แพ็ตสัน ดาก้า อาวุธใหม่ “สุนัขจิ้งจอก”

เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก สโมสรดังแห่งออสเตรีย มีนักเตะเก่าที่น่าประทับใจมากมาย ซึ่งสร้างผลงานอย่างโดดเด่นใน วงการฟุตบอลต่างประเทศ อาทิ เออร์ลิง ฮาแลนด์ กองหน้า โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์, ซาดิโอ มาเน่ และ นาบี เกอิต้า 2 แข้ง ลิเวอร์พูล และล่าสุด แพ็ตสัน ดาก้า ดาวยิงแซมเบียที่เพิ่งย้ายไปเล่นกับ เลสเตอร์ ซิตี้ ในซัมเมอร์นี้

ดาก้า ย้ายจาก ซัลซ์บวร์ก ไปล่าตาข่ายให้กับ เลสเตอร์ ด้วยค่าตัวประมาณ 22 ล้านปอนด์ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เขาเล่นในออสเตรียมานาน 4 ปี และการย้ายมายังเมืองผู้ดีครั้งนี้ ถือเป็นก้าวย่างครั้งสำคัญของหัวหอกวัย 22 ปีอย่างมาก  

ตลอด 4 ฤดูดาลกับ ซัลซ์บวร์ก นั้น ดาก้า ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจด้วยการระเบิดสกอร์ไปถึง 68 ประตู จาก 125 เกมรวมทุกรายการ ซึ่งเจ้าตัวได้รับการคาดหมายว่า จะเข้ามาแบ่งเบาภาระของ เจมี่ วาร์ดี้ ดาวยิงจอมเก๋าชาวอังกฤษของ เลสเตอร์ ที่เข้าสู่วัย 34 ปีแล้ว

 แพ็ตสัน ดาก้า

จุดเริ่มต้นของ แพ็ตสัน ดาก้า

คริส คาอุนด้า ผู้ค้นพบ และเป็นโค้ชคนแรกของ ดาก้า แสดงความคิดเห็นว่า ลูกศิษย์ของเขาจะไปได้ดีกับ เลสเตอร์ อย่างแน่นอน โดยระบุว่า “ผมเป็นผู้อำนวยการโครงการ Airtel Rising Stars เราจะหาเด็กที่มีความสามารถทั่วประเทศแซมเบีย”

“เราไปเยือนทั้ง 10 จังหวัดของแซมเบียในปี 2012 และได้ดูเด็กเป็นจำนวนมาก และในที่สุดเราก็เลือกนักฟุตบอลเยาวชนจำนวน 60 คน ซึ่ง แพตสัน ดาก้า คือ ผู้เล่นที่โดดเด่นที่สุด ผมสังเกตได้ทันทีว่าเขาคือคนพิเศษ แพตสัน นั้นเร็ว ทรงพลัง เล่นลูกกลางอากาศได้ดี และสามารถยิงประตูด้วยเท้าทั้ง 2 ได้ แม้ว่า เท้าขวาของเขาจะแข็งแกร่งกว่าซ้ายอย่างเห็นได้ชัดก็ตาม เขาเป็นกองหน้าที่อันตรายมากๆ”

“สิ่งที่ทำให้ แพตสัน พิเศษคือ เขาเป็นคนที่เรียนรู้ได้รวดเร็ว เพราะเขาเป็นผู้ฟังที่ดี เขาต้องการปรับปรุงตัวเองอยู่ตลอดเวลา และจดจำคำแนะนำทั้งหมดที่โค้ชมอบให้เขา เขาเป็นคนเงียบๆ สุภาพ และเรียบร้อยมากๆ”

 “พ่อของเขาเสียชีวิตเมื่อเขายังเด็ก แพตสัน เป็นคนมีเสน่ห์ เขามีความเป็นผู้นำ และรู้วิธีจัดระเบียบสิ่งต่างๆ นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมผมถึงเลือกเขาเป็นกัปตันทีมชาติชุดอายุต่ำกว่า 17 ปี”

 แพ็ตสัน ดาก้า

นักเตะสำหรับบิ๊กทีมในอนาคต

แซมเบีย ผ่านเข้ารอบไปแข่งขันในรายการ African Under-17 Championships เมื่อปี 2015 ได้สำเร็จเป็นครั้งแรกของประเทศ ซึ่งพวกเขาต้องขอบคุณ ดาก้า ที่ระเบิดฟอร์มสุดยอดด้วยการทำประตูได้ 5 ลูก จาก 4 เกมในรอบคัดเลือก 

          ในทัวร์นาเมนท์ดังกล่าว ดาก้า ทำได้ 2 ประตู และโชว์ฟอร์มส่วนตัวได้น่าประทับใจอย่างมาก และถึงแม้แซมเบียจะต้องตกรอบแบ่งกลุ่ม แต่เขาก็กลายเป็นดาวรุ่งเนื้อหอมจนกระทั่ง พาวเวอร์ ไดนามอส สโมสรที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของแซมเบียคว้าตัวไปร่วมทีม ขณะที่ ซัลซ์บวร์ก ก็ส่งแมวมองมาติดตามเช่นกัน

          คาอุนด้า เล่าต่อว่า “แพ็ตสัน ยิงประตูได้จากทุกพื้นที่บนสนาม เราเคยไปเล่นทัวร์นาเมนต์ที่อิตาลี เขายิง บราซิล 2 ประตู ยิง ญี่ปุ่น 2 ประตู และทำแฮตทริกในเกมกับสหรัฐอเมริกาเราคว้าแชมป์ร่วมกับเขาได้หลายครั้งแล้ว และเขาก็เกลียดการพ่ายแพ้”

“มีครั้งหนึ่งเมื่อเราแพ้ในการดวลจุดโทษ เขาก็เริ่มร้องไห้ออกมา สปิริตการต่อสู้ของเขายอดเยี่ยมมากผมคาดหวังให้เขากลายเป็นสตาร์ดัง และ เลสเตอร์ ซิตี้ ก็แค่เป็นอีกก้าวหนึ่งของเขา จำคำพูดของผมไว้นะ สโมสรที่ใหญ่กว่า จะต้องเซ็นสัญญากับเขาในอนาคต”

ดาก้า

มุ่งมั่นพัฒนาตัวเอง

ดาก้า เซ็นสัญญากับ ซัลซ์บวร์ก ด้วยวัยเพียง 17 ปี โดยในตอนแรกเขาถูกส่งไปเล่นให้กับทีมสำรองของอย่าง ลีเฟอริง ในดิวิชั่น 2 ออสเตรีย

เกอร์ฮาร์ด สตรูเบอร์ อดีตผู้จัดการทีม ลีเฟอริง ซึ่งเคยทำงานกับ ดาก้า และปัจจุบันกำลังคุมทัพ นิวยอร์ก เร้ด บูลล์ส กล่าวถึงศิษย์เก่าว่า “ตั้งแต่วินาทีแรกผมเห็นได้ชัดเลยว่า แพ็ตสัน มีพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยม แต่เขาก็มีทัศนคติที่เหลือเชื่อเช่นกัน”

“เขาต้องการเรียนรู้สไตล์การเล่นของเราด้วยการเพรสซิ่งสูง และการโต้กลับที่รวดเร็ว รวมถึงทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเมื่อไม่มีบอล เมื่อทีมอื่นครองบอล เขาต้องต่อสู้เหมือนกองหลัง ความปรารถนาที่จะประสบความสำเร็จ และปรับปรุงตัวเองของเขานั้นยอดเยี่ยมมาก”

“ซัลซ์บวร์ก พัฒนาผู้เล่นในลักษณะพิเศษ และดูแลนักฟุตบอลชั้นนำมากมาย ซาดิโอ มาเน่ เป็นหนึ่งในนั้น และคาแร็คเตอร์ รวมถึงทัศนคติของ ดาก้า ก็คล้ายกับ มาเน่ มากๆ เขาเป็นคนถ่อมตั วและทำงานให้กับทีมเสมอ แพ็ตสัน ไม่มีอีโก้เลย”

“แม้หลังจากการโชว์ฟอร์มที่ยอดเยี่ยมหลายครั้ง เขาไม่เคยคิดว่าเขาคือคนพิเศษ เขาจัดการความสำเร็จได้อย่างยอดเยี่ยม เขาเป็นแบบอย่างสำหรับผู้เล่นคนอื่นๆ”

เลสเตอร์

รอยต่อสู่ความสำเร็จของ แพ็ตสัน ดาก้า

หลังจากทำผลงานในการไปเล่นด้วยสัญญายืมตัวกับ ลีเฟอริง ได้อย่างยอดเยี่ยม ดาก้า ก็ถูกดันมาเล่นกับทีมชุดใหญ่ของ ซัลซ์บวร์ก ในเวลาต่อมา ซึ่งหลังจาก ฮาแลนด์ ย้ายไปเล่นกับ ดอร์ทมุนด์ เมื่อเดือนมกราคมปี 2020 หัวหอกแซมเบียก็กลายเป็นคีย์แมนในเกมรุกของทีมต่อทันที

ในฤดูกาลที่ผ่านมา ดาก้า ซัดไปถึง 27 ประตูจาก 28 นัด ในลีกพร้อมกับพา ซัลซ์บวร์ก คว้าแชมป์สมัยที่ 4 ติดต่อกัน และได้รับเลือกให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมของออสเตรียนบุนเดสลีกาอีกด้วย

สตรูเบอร์ กล่าวต่อว่า “เขารู้วิธีหาจุดที่ถูกต้อง และวิ่งไปที่นั่นเร็วกว่ากองหลัง จากนั้นเมื่อเขาได้บอลเขาก็อยู่ตำแหน่งที่ดีเพื่อทำประตูแล้ว เขาว่องไว ฉลาด และมีสัญชาตญาณนักฆ่า นั่นคือ เป็นส่วนผสมที่ลงตัวมากๆ”

“แพ็ตสัน อันตรายในจังหวะโต้กลับเร็ว แต่ตอนนี้เขาก็สนุกกับการครองบอลเช่นกัน สัมผัสแรกของเขาดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และเขาก็พยายามยิงด้วยเท้าซ้ายด้วย การเคลื่อนไหวของเขาโดดเด่น และพัฒนาอยู่เสมอ เขาน่าจะเก่งกว่านี้ในอนาคต”

“เขาจะทุ่มเทอย่างเต็มที่ให้กับ เลสเตอร์ ทีมใหม่ของเขา แต่เขามีความสามารถในการไปสโมสรชั้นนำในยุโรปได้ เขากระหายถ้วยรางวัล เขาสามารถติดตามเส้นทางของ มาเน่ ไปสู่การเป็นซุปเปอร์สตาร์ได้อย่างแน่นอน”

, , , , , ,

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *