เบ็น จอห์นสัน แบ็คขวาดาวรุ่งชาวอังกฤษของ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด สโมสรดังแห่งพรีเมียร์ลีก และ วงการฟุตบอลต่างประเทศ พูดถึงการเข้ามาเป็นสมาชิกในทีมชุดแรกของพลพรรค “ขุนค้อน” ภายใต้การคุมทีมของ เดวิด มอยส์ กุนซือชาวสก็อตแลนด์ในฤดูกาลนี้
จอห์นสัน เพิ่งโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมล่าสุดที่ เวสต์แฮม เปิดบ้านเอาชนะ ลิเวอร์พูล 3-2 เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งดาวรุ่งรายนี้เผชิญหน้ากับแนวรุกอย่าง ซาดิโอ มาเน่ และ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ได้อย่างแข็งแกร่ง
เบ็น จอห์นสัน ทุ่มเทอย่างหนัก
กองหลังวัย 21 ปี เริ่มกล่าวว่า “งานหนักทั้งหมดที่ผมทุ่มเทลงไป ผมไม่อยากเสียเปล่า จะมีประโยชน์อะไรที่จะทุ่มทั้งหมดนั้นในถ้าคุณได้รับโอกาสแล้วไม่คว้ามันไว้ ผมเป็นคนชอมยิ้มอยู่เสมอ และมันเป็นนิสัยของผมมานานแล้ว”
เส้นทางอาชีพของ จอห์นสัน กำลังไปได้สวยกับ เวสต์แฮม โดยฤดูกาลนี้เขาได้รับโอกาสจาก เดวิด มอยส์ ให้ลงสนามอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งก่อนหน้านี้เจ้าตัวมโอกาสลงสัมผัสเกมพรีเมียร์ลีกแค่ 9 เกมในชีวิต แต่ตอนนี้ ดาวรุ่งเลือดผู้ยึดตำแหน่งตัวหลักของทีมไปเรียบร้อยแล้ว
ในห้องแต่งตัวที่คึกคักของ เวสต์แฮม นั้น จอห์นสัน อาจเป็นหนึ่งในนักเตะอายุน้อยที่น่ารักที่สุด และความนิยมของเขาก็ปรากฏชัดเจนขึ้นเมื่อแฟนๆ “ขุนค้อน” นำวิดิโอ และรูปภสพของเขาไปเผยแพร่บนโซเชียลมีเดีย
จอห์นสัน เล่าต่อว่า “ความคิดของผมคือ ผมทำงานเพื่อสิ่งนี้ตั้งแต่อายุ 7 ขวบ งานหนักทั้งหมดที่ผมทำลงไป ผมไม่อยากเสียเปล่า จะมีประโยชน์อะไรหากได้รับโอกาสแล้วไม่รับไว้ คุณจะไม่รู้สึกดี ผมต้องการแสดงให้ผู้จัดการทีมเห็นว่า ผมทำอะไรได้บ้าง ศักยภาพที่ผมสามารถทำได้”
“โฟกัสของผมคือแรงผลักดันหลักของผม ผมคิดว่า ผมไม่รู้อะไรอีกมาก ผมมีผลการเรียนที่ดีที่โรงเรียน แต่ผมไม่เห็นว่าตัวเองจะเข้ามหาวิทยาลัย หรือทําอย่างอื่นได้นอกจากเล่นฟุตบอล”
“แม้แม่หรือพี่ชายจะถามผมว่า จะทำอะไรต่อไป ผมก็บอกไปหมดแล้ว มันเป็นอะไรที่สั่งสมมานานในตัวผมตั้งแต่เนิ่นๆ ผมต้องทำงานหนักเพื่อมัน และยังคงทำอยู่ แต่มันก็เป็นสิ่งที่ผมทำมาตลอด ผมอยากขอบคุณพระเจ้าที่ผมมาถึงจุดนี้ได้สำเร็จ”
เข้าอคาเดมี่ของ เวสต์แฮม และการเข้าสู่ทีมชุดใหญ่
จอห์นสัน เข้ามาเล่นในทีมเยาวชนของ เวสต์แฮม ตั้งแต่ปี 2009 และเคยได้เล่นในทีมชุดเล็ก “ขุนค้อน” ร่วมกับ เดแคลน ไรซ์ มิดฟิลด์ทีชาติอังกฤษชุดในอันดับ 2 ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร 2020 ที่ผ่านมาอีกด้วย
ขณะเดียวกัน มาร์ค โนเบิล กองกลางจอมเก๋า เวสต์แฮม ก็เป็นคนสำคัญที่ช่วยให้ จอห์นสัน ได้ปรับตัวหลังเข้ามาสู่ทีมชุดใหญ่ และ จอห์นสัน ก็ยกย่อง มิดฟิลด์วัย 34 ปีว่า เป็นเหมือนพ่อของเขาอีกคนหนึ่งเลยก็ว่าได้
“เมื่อผมมีโอกาส ผมต้องการทำให้ มาร์ค โนเบิล ได้เห็นว่า ผมทำได้ดี เขาเป็นเหมือนพ่อที่ภาคภูมิใจในตัวผม ตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น และเมื่อผมเข้ามาในทีมครั้งแรก ผมรู้สึกเหมือนเด็กอยู่เลย และผมเป็นเด็กจริงๆเมื่อผมมาซ้อมครั้งแรกตอนอายุ 17 ปี
“มาร์ค เห็นนักเตะมากมาย และอยู่ในทีมมาตลอด เขาช่วยผมได้มาก เขาไปอยู่กับครอบครัวของผมเมื่อพวกเขามาที่ชมเกมด้วย และผมมั่นใจว่าเขาทำได้กับทุกๆ คนด้วย เขาเป็นคนดี นั่นคือสิ่งที่ติดอยู่กับผม และการได้เขาเป็นกัปตันทีมนั้น มันสุดยอดมาก และการได้เห็นว่า เขาลงเล่นไปกี่เกม และเขาทำเพื่อสโมสรได้มากแค่ไหน เป็นสิ่งที่ผมอยากจะทำมาตลอด”
ในช่วงที่ผ่านมา เวสต์แฮม มีปัญหามากมาก่อนที่ มอยส์ จะเข้ามาคุมทีม และโค้ชเลือดวิสกี้ก็ค่อยๆสร้างบรรยากาศในทีม รวมถึงฟอร์มในสนามทำให้พลพรรค “ขุนค้อน” กลับมาเล่นได้อย่างยอดเยี่ยม และมีผลงานที่ดีอีกครั้ง
จอห์นสัน กล่าวถึง มอยส์ ว่า “วันที่เขาเข้ามา เรากำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่ และมันก็เหมือนกับว่า ถ้าคุณไม่ทำในสิ่งที่ผมต้องการให้คุณทำ คุณจะไม่ได้ลงเล่น และไม่มีนักฟุตบอลคนไหนต้องการแบบนั้นแน่นอน และนับตั้งแต่วันที่เขามาถึง เขาปลูกฝังความคิดที่เป็นบวกให้เรานั้น เขาเป็นคนที่ตรงไปตรงมาก และเขาก็ซื่อสัตย์ต่อทุกคน”
“เราเป็นทีมที่ทุกคนเข้าได้ดีไม่ว่าเชื้อชาติ หรือภาษาใด เรามีผู้เล่นที่ดีมาก นักเตะทุกคนในสนามฝึกซ้อมก็เห็นอย่างนั้น เขาเป็นโค้ชที่อยู่ในพรีเมียร์ลีกมานานแล้ว เขาสร้างบรรยากาศในห้องแต่งตัวให้มีแรงจูงใจ และแรงกระตุ้นให้สูงขึ้น เมื่อคุณดูทีมอื่น และทีมของเรา เรามั่นใจที่จะออกไปเล่น และชนะในทุกเกม”
คำสัมภาษณ์ของ จอห์นสัน มันเป็นแบบนั้นจริงๆ ซึ่งเห็นได้จาเกมล่าสุดที่ เวสต์แฮม รวมพลังกันเอาชนะ ลิเวอร์พูล ได้สำเร็จ และตอนนี้พลพรรค “ขุนค้อน” ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เป็นทีมที่ไม่ควรถูกมองข้าม