เคลาดิโอ รานิเอรี่ ผู้จัดการทีมมากประสบการ์ชาวอิตาเลียนของ วัตฟอร์ด ทีมแห่งพรีเมยร์ลีก อังกฤษ และ วงการฟุตบอลต่างประเทศ ออกมาแสดงความคิดเห็นว่า พลพรรค “แตนอาละวาด” กำลังเข้าสู่ช่วงเวลาสำคัญในฤดูกาลนี้แล้วหลังจากมีแต้มเหนือโซนตกชั้นเพียง 3 คะแนนเท่านั้น
วัตฟอร์ด ภายใต้การคุมทีมของ รานิเอรี่ ที่เข้ามาทำงานแทน ซิสโก มูนอซ กุนซือชาวสเปนต้องดิ้นรนอย่างหนักในช่วงที่เหลือของซีซั่นนี้เพื่ออยู่นอดในพรีเมยีร์ลีก โดย 5 เกมหลังสุดในลีก “แตนอาละวาด” เพิ่งเก็บชัยชนะได้เพียงนัดเดียวเท่านั้น
เคลาดิโอ รานิเอรี่ กับช่วงเวลาสำคัญของ วัตฟอร์ด
อย่างไรก็ตาม วัตฟอร์ด ผ่านเกมสุดโหดที่ต้องเผชิญหน้ากับคู่แข่งอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้, เชลซี, เลสเตอร์ ซิตี้ , แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, อาร์เซน่อล, เซาแธมป์ตัน, เอฟเวอร์ตัน และ ลิเวอร์พูล ไปเรียบร้อยหมดแล้ว
ขณะเดียวกันในเดือนธันวาคมนี้ วัตฟอร์ด จะเจองานที่ไม่หนักมากโดนมีคิวจะพบกับ เบรนท์ฟอร์ด, เบิร์นลี่ย์, คริสตัล พาเลซ และ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ซึ่ง รานิเอรี่ ก็คิดว่า มันเป็นจังหวะที่ดีที่ลูกทีมของเขาต้องเก็บแต้มให้ได้มากที่สุดเพื่ออยู่รอดในฤดูกาลนี้
เทรนเนอร์จอมเก๋าวัย 70 ปี เริ่มกล่าวว่า “ผมเคยเห็นสถานการณ์เหล่านี้มาก่อน และรู้ว่าต้องทำอย่างไรจึงจะผ่านมันไปได้ ผมแก่แล้ว ผมมีประสบการณ์มากมาย ยกตัวอ่าง ตอนที่ผมคุม กายารี่ ในปี 1988 เราก้าวจาก เซเรีย ซี, เซเรีย บี และมาเล่นใน เซเรีย อา ได้สำเร็จ”
“ในช่วงต้นของฤดูกาลแรกใน เซเรีย อา เราอยู่อันดับสุดท้าย และทุกคน และนักข่าวต่างก็พูดว่า กายารี่ ต้องตกขั้นแน่นอน และไม่มีทางรอดไปได้ แต่ในท้ายที่สุด หนึ่งวันก่อนเกมสุดท้ายของฤดูกาล เราก็สามารถรอดตกชั้นได้สำเร็จ”
“และเมื่อผมมาทำงานที่ ปาร์ม่า ในปี 2007 ผมมารับงานกลางเดือนกุมภาพันธ์ และ ปาร์ม่า ก็อยู่ที่อันดับสุดท้ายของตางราง เซเรีย อา และผมก็ช่วยทีมให้รอดตกชั้นได้เช่นกัน และตอนี้ ผมต้องการต่อสู้เพื่อช่วยให้ วัตฟอร์ด รอดจากการตกชั้นในพรีเมียร์ลีก” อดีตนายใหญ่ กายารี่ และ ปาร์ม่า กล่าว
ความลับในการทำงานของ เคลาดิโอ รานิเอรี่
นอกจากประสบการณ์หนีตกชั้นกับ กายารี่ และ ปาร์ม่า แล้ว โดยย้อนกลับเมื่อฤกูกาล 2019 ที่ รานิเอรี่ ไปคุมทีม ซามพ์โดเรีย ซึ่งรั้งอันดับสุดท้ายของ เซเรีย อา นั้น เขาก็สามารถพาทีมกลับมาจบฤดูกาลด้วยอันดับกลางตารางได้อย่างยอดเยี่ยม
กุนซือเลือดมะกะโรนี กล่าวเสริมว่า “ความลับคือผมทำงานหนัก ผมคิดว่า ผมต้องการให้ผู้เล่นสนุกกับการเล่นฟุตบอล และทำงานหนักและต่อสู้จนกว่าจะสิ้นสุดทุกนัดของการแข่งขัน”
ทัศนคติดังกล่าวของ รานิเอรี่ แสดงให้เห็นในเกมที่ วัตฟอร์ด พ่ายแพ้ต่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การคุมทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เทรนเนอร์ชาวสเปน 3-1 เมื่อวันเสาร์ที่ 4 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งถึงแม้จะโดนยิงนำไป 3-0 แต่พลพรรค “แตนอาละวาด” ก็พยายามจนได้ประตูตีไข่แตกสำเร็จจากประตูจอง คูโช่ เอร์นานเดซ และจะยิงได้อีกหนึ่งประตูจาก โจชัว คิง
เอร์นานเดซ และ คิง ถือเป็นคีย์แมนในเกมรุกของ วัตฟอร์ด ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาหลังจาก อิสไมลา ซาร์ ปีกตัวเก่งมีปัญหาอาการบาดเจ็บ นอกจากนี้ เอ็มมานูเอล เดนนิส ตัวรุกชาวไนจีเรียที่เซ็นสํญญามาจาก คลับ บรูช ด้วยค่าตัว 3.4 ล้านปอนด์ เมื่อซัมเมอร์ทีผ่านมาก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นกัน
เดนนิส เป็นนักเตะที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง โดยช่วงที่ผ่านมากับ คลับ บรูช เขาเคยระเบิดฟอร์มสุดยอดด้วยการยิงประตูใส่ เรอัล มาดริด และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในฟุตบอลยุโรปมาแล้ว และในซีซั่นนี้ ดาวเตะวัย 24 ปี ก็ซัดประตูใส่ เชลซี กับ เลสเตอร์ ด้วยเช่นกัน
จากฟอร์มที่สุดยอดของ เดนนิส นั้น รานิเอรี่ ก็มั้นใจว่า ปีกชาวไนจีเรีย ซึ่งเคยตกเป็นข่าวกับ แมนฯ ยูไนเต็ด และ อาร์เซน่อล นั้น จะเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ วัตฟอร์ด พลิกสถานการณ์ในเดือนธันวาคมนี้ และพาทีมอยู่รอดได้สำเร็จ
รานิเอรี่ กล่าวว่า “ผมประทับใจผลงานของเขามาก เขารวดเร็วมาก เขายิงประตู และทำแอสซิสต์ให้เรามากมาย ผมหวังว่า เขาจะสามารถโชว์ฟอร์มแบบนี้ต่ไปได้อีกหลายๆเกม เขายังเด็ก แต่ก๋เล่นได้นิ่งเกินอายุมากๆ”
“ผมชอบผู้เล่นประเภทนี้ที่สามารถเล่นได้ทั้งปีก หรือตรงกลาง เขาเป็นนักเตะสมัยใหม่ ดังนั้น ผมสามารถเปลี่ยนตำแหน่งเขาได้ในบางเกม สำหรับผมมันดีมากที่มีนักเตะแบบนี้ในทีม ผมคิดว่าเขาสามารถเล่นให้กับทีมใหญ่ๆได้เลย”
“เขาต้องพัฒนาตัวเองต่อไป และผมคุยกับเขาเยอะมาก ผมแน่ใจว่าเมื่อสิ้นสุดฤดูกาลเขาจะได้ไปเล่นให้กับทีมใหญ่ๆ แต่เขาก็สามารถอยู่ที่ วัตฟอร์ด ต่อไปได้เช่นกัน”
มันเป็นเช่นเดียวกันกับทุกสโมสร การเก็บนักเตะมากพรสวรรค์ไว้เป็นเรื่องสำคัญ แต่มันก็ขึ้นอยู่กับว่าวัตฟอร์ด จะอยู่รอดในพรีเมียร์ลีกได้หรือไม่ และด้วยเคล็ดลับสู่ความสำเร็จของ รานิเอรี่ และคุณภาพของ เดนิส นั้น มันก็ดีพอที่จะทำให้ “แตนอาละวาด” อยู่รอดได้