ความคาดหวังของ “ปีศาจแดง”

หลังจากที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมดังแห่ง พรีเมียร์ลีก และ วงการฟุตบอลต่างประเทศ จัดการคว้าตัว จาดอน ซานโช่ ปีกชาวอังกฤษ, ราฟาเอล วาราน กองหลังทีมชาติฝรั่งเศส และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ตัวรุกชาวโปรตุเกส เข้ามาเสริมทัพเมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมานั้น ความคาดหวังในฤดูกาลนี้ของพวกเขาก็เพิ่มขึ้นทันที

โอเล่ กุนาร์ โซลชา กุนซือชาวนอร์เวย์ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้รับการสนนับสนุนจากตระกูล เกลเซอร์ เข้าจองสโมสรอย่างเต็มที่ และปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ถ้วยใหญ่อย่างพรีเมียร์ลีก หรือ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นเป้าหมายหลักของ “ปีศาจแดง” ในปีนี้

แมนฯ ยูไนเต็ด เริ่มต้นซีซั่นใหม่ด้วยความคาดหวังหลังจากถ้วยรางวัลล่าสุดที่พวกเขาคว้าได้สำเร็จก็คือ ยูโรป้า ลีก เมื่อปี 2017 ในยุค โชเซ่ มูรินโญ่ อดีตโค้ชชาวโปรตุเกส ซึ่งมันเป็นความกดดันอย่างมากสำหรับ โซลชา

ขณะเดียวกัน การเสริมทัพของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในปีนี้ถือว่า ทำได้ยอดเยี่ยมกว่าหลายๆปีที่ผ่านมา ซานโช่ เป็นอนาคตของทีมชาติอังกฤษ และเป็นดาวรุ่งที่โดดเด่นที่สุดในวงการฟุตบอลยุโรป ขณะที่ วาราน เป็นแชมป์โลกในปี 2018 กับฝรั่งเศสมาแล้ว และประสบความสำเร็จมากมายกับ เรอัล มาดริด ส่วน โรนัลโด้ แม้จะอายุ 36 ปีแล้ว แต่ก็ยังเป็นนักเตะที่ดีที่สุดในโลก

ถึงเวลาที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมดังแห่ง พรีเมียร์ลีก ต้องนำความสำเร็จกลับมา  

แมนฯ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ลีกล่าสุดเมื่อ 8 ปีที่แล้ว โดย เจมี่ คาร์ราเกอร์ อดีตกองหลัง ลิเวอร์พูล ซึ่งทำหน้าที่เป็นกูรูให้กับ “สกายสปอร์ต” ระบุว่า “พวกคุณลืมอายุของ โรนัลโด้ ไปได้เลย เรากำลังพูดถึงคนที่ทำประตูสูงสุดในเซเรีย อา เมื่อฤดูกาลที่แล้ว นั่นคือสิ่งที่ แมนฯ ยูไนเต็ด กำลังเซ็นสัญญาเข้ามา”

 “ดังนั้น โรนัลโด้ จะสร้างความแตกต่างให้กับพวกเขาได้มาก นอกจากนี้ พวกเขาได้เสริมผู้เล่นคนอื่นๆ อย่าง ซานโช่ และ วาราน ด้วย ผมคิดว่า มันถึงเวลาที่ แมนฯ ยูไนเต็ด กำลังต่อสู้เพื่อนำแชมป์พรีเมียร์ลีกกลับมาที่นำ โอลด์ แทรฟฟอร์ด อีกครั้ง”

มันชัดเจนว่า ถึงเวลาแล้วที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกให้ได้ ซึ่งคำถามคือ โซลชา จะสามานรถใข้งาน ซานโช่, วาราน และ โรนัลโด้ ได้ดีเพียงใด และหากคว้าแชมป์ลีกไม่สำเร็จนั้น ถ้วยอื่นๆอย่าง เอฟเอ คัพ และ ลีก คัพ มันเพียงพอต่อความต้องการของสโมสรอย่าง “ปีศาจแดง” หรือไม่

แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก

พอล เมอร์สัน อดีตกองกลาง อาร์เซน่อล และ แอสตัน วิลล่า แสดงความคิดเห็นว่า แชมป์พรีเมียร์ลีก เป็นความสำเร็จรายการสำคัญที่สุดของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในปีนี้ ส่วนถ้วยอื่นๆนั้น เป็นความสำคัญที่รองลงมา

เมอร์สัน กล่าวว่า “แมนฯ ยูไนเต็ด จะคว้าแชมป์ลีกได้หรือไม่นั่นคือ สิ่งที่น่าติดตามอย่างมาก ผมคิดว่า ไม่มีเหตุผลที่ โรนัลโด้ กลับมาที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด และคว้ารางวัลรองเท้าทองคำเพียงอย่างเดียว มันเป็นเรื่องของการคว้าแชมป์ลีกที่ทำให้เขากลับมาอีกครั้ง”

“โซลชา กำลังเป็นผู้จัดการสโมสรที่ใหญ่ที่สุดในโลกฟุตบอล และความกดดันมันมีอยู่ตลอดเวลา พวกเขาต้องคว้าแชมป์ลีกเท่านั้น และการนำ โรนัลโด้ ซึ่งเป็นหนึ่งในนักเตะดีที่สุดในโลกเข้ามา มันเป็นสิ่งที่การันตีว่า พวกเขาจะต้องคว้าแชมป์ลีก และได้โปรดอย่าบอกนะว่า โรนัลโด้ ถูกนำเข้ามาเพื่อขายเสื้อเพียงอย่างเดียว”

“หากถามผมว่า ใครจะทำให้ทีมคว้าแชมป์ลีกได้ระหว่าง แฮร์รี่ เคน หรือ โรนัลโด้ สำหรับผมคิดว่า เคน ผมต้องการผ็เล่นที่จะพาทีมคว้าแชมป์ได้ และ เคน ทำได้ แต่ผมไม่แน่ใตว่า โรนัลโด้ ณ ปัจจุบัน จะทำได้หรือไม่”

ความกดดันของ โซลชา กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมดังแห่ง พรีเมียร์ลีก

โรนัลโด้, วาราน และ ซานโช่ เป็นนักเตะระดับคุณภาพด้วยกันทั้งสิ้น และปัญหาทั้งหมดจะตกมาอยู่ที่ โซลชา ว่า จะจัดทีมอย่างไร และโค้ชชาวนอร์เวย์ต้องเจอความกดดันมหาศาลหลังจากยังไม่สามารถพา แมนฯ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ได้เลยนับตั้งแต่เข้ามาคุมทีมเมื่อปี 2018

แฮร์รี่ เร็ดแนปป์ อดีตมิดฟิลด์ ลิเวอร์พูล แสดงความคิดเห็นว่า “มันน่าสนใจว่า โอเล่ กุนาร์ โซลชา จะปรับตัวเข้ากับ โรนัลโด้ ได้อย่างไร ตอนนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด มีผู้เล่นห้าคนที่สามารถเล่นในแนวรุกได้ ซึ่ง โรนัลโด้ ในวัยนี้เล่นได้แต่ตำแหน่งกองหน้าตัวเป้าเท่านั้น”

“แล้วคนอื่นๆอย่าง เอดิสัน คาวานี่, เมสัน กรีนวู้ด และ มาร์คัส แรชฟอร์ด จะเล่นในตำแหน่งใด โซลชา กำลังเจอกับปัญหาใหญ่ แน่นอน เขามีความสุขกับขุมกำลัง แต่ในทางจตรงข้ามมันก็เป็นความกดดันอย่างมหาศาล”

“การไม่ได้แชมป์อะไรเลยที่สโมสรอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในฐานะผู้จัดการทีมมันกดดันมากๆ โซลชา ต้องรีบคว้าแชมป์สัก 1 รายการเพื่อทำให้ทุกคนในสโมสรมีความสุข ผมคิดว่า ไม่ว่าจะเป็นแชมป์รายการใดก็ตาม โซลชา คว้าพาทีมคว้าแชมป์ให้ได้”

ในขณะที่มีการถกเถียงกันว่า อะไรคือความสำเร็จของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในฤดูกาลนี้ แต่สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือ การเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนของขุมกำลังที่ยอดเยี่ยม และสโมสรได้ทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างให้กับ โซลชา ไปทั้งหมดแล้ว

ไม่ว่าจะเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก, เอฟเอ คัพ หรือ ลีก คัพ โซลชา ต้องแสดงให้เห็นว่า เขาสามารถพาทีมครองความสำเร็จได้