ลิเวอร์พูล กับโอกาสลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก

จากฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยม และแข็งแกร่งของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การนำของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยอดกุนซือชาวสเปนมตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา รวมถึงขุมกำลังเชิงลึกในทีมนั้น ดูเหมือนว่า ลิเวอร์พูล ทีมดังแห่งพรีเมียร์ลีก อังกฤษ และ วงการฟุตบอลต่างประเทศ กำลังเจองานยากสุดๆในการคว้าแชมป์ซีซั่นนี้

ตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล และ แมนฯ ซิตี้ ขับเคี่ยวลุ้นแชมป์กันอย่างสูสีมาโดยตลอด และถึงแม้จะดูเหมือนว่า ปีนี้ “เรือใบสีฟ้า” น่าจะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกไปแบบสบายๆ แต่สำหรับ แดนนี่ เมอร์ฟี่ย์ อดีตกองกลางทีมชาติองกฤษของ “หงส์แดง” เชื่อว่า อดีตทีมเก่าของเขายังไม่หมดความหวัง  

ลิเวอร์พูล ทีมดังแห่งพรีเมียร์ลีก ยังมีโอกาสลุ้นแชมป์

เมอร์ฟี่ย์ ซึ่งปัจจุบันรับบทกูรูแสดงความคิดเห็นว่า “อย่างแรกเลย เรารู้ว่าทีม ลิเวอร์พูล ชุดนี้สามารถลุ้นแชมป์ได้เหมือนกับที่พวกเขาเคยทำมาในปีก่อนๆ ยกตัวอย่าง ในปี  2018-19 พวกเขาแย่งแชมป์กับ แมนฯ ซิตี้ ไปถึงวันสุดท้ายของฤดูกาล จากนั้นในปีต่อมาพวกเขาก็คว้าแชมป์ได้สำเร็จทั้งที่หลายคนคิดว่า พวกเขาคงหมดโอกาสแล้ว”

“ความจริงก็คือ ลิเวอร์พูล ยังเป็นทีมเดียวกับที่ผ่านๆมาหลายปีที่แล้วที่พวกเขาเคยคว้าแชมป์เหนือ แมนฯ ซิตี้ ซึ่งก็หมายความว่า พวกเขายังจะมีความเชื่อมั่นในทีมของตัวเองว่า พวกเขายังคงมีโอกาส ผมคิดว่า 2-3 ปีที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล มีความยืดหยุ่นอย่างมากภายใต้การคุมทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ พวกเขาคว้าแชมป์มามากมาย ดังนั้น ผู้เล่นของพวกเขาคิดว่าทำได้แม้ไม่มีใครเชื่อก็ตาม พวกเขาจะยังไม่ยอมแพ้”

“เราทุกคนรู้ดีว่า แนวทางที่ แมนฯ ซิตี้ กำลังเล่นอยู่นั้นน่ากลัวมาก และในแง่เปอร์เซ็นต์มันมีโอกาสเพียงเล็กน้อยที่พวกเขาจะเปิดประตูให้กว้างพอที่จะให้ใครไล่ตามทัน เมื่อคุณดูทีมของ กวาร์ดิโอล่า คุณต้องชื่นชมคุณภาพการเล่นของพวกเขา และความแข็งแกร่งของพวกเขาในเชิงลึกซึ่งหมายความว่า ระดับของพวกเขาแทบไม่ตกลงเลย พวกเขาเป็นหนึ่งในทีมที่ดีที่สุดที่เราเคยเห็นในพรีเมียร์ลีก”

“พวกเขาเอาชนะ เชลซี ได้อย่างยอดเยี่ยม ผมไม่เคยคิดเลยว่าทีมของ โธมัส ทูเคิ่ล จะหมดลุ้นแชมป์ไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเกมรับที่แข็งแกร่งของพวกเขาในช่วง 2-3 เดือนแรกของฤดูกาลนี้ และมันแสดงให้คุณเห็นว่า ไม่ว่าคุณจะมีทีมที่แข็งแกร่งแค่ไหน หากคุณแพ้หรือเสมอเพียง 2-3 เกม และมีผู้เล่นหลักขาดหายไป คุณอาจสูญเสียความมั่นใจและโมเมนตัมที่เปลี่ยนไป”

“ใช่ เชลซี มีปัญหานักเตะหลักได้รับบาดเจ็บ และมีปัญหาเกี่ยวกับ Covid-19 ในทีมของพวกเขา แต่ผมก็ยังแปลกใจที่พวกเขาฟอร์มหลุดไปดื้อๆ เมื่อเดือนที่แล้วเรายังพูดถึงตัวเต็ง 3 ทีม และไม่มีใครคาดหวังว่าตารางคะแนนจะดูเหมือนตอนนี้” เมอร์ฟี่ย์ กล่าว

ขณะเดียวกัน ลิเวอร์พูล ยังสามารถยืนหยัดอยู่สู้กับ แมนฯ ซิตี้ ต่อไปได้อีกสักระยะ ซึ่งเกมของพวกเขาที่จะไปเยือนถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ยม ในช่วงต้นเดือนเมษายนนั้น อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ แต่ “หงส์แดง” ต้องไม่เกิดความผิดพลาดอีกนับจากนี้เพื่อรักษาความหวังของตัวเอง

ลิเวอร์พูล ทีมดังแห่งพรีเมียร์ลีก อังกฤษ และ วงการฟุตบอลต่างประเทศ

ความหวังของ “หงส์แดง”

เมอร์ฟี่ย์ กล่าวต่อว่า “ในตอนนี้ทุกเกมที่ลงสนามมันรู้สึกเหมือนเป็นชัยชนะที่ คล็อปป์ ต้องการอ และความกดดันยังคงอยู่ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมผมประทับใจกับวิธีที่พวกเขาเล่นในเกมที่พบกับ เบรนท์ฟอร์ด ในวันอาทิตย์”

“มันเป็นโจทก์ของการทำงานให้สำเร็จลุล่วงโดยไม่มี โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ ซาดิโอ มาเน่ และพวกเขาก็ทำได้อย่างที่คาดไว้ ลิเวอร์พูล เล่นได้อย่างเข้มข้น และผมรู้สึกว่า เคอร์ติส โจนส์ และ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน เป็นตัวเลือกที่ดีทั้งคู่”

“พวกเขาทั้ง 2 คนจุดประกายให้ทีมด้วยความเร็ว ความคิดสร้างสรรค์ และการบุกไปข้างหน้า พวกเขาทั้งคู่มองโลกในแง่ดีจริง ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ ลิเวอร์พูล ต้องการอย่างแท้จริง ผมคิดว่า มันเป็นฟอร์มที่ยอดเยี่ยมจากกองหน้าทั้ง 3 คน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงการที่ ซาล่าห์ และ มาเน่ ไปเล่นให้กับทีมชาติ”

“แชมเบอร์เลน, ดิโอโก้ โชต้า และ โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ มีพลังงานมากมาย และการหมุนเวียนระหว่างตำแหน่งของพวกเขาก็ยอดเยี่ยม และสิ่งที่ผมชอบเกี่ยวกับ แชมเบอร์เลน คือ ความเต็มใจของเขาที่จะวิ่งไล่กดดัน เบรนท์ฟอร์ด ซึ่งเป็นสิ่งที่ มาเน่ และ ซาลาห์ ทำได้ดีมาตลอด”

“มีหลายครั้งที่เขาวิ่งแบบนั้น และถ้าคุณทำอย่างนั้นตอนที่ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ หรือแอนดี้ โรเบิร์ตสัน ได้เปิดบอล พวกเขาจะเปิดบอลที่ยอดเยี่ยมมาหาคุณ และอย่างที่เราเห็นกับประตูที่ 2 ของ ลิเวอร์พูล ที่ แชมเบอร์เลน โหม่งเข้าไป”

“การเปลี่ยน แชมเบอร์เลน ลงมาเล่นกับ เบรนท์ฟอร์ด แทนที่ ทาคูมิ มินามิโนะ เป็นเพียงสิ่งเดียวที่ คล็อปป์ ทำกับแนวรุกของเขาหลังจากเสมอ 0-0 อย่างน่าผิดหวังในเลกแรกของศึก คาราบาว คัพ รอบรองชนะเลิศกับ อาร์เซนอล แต่มันก็ได้ผล”

“มันเป็นเกมที่แตกต่างอย่างมากกับ อาร์เซนอล ที่มีนักเตะ 10 คนยืนในแดนตัวเอง และในเกมกับ เบรนท์ฟอร์ด ลิเวอร์พูล ดูอันตรายกว่ามากกว่าเดิม สำหรับผม โจนส์ ก็มีส่วนสำคัญในเรื่องนั้น เขาควรรักษาตำแหน่งของเขาไว้ เพราะเขานำความคิดสร้างสรรค์จากแดนกลางมาเพิ่มเติมให้กับทีมได้”

“ลิเวอร์พูล ยังคงดูไหลลื่น ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ไม่ว่า ซาลาห์ และมาเน่ จะไม่ได้เล่นให้กับทีมนานแค่ไหนก็ตาม” เมอร์ฟี่ย์ กล่าวปิดท้าย

, , , , , ,

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *