มุมมองของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า

“ยอดเยี่ยม” คือคำที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยอดกุนซือชาวสเปนของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรดังแห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ใช้เพื่ออธิบายทีมของเขาหลังจากที่พลพรรค “เรือใบสีฟ้า” รั้งจ่าฝูงของตารางคะแนนในเวลานี้ และเก็บชัยชนะได้ 16 จาก 18 เกมหลังสุดในลีก

ขณะเดียวดัน ตลอด 1-2 ปีที่ผ่านมาในลีกสูงสุดแดนผู้ดีนั้น อิทธิพลของฟุตบอลเยอรมันแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วในหลายๆสโมสรหลังจากที่บรรดาทีมในพรีเมียร์ลีกเลือกใช้โค้ชที่เน้นสไตล์เกมเพรสซิ่ง และโจมตีแบบฉับพลัน

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กับมุมมองในสไตล์ฟุตบอลเยอรมัน

นายใหญ่ แมนฯ ซิตี้ เริ่มอธิบายว่า “เมื่อ เจสซี่ มาร์ช มาคุม ลีดส์ ยูไนเต็ด มันมีแนวโน้มเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว พวกคุณก็รู้ดี เขาชื่นชอบสไตล์ฟุตบอลเยอรมัน และตอนนี้ในพรีเมียร์ลีกมีถึง 5 ทีมที่เล่นในสไตล์ดังกล่าว”

5 สโมสรที่ กวาร์ดิโอล่า กล่าวถึงล้วนได้รับอิทธิพลมาจาก ราล์ฟ รังนิก ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งได้รับการยกย่องว่า เป็นอาจารย์ในการเล่นเพรสซิ่ง โดยทีมอย่าง ลิเวอร์พูล, เชลซี, เซาแธมป์ตัน และ ลีดส์ ล้วนแต่ได้รับอิทธิพลมาจาก รังนิก ทั้งสิ้น

เจอร์เก้น คล็อปป์ ของ ลิเวอร์พูล, โธมัส ทูเคิ่ล ของ เชลซี, มาร์ช ของ ลีดส์ และ ราล์ฟ ฮาเซนฮุทเทิ่ล มี รังนิก เป็นต้นแบบในการทำทีม ซึ่งไม่น่าแปลกใจเลยที่สโมสรเหล่านี้จะเล่นฟุตบอลในสไตล์ที่ใกล้เคียงกันอย่างมาก และแตกต่างแค่รายละเอียดเล็กน้อยเท่านั้น

กวาร์ดิโอล่า กล่าวต่อว่า “ทั้ง 5 ทีม มีผู้จัดการทีมคนละคน แต่พวกเขาก็เล่นใกล้เคียงกันมากๆ นี้ อาทิ การเพรสซิ่งสูงที่ทุกคนในทีมต้องร่วมมือกัน มันไม่สำคัญหรอกว่า จะเสียบอลหรือไม่ เพราะพวกเขาจะเอาบอลคืนมาโดยเร็วที่สุด และโจมตีคุณอีกครั้ง มันเป็นวิธีการที่ดีอย่างไม่น่าเชื่อ และมันส่งผลกระทบเชิงบวกในอังกฤษมากๆ”

“ผมคิดว่า สไตล์การเล่นแบบนี้มันน่าดึงดูดมากเมื่อพวกเขาทำผลงานได้ดี มันน่าตื่นเต้นสำหรับผู้ชมและพวกเขาก็ประสบความสำเร็จ” ขณะเดียวกัน การทำงาน 3 ปี ในเยอรมันกับ บาเยิร์น มิวนิค นั้น ปฏิเสธได้เลยว่า กวาร์ดิโอล่า ก็ได้รับอิทธิพลมาเช่นกัน โดยระบุว่า “แน่นอน ผมเรียนรู้มากมายในเยอรมัน ผมปรับตัวได้ดี และทำงานได้ดีกับ บาเยิร์น”

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า

หลักการ และแนวทางการทำงานของตัวเอง

อย่างไรก็ตาม แม้สไตล์การเล่นของฟุตบอลจะน่าตื่นเต้น และมีเสน่ห์ดึงดูดใจแค่ไหน แต่สำหรับ กวาร์ดิโอล่า นั้น หลักการทำงานของเขาจะไม่เปลี่ยนแปลง และมันก็จะเป็นแนวทางนี้ตลอด

โค้ชชาวสเปน กล่าวต่อว่า “ฟังนะ ผมมาจากกาตาลุญญ่า การศึกษาฟุตบอลของผมมาจากที่นั่น และผมเรียนรู้มากมายที่นั่น ผมเรียนรู้มากมายในเยอรมัน แต่หลักการของผมมาจากที่สเปน แต่ถ้าผมเกิดในเยอรมันพร้อมกับเห็นแนวทางของ ราล์ฟ รังนิก และ เจอร์เก้น คล็อปป์ บางทีผมอาจจะชอบแบบนั้น.

“แต่ผมรู้สึกถึงฟุตบอลอย่างที่ผมรู้สึก และผมไม่สามารถเปลี่ยนแปลงคนอื่นๆได้เลย เพราะพวกเขาเคยประสบความสำเร็จกับแนวทางของตัวเอง และทุกคนต้องทำสิ่งที่พวกเขาต้องการ”

ในระหว่างเดือนกันยายนถึงธันวาคมปีที่ผ่านมา แมนฯ ซิตี้ ของ กวาร์ดิโอล่า ไม่พบกับความพ่ายแพ้ในลีกเลย และพวกเขาไม่เสียโอกาสแม้แต่ครั้งเดียวจากเกมโต้กลับของฝ่ายตรงข้าม ซึ่งเห็นได้ว่า สไตล์ของอดีตโค้ช บาเยิร์น ก็ได้ผลเช่นเดียวกัน

นั่นคือคุณลักษณะที่ชัดเจนของ แมนฯ ซิตี้ ซึ่งเห็นได้ชัดถึงความแตกต่างระหว่าง 2 ทีมในกลุ่มนนำด้วยกันอย่าง ลิเวอร์พูล และ เชลซี ซึ่งพลพรรค “เรือใบสีฟ้า” เน้นเรื่องรายละเอียดในการเข้าทำ และการครองครองบอลในแดนคู่แข่งเพื่อปิดโอกาสการโต้กลับไวของคู่ต่อสู้

กวาร์ดิโอล่า กล่าวว่า “ผมเข้าใจมากขึ้นว่าผู้เล่นสามารถทำผิดพลาดได้ ก่อนหน้านี้ผมกังวล โกรธมากๆ แต่บางครั้งผมก็เข้าใจ เพราะผมรู้ว่าพวกเขาทุกคนต้องการทำผลงานได้ดี ผมรู้ว่าพวกเขาต้องการเอาชนะ ผมรู้ว่าพวกเขาต้องการคว้าแชมป์”

“บางครั้งมันเป็นไปไม่ได้ แต่ความกังวลของผมจะไม่เปลี่ยนวิธีการเล่นของลูกทีม คุณรู้ไหม หลังจากทุกการกระทำผิดพลาด ผมก็กังวล และโกรธ แต่หลังจากนั้นมัน็หายไป ผมแก้ไขความิดพลาดนี้ไม่ได้ แล้วทำไม ผมต้องวิจารณ์ว่า พวกเขาผิดพลาดตรงไหน”

กวาร์ดิโอล่า เชื่อมั่นในตัวผู้เล่นของเขาเสมอ และถึงแม้วงการฟุตบอลจะพัฒนาไปเพียงใด แต่สำหรับเขาปรัชญาจาก บาร์เซโลน่า อดีตต้นสังกัดเก่ายังคงใช้ได้เสมอ โดยระบุว่า “นักเตะตอนนี้ก็เหมือนกับเมื่อ 50 หรือ 60 ปีที่แล้ว”

“บางทีพวกเขาอาจจะแข็งแกร่งขึ้น เพราะว่าพวกเขาซ้อมได้ดีขึ้น แต่คนที่ควบคุมบอลได้ดี ก็จะได้เปรียบคนอื่นเสมอ”

, , , , , , , , , , ,

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *