ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ กองกลางอนาคตไกลของ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ทีมดังแห่งบุนเดสลีกา และ วงการฟุตบอลต่างประเทศ สร้างสถิติกลายเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ทำได้ 10 ประตูในศึกลีกสูงสุดเมืองเบียร์ หลังซัดประตูชัยพา “ห้างขายยา” เอาชนะ ไมนซ์ 1-0 เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน ฝีเท้าที่โดดเด่นเกินอายุ และพรสวรรค์ของ เวิร์ตซ์ นั้น ทำให้เขาถูกเรียกตัวไปติดทีมชาติเยอรมันชุดใหญ่ถึง 4 เกมแล้ว และเจ้าตัวยังสามารถทำแอสซิสต์ให้กับพลพรรค “อินทรีเหล็ก” ได้ 1 ครั้งอีกด้วย
กองกลางวัย 18 ปี ได้รับการพูดถึงไปทั่วยุโรป และยังตกเป็นข่าวกับสโมสรดังมากมายอาทิ เชลซี, เรอัล มาดริด และ บาเยิร์น มิวนิค ซึ่งหลายคนกำลังสนใจว่า เวิร์ตซ์ คือใคร
ภูมิหลังของ ฟลอเรียน เวิร์ตซ์
เวิร์ตซ์ เริ่มเล่นฟุตบอลกับทีมเยาวชนของ เอฟซี โคโลญจน์ จากนั้น เขาก็เซ็นสัญญากับ เลเวอร์คูเซ่นในเดือนมกราคม 2020 แต่มันก็มีปัญหาตามมาเล็กน้อยเนื่องจาก คโลญจน์ คิดว่า พวกเขาต้องเสียอนาคตของทีมไปแบบไม่คุ้มค่าตัว
ในตอนแรก เลเวอร์คูเซ่น วางแผนให้ เวิร์ตซ์ ลงเล่นในทีมชุดอายุต่ำกว่า 19 ปี แต่หลังจากนั้นเพียงไม่กี่เดือน ปีเตอร์ บอสซ์ อดีตกุนซือ “ห้างขายยา” เริ่มมองเห็นแวว และศักยภาพจนทำให้ เวิร์ตซ์ ถูกส่งลงเล่นกับทีมชุดใหญ่ด้วยวัยเพียง 17 ปีเท่านั้น
หลังจากทำสถิติเป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดของสโมสรที่ลงเล่นในเกมชุดใหญ่ เวิร์ตซ์ ก็ได้ยึดตำแหน่งของเขาในทีมชุดแรกทันที และในฤดูกาล 2019-20 เขายังซัดประตู บาเยิร์น ด้วย ซึ่งทำให้เจ้าตัวกลายเป็นแข้งอายุน้อยที่สุดที่ยิงประตูในบุนเดสลีกาดว้ยวัย 17 ปี 34 วัน ก่อนจะถูกทำลายโดย ยุสซูฟา มูโกโก้ หัวหอกดาวรุ่ง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์
ตำแหน่งการเล่น
เวิร์ตซ์ ทำผลงานได้โดดเด่นที่สุดในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรุกหมายเลข 10 ในระบบ 4-2-3-1 แต่ในบางรรั้งเขาก็สามารถขยับมาเล่นเป็นตัวริมเส้นฝั่งซ้าย-ขวาได้ด้วย รวถึงขยับลงมาเป็นกองกลางหมายเลข 6 และ 8 ได้
ในทีมชาติเยอรมัน เวิร์ตซ์ ก็ได้ลงสนามในบทบาทเพลย์เมคเกอร์ แต่ก็ยังต้องรอคอยโอกาสต่อไปหลังจากมีรุ่นพี่ตัวจริงอย่าง อิลคาย กุนโดกัน, โธมัส มุลเลอร์, ไค ฮาเวิร์ตซ์ และ จามาล มูเซียลา คอยขวางหน้าอยู่
เวิร์ตซ์ เป็นนักเตะที่เคลื่อนที่หาตัวแหน่งได้อย่างยอดเยี่ยม และยังชอบลงมาล้วงบอลในแนวลึกเพื่อสร้างสรรค์เกมด้วยตัวเอง
จุดแข็ง-จุดอ่อน
ในซีซั่นนี้ เวิร์ตซ์ ซัดให้ เลเวอร์คูเซ่น ไปแล้วรวมทุกรายการ 6 ประตู ซึ่งการจบสกอร์ของเขานั้น ก็จุดแข็งที่สุด นอกจากนี้ เขายังเป็นมิดฟิลด์สมัยใหม่ที่มีสัมผัสบอลยอดเยี่ยม เทคนิคดี มีความเร็ว และพละกำลังที่สามารถวิ่งได้ตลอด 90 นาที
เวิร์ตซ์ เป็นกองกลางที่ผ่านบอลได้อย่างแม่นยำ และไม่เห็นแก่ตัวเมื่อเพื่อนร่วมทีมมีโอกาสที่ดีกว่าเขาก็พร้อมจะจ่ายบอลให้เสมอ นอกจากนี้ เขายังเป็นนักเตะที่รู้ว่า จังหวะไหนควรเร่งเกม และจังหวะไหนควรจะผ่อนเกมเพื่อความได้เปรียบของทีม
แม้จะตกเป็นข่าวมากมาย แต่ เวิร์ตซ์ ปฏิบัติตนอย่างยอด้ยี่ยม และปรับปรุงตัวเองอย่างต่อเนื่องในปีที่ผ่านมาท่ามกลางความสนใจของสื่อมวลชน และความคาดหวังที่เพิ่มขึ้น แต่เขาก็แสดงให้เห็นว่า เขามีความคิดที่เป็นผู้ใหญ่เกินตัว
เมื่อพูดถึงสไตล์การเล่น เวิร์ตซ์ ค่อนข้างคล้ายกับอดีตกองกลาง อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม และ เรอัล มาดริด อย่าง ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท และดูเหมือนว่า เวิร์ตซ์ จะมีความเร็ว และความคล่องตัวกว่า ฟาน เดอร์ ฟาร์ท พอสมควร
มีข้อบกพร่องเล็กๆ น้อยๆ ที่นักเตะวัยรุ่นที่มีแนวโน้มมากที่สุดคนหนึ่งในฟุตบอลยุโรปอย่าง เวิร์ตซ์ จะต้องพัฒนานั้นก็คือ การเล่นลูกกลางอากาศ แต่ด้วยการเป็นมิดฟิลด์ตัวรุกที่มีส่วนสูงเพียง 5 ฟุตนั้น มันก็ชัดเจนว่า เขาจะไม่มีวันเป็นผู้เชี่ยวชาญในการโหม่งบอลได้
อย่างไรก็ตาม เวิร์ตซ์ มีทักษะที่ยอดเยี่ยมมาก รวมถึงความสามารถต่างๆที่ผู้เล่นในตำแหน่งกองกลางควรมี ซึ่งทำให้เขาไม่ต้องกังวลมากเกินไปเกี่ยวกับการเล่นลูกโด่ง และอีกอย่างหนึ่งก็คือ เขาอาจต้องเพิ่มประสบการณ์อีกเล็กน้อย
เวิร์ตซ์ เป็นนักเตะอายุน้อยที่กล้าได้กล้าเสีย เขาเอาขนะการดวลตัวต่อตัวมากกว่าฤดูกาลที่ผ่านมา และเป็นนักเตะที่ขยันขันแข็งด้วย และตอนนี้เหมือนว่า เขาจะมีสภาพร่างกายแข็งแกร่งขึ้นมากกว่าตอนที่เข้ามาสู่ทีมชุดใหญ่ของ เลเวอร์คูเซ่น
อนาคตของ ฟลอเรียน เวิร์ตซ์
แม้ว่าสโมสรชั้นนำของยุโรปหลายแห่งกำลังจับตาดูอยู่ แต่อย่าคาดหวังว่า เวิร์ตซ์ จะย้ายทีมในเร็วๆ นี้ โดยความก้าวหน้าอันมหัศจรรย์ของเขาไม่ได้ถูกมองข้าม แต่สัญญาของเขากับ เลเวอร์คูเซ่น ยังมียาวไปจนถึงปี 2026 เลยทีเดียว
เวิร์ตซ์ ไม่ได้ถูก เอเย่นต์ กดดันให้ย้ายสโมสร เขาค่อนข้างสงบกับข่าวลือต่างๆ และมันมีสถานที่ที่ดีกว่าในยุโรปไม่กี่แห่งที่จะพัฒนาด้านกีฬาของเขามากกว่ากับ เลเวอร์คูเซ่น ต่อไป อย่างไรก็ตาม เมื่อในที่สุดทุกอย่างพร้อมเขาก็พร้อมจะย้ายออกไปยังสโมสรที่ใหญ่กว่าในอนาคต