หลุยส์ ดิอาซ จิ๊กซอว์ผู้มาเติมเต็ม “หงส์”

ตลอดระยะเวลา 1 เดือนในเส้นทางอาชีพค้าแข้งของ หลุยส์ ดิอาซ ปีกทีมชาติโคลอมเบียกับ ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นั้น ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างน่าเหลือเชื่อหลังจากที่เขาคว้าแชมป์ร่วมกับพลพรรค “หงส์แดง” ได้ 1 รายการแล้ว และกลายเป็นส่วนสำคัญของทีมทันที 

ย้อนกลับไปในเกมนัดขิงชนะเลิศศึกฟุตบอลถ้วย ลีก คัพ เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่ง ลิเวอร์พูล เอาชนะ เชลซี ในกาลดวลจุดโทษนั้น เจมี่ คาร์ราเกอร์ อดีตกองหลังชาวอังกฤษของ “หงส์แดง” ซึ่งรับบทกูรูแสดงความคอดเห็นว่า ดิอาซ เป็นผู้เล่นที่โชว์ฟอร์มได้ดีที่สุดในสนาม

หลุยส์ ดิอาซ กับบทบาทที่ ลิเวอร์พูล

ในเกมนัดชิงดำกับ เชลซี นั้น ดิอาซ ได้รับมอบหมายจาก เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือชาวเยอรมันของ ลิเวอร์พูล ให้ลงเล่นในตำแหน่งตัวรุกฝั่งซ้าย โดยมี ซาดิโอ มาเน่ ยืนเป็นกองหน้าตัวกลาง และ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ยืนเป็นตัวรุกฝั่งขวา

ดิอาซ ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นด้วยการเลี้ยงบอลป่วนแนวรับ เชลซี พยายามสัมผัสบอลให้มากที่สุดในกรอบเขตโทษ แต่น่าเสียดายเป็นอย่างมากที่ อดีตดาวเตะ เอฟซี ปอร์โต้ ในลีกโปรตุเกสนั้น ไม่สามารถทำประตูได้

ขณะเดียวกัน ดูเหมือนว่า ดิอาซ จะยึดตำแหน่งตัวจริงทางริมเส้นฝั่งซ้ายของ ลิเวอร์พูล ได้เรียบร้อยแล้วในเวลานี้หลังจากบรรดาแนวรุกของ “หงส์แดง” อย่าง โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ หัวหอกแซมบ้า และ ดิโอโก้ โชต้า กองหน้าชาวโปรตุเกส ยังได้รับบาดเจ็บ

นอกจากนี้ การจ่ายบอลแบบไม่ต้องมองของ ดิอาซ นั้น ถือเป็นทีเด็ดอย่างมาก และแรงกระตุ้นในการโจมตีตลอดทั้งเกมของเขาได้สร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนบอลอีกด้วย ซึ่งแน่นอนว่า ปีกวัย 25 ปี ยังสามารถว์ฟอร์มได้ดีกว่านี้อีก

ในช่วงที่เล่นกับ ปอร์โต้ และในช่วงต้นอาชีพค้าแข้งของ ดิอาซ กับ ลิเวอร์พูล เขาได้แสดงให้เห็นว่า เป็นตัวอันตรายอย่างยิ่งสำหรับแนวรับฝ่ายตรงข้าม  ความสามารถของเขาในการยิงประตู การสร้างสรรค์เกม  การเลี้ยงลูกบอล รวมถึงการเล่นลูกกลางอากาศของเขายอดเยี่ยมมาก

เมื่อมองตัวเลขโดยเฉลี่ยของ ดิอาซ สมัยที่เล่นกับ ปอร์โต้ นั้น เขาจะยิงประตูได้ในทุกๆ 3 เกม และกับ ลิเวอร์พูล เขาซัดไปแล้ว 1 ลูกจากการลงสนาม 8 เกม ซึ่งอาจจะดูน้อยไป แต่หากมองถึงประโยชน์ และการมีส่วนร่วมกับทีมนั้น เขาทำได้เป็นอย่างดี

หลุยส์ ดิอาซ

ความสามารถที่หลากหลาย และส่วนผสมที่ลงตัวกับ ลิเวอร์พูล

สไตล์การเล่นของ ดิอาซ ยังทำให้ ลิเวอร์พูล มีทางเลือกมากขึ้นในเกมรุก และการเข้าทำก็จะแตกต่างไปจากเดิม นอกจากนี้ การฉีกตัวมาเล่นบริเวณริมเส้นของ ดาวเตะโคลอมเบีย ก็ทำให้เขาได้รับบอลเยอะมากในการสร้างสรรค์เกมให้ทีม

อย่างไรก็ตาม ดิอาซ อาจต้องพัฒนา และค่อยๆปรับตัวกับการเล่นเมื่อไม่มีลูกบอล เนื่องจากในทีมของ คล็อปป์ นั้น นักเตะทุกคนต้องช่วยกันเล่นตามแท็คติคเพรสซิ่ง และเมื่อได้บอลมาพวกเขาจะพยายามหาโอกาสโจมตีเร็วทันที

ดิอาซ เป็นนักเตะที่มีความเร็วจัดจ้านอย่างมาก ซึ่งสปีดของเขาได้สร้างปัญหาให้กับแนวรับคู่แข่งอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นในเกมลีก หรือในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และแน่นอนว่า เขาจะกลายเป็นอีกอาวุธเด็ดของ ลิเวอร์พูล

ในเวลานี้ ลิเวอร์พูล ของ คล็อปป์ กลายเป็นทีมที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในแง่ของการสร้างโอกาส ในสนาม เมื่อเปรียบเทียบกับฤดูกาลอื่นนับตั้งแต่เขาเข้ามาทำงานในถิ่น แอนฟิลด์ เมื่อปี 2015 และ “หงส์แดง” กลายเป็นทีมที่มีเกมรุกที่ดีที่สุดในพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้ด้วยการซัดไปถึง 71 ประตู จาก 27 เกม

การเข้ามาของ ดิอาซ ทำให้ ลิเวอร์พูล กลายเป็นทีมที่มีส่วนผสมลงตัวมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม เขาเป็นนักเตะที่สามารถเล่นเกมรุกได้หลากหลาย และบางที อดีตปีก ปอร์โต้ อาจทำให้พลพรรค “หงส์แดง” ประสบความสำเร็จมากกว่า 1 แชมป์ในซีซั่นนี้

 แม้จะได้ลงเล่นไปเพียง 8 เกม แต่ ดิอาซ ก็เริ่มแสดงให้ทุกคนได้เห็นแล้วว่า เขาน่าจะเป็นลงทุนที่คุ้มค่าของ ลิเวอร์พูล ซึ่งค่าตัวราว 40 ล้านปอนด์ ที่ “หงส์แดง” จ่ายให้กับ ปอร์โต้ เมื่อตลาดนักเตะเดือนมกราคมที่ผ่านมานั้น เริ่มได้รับการตอบแทนมาแล้ว

, , , , , , ,

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *