หลุยส์ ดิอาซ กับเส้นทางสู่ ลิเวอร์พูล

การย้ายจาก เอฟซี ปอร์โต้ ในลีกโปรตุเกส ไปยัง ลิเวอร์พูล ทีมดังแห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันเดดไลน์ตลาดนักเตะเดือนมกราคมที่ผ่านมานั้น เป็นการเดินทางที่น่าทึ่งอีกครั้งหนึ่งของ หลุยซ์ ดิอาซ ตัวรุกทีมชาติโคลอมเบีย

ดิอาซ เติบโตมาใกล้ชายแดนกับเวเนซุเอลาทางตะวันออกเฉียงเหนือของโคลอมเบีย และเคยมีปัญหาเรื่องสภาพร่างกาย รวมถึงโภชนาการด้วย แต่เขาก็ได้โอกาครั้งสำคัญในชีวิตด้วยการมาเล่นในยุโรปกับกับ ปอร์โต้ เป็นเวลานาน 3 ปี ก่อนจะย้ายมายัง ลิเวอร์พูล

การเดินทางครั้งแรกของ หลุยซ์ ดิอาซ

ประสบการณ์ครั้งแรกในการเดินทางไปต่างประเทศของ ดิอาซ เกิดขึ้นเมื่อกลางปี ​​2015 เมื่อเจ้าตัวถูกเรียกตัวไปเป็นตัวแทนทีมชาติโคลอมเบียพื้นเมืองในฐานะสมาชิกคนหนึ่งของ Wayuu ซึ่งเป็นชุมชนพื้นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโคลอมเบีย และเขาคงไม่รู้สึกตื่นเต้นมากไปกว่านี้อีกแล้วในการได้ไปลุย Indigenous America Cup ซึ่งเป็นรายการในฟุตบอลรายการชนเผ่าพื้นเมืองของอเมริกาใต้

จอห์น โปซิลโล ดิอาซ อดีตนักเตะทีมชาติโคลอมเบีย ซึ่งคุมทีมชุดพื้นเมือง เริ่มกล่าวว่า “การแข่งขันจะจัดขึ้นที่ประเทศชิลี เราจึงใช้เวลาบิน 5 ชั่วโมงเพื่อไปที่นั่น และคุณสามารถเห็นดวงตาของเขาสว่างขึ้นด้วยประสบการณ์นั้น”

“หลุยส์ ดิอาซ จะถามเราว่า เขาสามารถทานอาหารแบบเดียวกันมากกว่าหนึ่งครั้งได้ไหม เขาเป็นคนที่ถ่อมตัวมากจริงๆ”

ความถ่อมตัวของ ดิอาซ ไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลย แม้ตอนนี้เขาจย้ายไปยังสโมสรใหญ่อย่าง ลิเวอร์พูลโดยเซ็นสัญญาเริ่มต้นที่มูลค่า 37.5 ล้านปอนด์ บวกออฟชั่นต่างๆ หลังจากใช้เวลาหก 6 ที่ดีที่สุดในอาชีพค้าแข้งของตัวเอง

อดีตปีก ปอร์โต้ ผ่านพ้นช่วงศึกโคปา อเมริกา เมื่อซัมเมอร์ที่แล้ว โดยระเบิดฟอร์มได้อย่างสุดยอดด้วยการทำประตูได้ในเกมกับทีมชาติบราซิล และอาร์เจนติน่า รวมถึงจบการแข่งขันด้วยตำแหน่งดาวซัลโวร่วมกับ ลิโอเนล เมสซี่ จอมทัพ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง

ในฤดูกาลนี้ ดิอาซ โชว์ผลงานให้กับ ปอร์โต้ ได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการซัดไปถึง 14 ประตู จาก 18 เกมลีก และยิง เอซี มิลาน ในรอบแบ่งกลุ่มศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ทั้งเหย้า และเยือน ซึ่งทำให้เขาได้รับความสนใจมากมาย

ดาวเตะวัย 25 ปี กลายเป็นจุดสนใจในวงการฟุตบอลโปรตุเกสอย่างรวดเร็ว และ ลิเวอร์พูล ไม่รอช้าที่จะคว้าตัวเขามาร่วมทีมทันทีเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่พลาด ดิอาซ ให้กับสโมสรอื่นอย่าง ท็อตแนม ฮอทสเปอร์, นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด และ เอฟเวอร์ตัน

ขระเดียวกัน ความท้าทายต่อไปของ ดิอาซ คือ การเดินตามรอยเท้าของเพื่อนร่วมชาติอย่าง ราดาเมล ฟัลเกา และ ฮาเมส โรดริเกซ อดีต 2 ซุเปอร์สตาร์ของ ปอร์โต้ ที่สร้างผลกระทบสำคัญในลีกชั้นนำของยุโรปได้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา

งานอดิเรกอย่างหนึ่งของ ดิอาซ ตอนเป็นเด็กคือ การดูรถไฟขนาดใหญ่วิ่งผ่านหมู่บ้านเล็กๆ ของเขาที่บาร์รังกัส วันละ 3 ครั้ง โดยบรรทุกถ่านหินจาก Cerrejon ซึ่งเป็นหนึ่งในเหมืองถ่านหินแบบเปิดโล่งที่ใหญ่ที่สุดในโลกเพื่อบรรจุลงเรือและส่งไปยังยุโรป

ขณะที่รถไฟแล่นผ่าน ดิอาซ มักจะนึกสงสัยว่า เขาจะมีโอกาสได้เห็นโลกมากกว่านี้อีกไหม โดยมีเด็กที่เกิดในภูมิภาค La Guajira น้อยมากจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งในพื้นที่ดังกล่าวถูกยังคงเป็นหนึ่งในจุดที่รัฐบาลโคลอมเบียละเลยมากที่สุด โดยมีเด็ก Wayuu 4,770 คนเสียชีวิตจากภาวะขาดโภชนาการ

โปซิลโล เล่าต่อว่า “ตอนนั้น ผมเห็นเขา และเราคิดว่า มันจะยากมากสำหรับเขาในการล่นฟุตบอล เพราะดูเหมือนเขาจะมีปัญหาการขาดสารอาหาร เขาผอมมาก และแพ้ในการดวลตัวต่อตัวกับผู้เล่นคนอื่นในสนาม”

“แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็สามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นจากผู้สมัคร 400 คน และเขาก็ก้าวมาอยู่ในทีม 26 คนสุดท้ายของเราได้ ตอนแรกเขาเล่นเป็นกองหน้า แต่มีปัญหาใหญ่อย่างหนึ่งในเกมของเขา เขาเคยวิ่งโดยก้มหน้าก้มตา ดังนั้น บางครั้งเขาไม่ได้สังเกตด้วยซ้ำว่าเขามาถึงจุดสิ้นสุดของสนามแล้ว เขาเร็วมาก และมีเทคนิคที่ดีมาก บอลจะติดเท้าของเขาเหมือนกาว”

แม้ทีมชาติโคลอมเบียพื้นเมืองจะพ่าย ปารากวัย 0-1 ในเกมนัดชิงชนะเลิศ แต่หลังจบทัวร์นาเม้นท์ดังกล่าว ดิอาซ ซัดไป 2 ประตู และชื่อของเขากลายเป็นที่ถูกพูดถึง ซึ่งหลายคนมองว่า เขามีอนาคตที่สดใสรออยู่ข้างหน้า

จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในชีวิต

เมื่อกลับมาจากชิลี คราวนี้ ดิอาซ ไม่ได้มุ่งหน้ากลับไปที่บาร์รังกัสอีกแล้ว แต่เขาเซ็นสัญญากับสโมสรระดับ 2 ของประเทศอย่าง บาแรนคิลล่า เอฟซี ซึ่งเป็นทีมในเครือของ จูเนียร์ เอฟซี เขาได้สร้างความประทับใจอย่างให้กับสตาฟฟ์โค้ช 

เฟอร์เนล ดิแอซ ผู้ประสานงานฟุตบอลเยาวชนของ บาแรนคิลล่า เล่าว่า“เมื่อเราพาเขาเข้าม หลุยส์ มีอายุ 18 ปีแล้ว แต่การแข่งขันเยาวชนที่นี่ในโคลอมเบียถูกแบ่งระหว่างกลุ่มอายุต่ำกว่า 20 และอายุต่ำกว่า 17 ปี”

“เขาไม่พร้อมที่จะเล่นกับทีมที่แก่กว่า และแก่เกินไปสำหรับทีมเด็ก ดังนั้น เราจึงต้องหาทางแก้ไข จากนั้นเราจึงตัดสินใจเปิดตัวทีมอายุต่ำกว่า 18 ปีเพื่อให้เวลาเขา และเด็กคนอื่นๆ ได้ลงเล่น อย่างไรก็ตาม เขาอยู่กับทีมได้ไม่นาน เมื่อถึงสิ้นปีนั้น เขาได้ลงเล่นให้กับทีมที่อายุต่ำกว่า 20 ปีของเราแล้ว”

เมื่อมาถึงจุดนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าความสามารถของ อดีตปีก ปอร์โต้ มากเพียงใด แต่เขายังต้องการการเสริมสร้างร่างกายของเขา ซึ่งทำให้ บาแรนคิลล่า เริ่มแผนงานที่เห็นว่าเขามีน้ำหนักเพิ่มขึ้น 10 กก. ผ่านการรับประทานอาหารที่รวมถึงการรับประทานพาสต้าในมื้อเช้าด้วย

ในปี 2017 ดิอาซ ได้ย้ายไปเล้นกับ จูเนียร์ รวมถึงพาทีมประสบความสำเร็จได้อย่ามากมาย ซึ่งตอนนั้นทำให้เขาได้รับความสนใจจาก เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก และ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ รวมถึงข้อเสนออื่นๆ อีกมากมาย แต่ ดิอาซ ก็เลือกย้ายไปยัง ปอร์โต้ ด้วยค่าตัว 5 ล้านปอนด์

เฟอร์เนล ดิแอซ กล่าวต่อว่า “เขาสามารถยิงจากระยะไกลได้ เขาเล่นฟุตบอลได้ 2 เท้า เขาเลี้ยงบอลได้ดี เขาเปิดแนวรับได้ เขายิงได้ เขาทำอะไรได้มากมาย แต่เชื่อหรือไม่ เขายังไม่ถึงจุดพีคด้วยซ้ำ”

จากเด็กที่มีปัญหาเรื่องสภาพร่างกายวันนี้ ดิอาซ ได้ย้ายมาเป็นผู้เล่นของ ลิเวอร์พูล แล้ว และดูเหมือนว่า เขาจะมีอนาคตที่สดใสรออยู่ในทัพ “หงส์แดง” อย่างแน่นอน

, , ,

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *