มาร์คัส แรชฟอร์ด กองหน้าทีมชาติอังกฤษของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก และ วงการฟุตบอลต่างประเทศ กำลังเจอสถานกาณ์ที่ยากลำบากอย่างหนนัก หลังจากโชว์ฟอร์มได้อย่างย่ำแย่ในเกมเอฟเอ คัพ ที่ “ปีศาจแดง” เอาชนะ แอสตัน วิลล่า 1-0 เมื่อวันที่ 11 มกราคมที่ผ่านมา
1-2 ซีซ่นที่ผ่านมา แรชฟอร์ด ไม่ได้โชว์ฟอร์มอย่างสม่ำเสมอให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด เลยเนื่องจากเขาได้รับบาดเจ็บ และบางทีมันก็ทำไห้ดาวยิงวัย 24 ปี หมดความมั่นใจการเล่นฟุตบอล และทำให้ฟอร์มไม่ดีเหมือนสมัยแจ้งเกิดใหม่ๆ
อลัน เชียร์เรอร์ อดีตกองหน้าทีมชาติอังกฤษของ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ที่ปัจจุบันรับบทกูรู แสดงความคิดเห็นว่า “ผมไม่ต้องการโจมตี มาร์คัส แรชฟอร์ด เพราะเราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขากับแน่ แต่ทุกอย่างดูเป็นความยากลำบากมากๆสำหรับเขา”
มาร์คัส แรชฟอร์ด กับความมั่นใจที่หายไป
แรชฟอร์ด เข้ามาเป็นผู้เล่นทีมชุดใหญ่ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในกุมภาพันธ์ ปี 2016 โดยเจ้าตัวซัดไป 2 ประตู ในเกมนัดเปิดตัวในศึกยูโรป้า ลีก กับ มิดทิลลันด์ จากเดนมาร์ก หลังจากนั้นก็ได้ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกกับ อาร์เซน่อล และซัดไปอีก 2 ประตู
ฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมของ แรชฟอร์ด ทำให้เขามีชื่อติดทมีชาติอังกฤษชุดลุยศึกยูโร 2016 และจนถึงตอนนี้เขาติดทัพ “สิงโตคำราม” ไปแล้ว 46 เกม และได้ลงเล่นในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ไปถึง 3 รายการให้กับบ้านเกิด
อย่างไรก็ตาม ในฤดูกาลนี้ แรชฟอร์ด เข้ารับการผ่าผ่าตัดไหล่ในช่วงซัมเมอร์ทีผ่านมาทำให้ไม่ได้มีส่วนร่วมกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในช่วงออกสตาร์ท และตลอด 11 เกมหลังสุกที่ลงสนามนั้น ดาวยิงวัย 24 ปี ยังทำประตูไม่ได้เลยแม้แต่ลูกเดียว
ความเชื่อมั่นกลายเป็นปัญหาสำหรับ แรชฟอร์ด ชัดเจน การตัดสินใจในสนามที่ทำไว้ก่อนหน้านี้กลับเป็นความผิดพลาด ซึ่งแฟนบอล “ปีศาจแดง” หลายๆคนหวังว่า เขาจะเรียกฟอร์มเก่งกลับมาให้ได้
ก่อนหน้านี้ แรชฟอร์ด มีความสัมพันธ์ที่ดีกับอดีต โอเล่ กุนนาร์ โซลชา อดีตนายใหญ่ชาวนอร์เวย์ ของแมนฯ ยูไนเต็ด แต่ โซลชา เป็นโค้ชที่ไม่เข้มเรื่องการฝึกสอนมากนักจึงทำให้ แรช์ฟอร์ด ใช้ชีวิตแบบสบายๆ และไม่กดดัน
หลังจาก ราล์ฟ รังนิก เทรนเนอร์ชาวเยอรมัน เข้ามาแทนที่ โซลชา เมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมานั้น แรชฟอร์ด ก็หวังจะได้ความมั่นใจในการเล่นกลับมาอีกครั้ง ซึ่ง รังนิก มักจะมีการพูดคุยกับลูกทีมแบบตัวต่อตัวทุก 2-3 สัปดาห์
แต่สำหรับทีมของ แมนฯ ยูไนเต็ด โดยรวมนั้นมีความไม่แน่นอนในอนาคต เนื่องจากงานของ รังนิก คือ เขามารักษาการ และให้คำแนะนำในการหาตัวแทนเป็นการถาวรในฤดูร้อน ซึ่งมันไม่ง่ายเลยที่จะสร้างความผูกพันเพื่อสร้างความเข้าใจซึ่งกันและกันค้นหาฟอร์มที่ดีที่สุดของ แรชฟอร์ด
ตำแหน่งที่ดีที่สุด และคนที่จะเรียฟอร์มเขากลับคืนมาอีกครั้ง
แรชฟอร์ด คิดว่า ตำแหน่งที่มีประสิทธิภาพที่สุดของเขาอยู่ทางริมเส้นฝั่งซ้าย และตัดเข้ามาทำประตูด้วยเท้าขวา แต่ตอนนี้กลายเป็นว่า ตำแหน่งของเขาถูกแทนที่ด้วย ปอล ป็อกบา กองกลางชาวฝรั่งเศส และ จาดอน ซานโช่ ตัวรุกดาวรุ่ง
ขณะเดียวกัน การมาถึงของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ปีกชาวโปรตุเกส และการเข้ามาของ รังนิก นั้น สิ่งต่างๆที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง โดย 7 เกมแรกขอในซีซั่นนี้ของ แรชฟอร์ด เขาทำได้ 3 ประตู แต่หลังจากนั้นก็ฟอร์มตกอย่างน่าใจหาย
รังนิก เข้ามา และแนะนำระบบ 4-2-2-2 ที่เขาชื่นชอบมาใช้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด โดยทันที ซึ่งเขามักขะใช้ฟูลแบ็คเป็นคีย์แมนในการทำเกมรกริมเส้น และทำให้บทบาทของ แรชฟอร์ด ก็ถูกลดลงไปไม่เหมือนกับสมัยที่ โซลชา คุมทีม และใช้ระบบ 4-2-3-1 โดยที่ แรชฟอร์ด อยู่ทางริมเส้นฝั่งซ้ายตามที่ถนัด
มีความรู้สึกว่าสถานการณ์ปัจจุบันของ แรชฟอร์ด สามารถคลี่คลายได้อย่างรวดเร็ว เขามุ่งมั่นที่จะเริ่มทำประตูอีกครั้ง และได้รับการเน้นย้ำว่าไม่มีปัญหาที่เกี่ยวกับงานของเขานอกสนามของเขาที่ได้ไปร่วมบริจาคสิ่งของต่างๆให้กับเด็กด้อยโอกาสตามชุมชน
อย่างไรก็ตาม แรชฟอร์ด จะได้รับประโยชน์จากทิศทางที่ชัดเจนขึ้นของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในอนาคต และโอกาสที่จะได้ร่วมงานกับโค้ชที่เชื่อมั่นในตัวเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ เทรนเนอร์ชาวอาร์เจนไตน์ของ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ในลีกเอิง ฝรั่งเศส ที่แฟนบอล “ปีศาจแดง” อยากให้เช้ามาคุมทีมอย่างมาก
บางทีการเข้ามาของ โปเช็ตติโน่ อาจจะเป็นเรื่องที่ดีสำหรับ แรชฟอร์ด ที่จะได้โค้ชที่สามารถเรียกความมั่นใจเขากลับคืนมาได้อีกครั้ง และสำหรับตอนนี้ ดาวยิงวัย 24 ปี ยังคงต้องก้มหน้าก้มตาทำงานหนักของตัวเองต่อไป