อัลลัน แซงต์-แม็กซิแม็ง ปีกชาวฝรั่งเศสของ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด สโมสรมหาเศรษฐีแห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เป็นนักเตะเพียงไม่กี่คนที่สร้างความตื่นตาตื่นใจในลีกสูงสุดเมืองผู้ดี และเขาก็เป็นคนที่พลพรรค “สาลิกาดง” แทบจะขาดไปไม่ได้
ความสามารถเฉพาะตัวของ มักซิแม็ง ทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นที่จะเลี้ยงบอลผ่านฝ่ายตรงข้ามไปได้อย่างง่ายดาย โดยสถิติของดาวเตะวัย 24 ปี จนถึง ณ ตอนนี้ก็คือ เขาสามารถเลี้ยงผ่านคู่แข่งไปได้ 101 ครั้งไปแล้ว
อัลลัน แซงต์-แม็กซิแม็ง สุดยอดผู้เล่นจอมเทคนิค
สถิติของ แม็กซิแม็ง นั้น ทำให้เขาเลี้ยงบอลผ่านคู่แข่งมากกว่าบรรดาปีกความเร็วจัดอย่าง อดาม่า ตราโอเร่ ของ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส ที่ทำไว้ 18 ครั้ง ก่อนย้ายไปเล่นกับ บาร์เซโลน่า เมื่อตลาดนักเตะเดือนมกราคมที่ผ่านมา และ ลูคัส มูร่า ของ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ที่ทำได้ 48 ครั้ง
ขณะเดียวกัน เอ็ดดี้ ฮาว กุนซือ นิวคาสเซิ่ล เปิดเผยว่า แม็กซิแม็ง เป็นนักเตะที่เลี้ยงบอลที่ดีที่สุดที่เขาเคยร่วมงานด้วย และจากฟอร์มปัจจุบันก็สามารถก้าวไปติดทีมชาติฝรั่งเศสชุดใหญ่ได้อย่างแน่นอน หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยเล่นให้แต่ทัพ “ตราไก่” ชุดเยาวชน
ฮาว ระบุว่า “ผมรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่เขาก้าวลงสนาม แม็กซิแม็ง ทำให้แฟนบอลมีความรู้สึกว่า คุณไม่มีทางรู้ว่าเขาจะทำอะไร เขาเป็นผู้ชนะ แต่ผมต้องการที่จะเห็นสิ่งนั้นอย่างสม่ำเสมอจากฟอร์มการเลน่ของเขา”
ชาร์ล็อตต์ โฮป หัวหน้ากลุ่มแฟนบอล นิวคาสเซิ่ล กล่าวว่า “การดูเขาเล่นถือเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่ง เขาเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่น่าตื่นเต้นที่สุดในพรีเมียร์ลีก และผมคิดว่าแม้แต่แฟน ๆ คู่แข่งบางคนก็ตั้งตารอที่จะได้เห็นสิ่งที่เขาสามารถทำได้ในสนาม”
มิดฟิลด์เฟรนช์แมน กำลังเข้าสู่ฤดูกาลที่ 3 ของตัวเองกับ นิวคาสเซิ่ล หลังย้ายจาก นีซ ในลีกเอิง มาเล่นในถิ่น เซนต์ เจมส์ ปาร์ค ด้วยค่าตัว 16.5 ล้านปอนด์ในช่วงฤดูร้อนปี 2019 และตอนนี้เขาก็เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าอย่างมากของพลพรรค “สาลิกาดง”
อย่างไรก็ตาม การเลี้ยงลูกบอลอย่างคล่องแคล่ว และความสามารถทางเทคนิคที่ไม่อาจปฏิเสธได้ในการพลิกเกมให้กับ นิวคาสเซิ่ล นั้น แต่ในทางสถิติของ แม็กซิแม็ง ระบุว่า เขาทำได้เพียง 3 ประตูกับอีก 4 แอสซิสต์ ตลอด 2 ฤดูกาลหลังสุดในพรีเมียร์ลีก
ขณะเดียวกัน ในปีที่ผ่านมา อดีตปีก นีซ ต้องพักยาวไปเกือบ 2 เดือนหลังจากป่วยด้วยโรคโคโรนาไวรัส ซึ่งำให้เขามีโอกาสลงเล่นให้ นิวคาสเซิ่ล ไปรวมทุกรายการเพียง 26 เกม แต่ในปีนี้ เขาเรียกฟอร์มเก่งกลับคืนมาหลังซัดไปแล้ว 5 ประตูกับอีก 3 แอสซิสต์
แม็กซิแม็ง ต้องใช้เวลาปรับตัวในการทำงานร่วมกับผู้จัดการทีมคนใหม่อย่าง ฮาว ที่เข้ามาแทน สตีฟ บรูซ แต่เขาก็พิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นแล้วว่า มีความสามารถมากเพียงใด ซึ่งในการทำงานกับ ฮาว นั้น เขาก็กลายเป็นคีย์แมนของทีมทันที
โฮป กล่าวเสริมว่า “บางครั้ง เขาไม่ผ่านบอลใมห้กับเพื่อนร่วมทีมอย่างรวดเร็ว ซึ่งทำให้แฟน ๆ ผิดหวังบ้าง และมีแฟน ๆ บางคนตะโกนด้วยความโมโห แต่ผมรับได้กับสไตล์การเล่นของเขา ถ้าเขายังคงทำผลงานได้ยอดเยี่ยมแบบนี้”
การตัดสินใจของ ฮาว ที่จะมอบหมายให้ แม็กซิแม็ง เป็นคีย์แมนในเกมรุกของ นิวคาสเซิ่ล ได้ผลอย่างชัดเจน โดยมีเพียง บรูโน่ แฟร์นันด์ส กองกลางชาวโปรตุเกสของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เท่านั้นที่สร้างโอกาสให้กับทีมได้มากกว่า
ฮาว กล่าวต่อว่า“ผมชอบเขามาก และการได้รู้จักเขามากขึ้นมันจะเป็นประโยชน์สำหรับผมมากๆเช่นกัน และการรู้ว่าจะใช้ประโยชน์จากเขาให้มากขึ้นได้อย่างไร ผมต้องการนำเกมการเล่นของเขาไปสู่อีกระดับหนึ่ง”
“บางครั้งมันก็เกี่ยวกับการนั่งลงกับนักเตะ และถามคำถามเกี่ยวกับการตัดสินใจในสนาม และช่วงเวลาที่คุณสามารถแยกตัวเองออกมาก และบางทีก็คิดว่า นั่นเป็นการตัดสินใจที่ดีกว่านี้ไหม เราทำแบบนั้นกับทุกคน”
“แต่เขามักจะต้องการอยู่ข้างนอกกรอบเขตโทษเสมอ และพยายามปรับปรุงการยิงประตู และการจ่ายบอลของเขา และพยายามทำสิ่งต่างๆ อยู่เสมอ ดังนั้น ผมจึงไม่สามารถชมเชยเขาได้มากไปกว่านี้แล้ว”
การสร้างทีมรอบตัว
ฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมมักจะนำไปสู่คำถามเกี่ยวกับอนาคตของ แม็กซิแม็ง กับ นิวคาสเซิ่ล โดย บรูซ เคยให้สัมภาษณ์ว่า “คุณไม่ต้องการขายผู้เล่นที่ดีที่สุดของคุณออกไป แต่ด้วยสโมสรที่เสี่ยงกับการตกชั้นเมื่อฤดูกาลที่แล้ว มันมีโอกาสเสมอที่สโมสรที่ใหญ่กว่าจะเข้าหาเขา”
อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ใช่กรณี นิวคาสเซิ่ล ภายใต้การเทคโอเวอร์ของเจ้าของสโมสรคนใหม่จากซาอุดิอาระเบีย โดยเวลานี้พลพรรค “สาลิกาดง” มีเงินมากพอที่จะซื้อนักเตะคนใดก็ได้บนโลกใบนี้ และ ฮาว ก็คิดว่า จะสร้างทีมโดยมี แม็กซิแม็ง เป็นแกนหลัก
ฮาว กล่าวว่า “ผมไม่มีความตั้งใจที่จะปล่อยตัว แม็กซิแม็ง ออกไปเลย และผมไม่เห็นสัญญาณจากผู้เล่นว่า หัวใจของเขาอยู่ที่อื่นนอกจาก นิวคาสเซิ่ล และเรากำลังพยายามยกระดับทีมให้พ้นจากความยากลำบากที่เราเผชิญอยู่”
“ผมเห็นผู้เล่นคนหนึ่งที่รักการเล่นที่ เซนต์ เจมส์ ปาร์ค ต่อหน้ากองเชียร์ เขาเป็นไอดอลของแฟนๆ และความสัมพันธ์นั้นเป็นกุญแจสำคัญสำหรับเขามากๆ เป้าหมายหลักของผมทุกวันคือ การพยายามหาจุดได้เปรียบเพื่อทำให้เกมของเขาดีขึ้น และผมคิดว่าถ้าเขาทำได้ เขาจะสนุกกับอาชีพการงานที่ยอดเยี่ยม หวังว่าเขาจะอยู่ที่นี่เป็นเวลาหลายปี”