ทางเลือกของ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง

ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ปีกทีมชาติอังกฤษของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรดังแห่ง วงการฟุตบอลต่างประเทศ เปิดเผยว่า เขาพร้อมจะย้ายออกจากทัพ “เรือใบสีฟ้า” แล้วหลังจากไม่ได้รับโอกาสจาก เป็ป กวาร์ดิโอล่า ยอดเทรนเนอร์ชาวสเปนมากที่เท่าควร

มิดฟิลด์ตัวรุกวัย 26 ปี ไม่ได้รับโอกาสลงสนามเป็นตัวจริงกับ แมนฯ ซิตี้ เลยในระยะหลัง ซึ่งทำให้เขาพร้อมหาความท้าทายใหม่ โดย สเตอร์ลิ่ง กล่าวว่า “ถ้ามีโอกาสไปที่อื่น ผมจะเปิดรับทันที” และจากคำสัมภาษณ์ของเขานั้น ก็ทำให้หลายสโมสรให้ความสนใจอย่างมาก

สเตอร์ลิ่ง ตกเป็นข่าวมากมายกับทีมทั้งใน และนอกอังกฤษ และบางทีในตลาดนักเตะเดือนมกราคมนี้ ดาวเตะเลือดผู้ดีอาจจะย้ายไปยังปลายทางเหล่านี้ก็เป็นได้

1. นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด อาจเป็นทีมใหม่ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง

นิวคาสเซิ่ล กลายเป็นสโมสรที่รวยที่สุดในโลกไปเรียบร้อยแล้วหลังจากกลุ่มทุนจากซาอุดิอาระเบียในนาม “พับบลิค อินเวสต์เมนต์ ฟันด์” ที่มี โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งประเทศซาอุดิอาระเบียเป็นผู้บริหารเข้ามาเทคโอเวอร์

เจ้าของใหม่ นิวคาสเซิ่ล วางเป้าหมายไว้คือการพาทีมคว้าแชมป์ และไปเล่นในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในอนาคต ซึ่งพวกเขามีเงินเสริมทัพแบบไม่จำกัด และการคว้าตัว สเตอร์ลิ่ง มาจาก แมนฯ ซิตี้ ก็คงไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด

สเตอร์ลิ่ง จะได้รับการการันตีตำแหน่งตัวจริงในแนวรุก นิวคาสเซิ่ล อย่างแน่นอน และเจ้าตัวจะเป็นหัวหอกสำคัญในการพา “สาลิกาดง” ยุคใหม่ไล่ล่าความสำเร็จ

2. บาร์เซโลน่า

บาร์เซโลน่า ตกเป็นข่าวกับ สเตอร์ลิ่ง มาระยะหนึ่งแล้ว และหากเขาตัดสินใจย้ายไปเล่นกับ “เจ้าบุญทุ่ม” นั้น ก็จะทำให้ได้หวนกลับไปร่วมงานกับเพื่อนเก่าที่ แมนฯ ซิตี้ อย่าง เอริค การ์เซีย กองหลังชาวสเปน และ เซอร์คิโอ อเกวโร่ ดาวยิงอาร์เจนติน่า

บาร์เซโลน่า กำลังเจอวิกฤตอย่างแนวรุกหนักหลังจาก ลิโอเนล เมสซี่ จอมทัพตัวเก่งย้ายไปเล่นกับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ในฝรั่งเศสแบบไร้ค่าตัวเมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา และ สเตอร์ลิ่ง ก็จะเป็นจิ๊กซอว์ที่สมบูรณ์แบบสำหรับ “เจ้าบุญทุ่ม”

อย่างไรก็ตาม บาร์เซโลน่า กำลังมีปัญหาเรื่องสถานะทางการเงิน ซึ่งอาจส่งผลให้พวกเขาไม่สามารถจ่ายค่าตัว สเตอร์ลิ่ง ตามที่ แมนฯ ซิตี้ ต้องการได้ แต่การขอยืมตัวแล้วซื้อขาดในอนาคตก็อาจเป็นทางออกที่ดีสำหรับทุกฝ่ายเช่นกัน

3. เรอัล มาดริด

เช่นเดียวกันกับ บาร์เซโลน่า สเตอร์ลิ่ง ตกเป็นข่าวกับ มาดริด มาระยะหนึ่งแล้ว โดยเมื่อปีที่แล้ว ปีกชาวอังกฤษ เคยให้สัมภาษณ์ถึง “ราชันชุดขาว” ว่า “เรอัล มาดริด เป็นสโมสรที่มหัศจรรย์ เมื่อคุณเห็นเสื้อสีขาว คุณจะรู้ว่า สโมสรนี้มีความหมายเพียงใด มันยิ่งใหญ่มาก”

แกเร็ธ เบล ปีกชาวเวลส์ จะหมดสัญญากับ มาดริด ในช่วงซัมเมอร์หน้า ขณะที่ เอเด็น อาซาร์ มิดฟิลด์ทีมชาติเบลเยียมก็เจอปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวน และไม่สามารถเรียกฟอร์มเก่งกลับมาได้เหมือนสมัยพีคๆแล้ว

สเตอร์ลิ่ง จะเป็นตัวเลือกในเกมรุกที่ยอดเยี่ยมของ คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือชาวอิตาเลียนของ มาดริด และ “ราชันชุดขาว” ก็มีเงินพอที่จะจ่ายค่าตัวให้กับ แมนฯ ซิตี้

4. ปารีส แซงต์ แชร์กแมง

เปแอสเช เป็นอีกสโมสรหนึ่งที่ไม่มีปัญหาเรื่องค่าตัว สเตอร์ลิ่ง และมีเงินมากพอที่จะจ่ายค่าเหนื่อยจำนวนมหาศาลของดาวเตะชาวอังกฤษได้ และแน่นอนว่า เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ โค้ช เปแอสเช ก็รู้ดีว่า สเตอร์ลิ่ง มีคุณภาพมากเพียงใดหลังจากเคยเห็นฟอร์มมาแล้วในช่วงทีเขาคุม ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์

ขณะเดียวกันการที่ เปแอสเช มีสุดยอดนักเตะอย่าง เนย์มาร์ ดาวยิงทีมชาติบราซิล, คีเลียน เอ็มบัปเป้ หัวหอกทีมชาติฝรั่งเศส และ เมสซี่ ซึ่งเป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดในโลกนั้น มันก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจอย่างมากสำหรับ สเตอร์ลิ่ง ในการไปเล่นในทีมเดียวกับบรรดาผู้เล่นเหล่านั้น

5. โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์

ทุกอย่างจะชัดเจนขึ้นในซัมเมอร์หน้าหาก เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ศูนย์หน้ามากพรสวรรค์ทีมชาตินอร์เวย์ตัดสินใจย้ายออกจาก ดอร์ทมุนด์ ไปเล่นกับสโมสรที่ใหญ่กว่า ซึ่งจะทำให้พลพรรค “เสือเหลือง” เกิดช่องโหว่ในเกมรุกอย่างมาก

สเตอร์ลิ่ง ไม่ใช่กองหน้าตัวเป้าเหมือนกับ ฮาแลนด์ แต่เขาก็สามารถเล่นในตำแหน่ง False9 ได้อย่างไม่มีปัญหา และยังสามารถเล่นได้ทุกตำแหน่งในแนวรุกอีกด้วย นอกจากนี้ ยังทำให้เขาได้เล่นกับรุ่นน้องทีมชาติอังกฤษอย่าง จู๊ด เบลลิ่งแฮม

ขณะเดียวกันการที่ ดอร์ทมุนด์ มีแฟนบอลที่ดีที่สุดในโลกอย่าง “เยลโล่ วอลล์” นั้น ก็เป็นสิ่งจูงใจ สเตอร์ลิ่ง อยู่มากทีเดียว

6. อาร์เซน่อล อยู่ในตัวเลือกของ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง

มันคงเป็นทางเลือกที่อาจจะห่างไกลความเป็นจริงกับการที่ สเตอร์ลิ่ง จะย้ายไปยัง อาร์เซน่อล ที่อยู่ในระหว่างสร้างทีมสายเลือดใหม่ และมีนักเตะดาวรุ่งมากมาย รวมถึงมีกุนซือคนหนุ่มอย่าง มิเกล อาร์เตต้า คุมทีม

อย่างไรก็ตาม หาก อาร์เซน่อล ยื่นข้อเสนอที่น่าสนใจพร้อมการันตีตัวจริงให้ สเตอร์ลิ่ง พิจารณานั้น มันก็อาจทำให้เขาคิดหนักก็ได้ และในอีก 1-2 ปี หากทุกอย่างเข้าที่ “ไอ้ปืนใหญ่” จะกลายเป็นทีมที่น่าจับตามองมากทีเดียว