การตัดสินใจเพราะคุณไม่มีเวลามากนัก และคุณต้องอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องเพื่อให้สามารถเซฟได้ เราเห็นว่าผู้รักษาประตูชั้นนำนั้นตัดสินใจและวางตำแหน่งได้อย่างตรงจุดเสมอ”
“ทุกวันนี้ ถ้าคุณต้องการเป็นผู้รักษาประตูระดับท็อป คุณไม่สามารถเก่งในด้านใดด้านหนึ่งได้เลย คุณต้องมี 9 ใน 10 ในทุกสิ่งที่ผู้รักษาประตูควรมี นี่คือความท้าทาย เพราะเกมมันเริ่มเร็วขึ้น เร็วขึ้น และเร็วขึ้น และผู้รักษาประตูคุณต้องปรับตัวเสมอ”
รับมือกับการเปลี่ยนแปลง
ในซีซั่นนี้มันเป็นฤดูกาลที่วุ่นวายสำหรับ ไลป์ซิก หลังจาก นาเกิลส์มันน์ ย้ายไปคุม บาเยิร์น มิวนิค เมื่อซัมเมอร์ที่แล้ว และนักเตะตัวหลักอย่าง ดาโยต์ อูปาเมกาโน, อิบราฮิมา โคนาเต และ มาร์เซล ซาบิตเซอร์ ต่างก็ย้ายออกไปจากสโมสร
“ปีนี้เป็นครั้งแรกที่เรามีการเปลี่ยนแปลงแนวรับครั้งใหญ่ ผมคิดว่านักเตะใหม่ปรับตัวเข้ากับบุนเดสลีกาได้อย่างรวดเร็ว ตามสไตล์การเล่นของเรา และในฐานะผู้รักษาประตู ผมได้พยายามสนับสนุนพวกเขา พยายามช่วยพวกเขาในทุกวิถีทาง ผมคิดว่าเรามีการสื่อสารที่ดีในกองหลัง” กูลัคซี่ กล่าว
ฤดูกาลนี้ ไลป์ซิก เริ่มต้นด้วยการได้ เจสซี่ มาร์ช โค้ชชาวอเมริกันเข้ามาคุมทีม แต่หลังจาก 6 เดือนผ่านไปพวกเขาทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวังโดยทีมชนะเพียง 7 จาก 20 เกมในบุนเดสลีกา ซึ่งทำให้ มาร์ช โดนไล่ออก
กูลัคซี่ กล่าวต่อว่า “ฟุตบอลสำหรับผมมักจะเป็นสิ่งที่ซับซ้อน คุณรู้ไหม สุดท้ายแล้วถ้าทีมไม่ประสบความสำเร็จ คุณจะถูกตัดสินจากผลงานเสมอ เรามีเกมที่ยอดเยี่ยมอยู่บ้าง แต่เราไม่สามารถรักษาความสม่ำเสมอได้เพียงพอ”
“เจสซี่ เป็นผู้จัดการทีมที่วิเศษ ผมคิดว่าเขาจะทำได้ดีจริงๆ ที่ ลีดส์ และผมขออวยพรให้เขามีแต่สิ่งที่ดีที่สุด ใช่แล้ว เราได้ก้าวไปอีกทางแล้ว เราพบเส้นทางของเราแล้ว และฟุตบอลก็เช่นกัน คุณต้องยอมรับ และใช้ชีวิตกับมัน ผมคิดว่าเรารักษาความสม่ำเสมอตัวเองตั้งแต่พักเบรกหน้าหนาว เราเล่นได้ดีขึ้น ผมคิดว่า เรากำลังก้าวไปทีละขั้น และแน่นอนว่าเราต้องการปรับปรุงต่อไป”