ดูเหมือนว่า โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ สโมสรดังแห่งศึก บุนเดสลีกา เยอรมัน ใกล้จะถึงเวลาสูญเสีย เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ หัวหอกอนาคตไกลชาวนอร์เวย์ออกไปจากทีมเต็มทีแล้ว โดยมีบรรดายักษ์ใหญ่ในวงการฟุตบอลต่างประเทศอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้, เรอัล มาดริด และ บาร์เซโลน่า กำลังติดตามอย่างใกล้ชิด
ฮาแลนด์ ซึ่งมีค่าฉีกสัญญา 75 ล้านยูโร นั้น ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมนับตั้งแต่ย้ายจาก เร้ดบลู ซัลซ์บวร์ก เมื่อเดือนมกราคมปี 2019 ด้วยการระเบิดสกอร์ให้กับพลพรรค “เสือเหลือง” ไปมากถึง 80 ประตู จาก 81 เกมที่ลงสนามรวมทุกรายการ
ขณะเดียวกัน มันใช่เรื่องง่ายเลยที่ ดอร์ทมุนด์ จะหาตัวแทนที่จะมาสานงานต่อจาก ฮาแลนด์ อย่างไรก็ตาม ยังมีกองหน้าวันเดอร์คิดอีกหลายรายที่ “เสือเหลือง” ควรนำเข้ามาปลุกปั้นต่อเพื่อก้าวมาเป็นยอดดาวเตะในอนาคตต่อไป
1. คาริม อเดมี่ (เร้ดบลู ซัลซ์บวร์ก) โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ควรคว้าตัว
อเดมี่ เป็นตัวแทนของ ฮาแลนด์ โดยตรงที่ ซัลซ์บวร์ก และเขาก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมนับตั้งแต่ก้าวเข้ามาสู่ทีมชุดใหญ่ โดยในฤดูกาลนี้ หัวหอกวัย 20 ปี ซัดไปแล้วถึง 19 ประตู จาก 34 เกมรวมทุกรายการให้กับสโมสร
ขณะเดียวกัน จากฟอร์มการเล่นที่สุดยอด และพรสวรรค์ที่โดดเด่นนั้น ทำให้ อเดมี่ ถูก ฮานซี่ ฟลิค เทรนเนอร์ทีมชาติเยอรมันเรียกไปติดทีมชุดใหญ่เรียบร้อยแล้ว และเขาก็ไม่ทำให้เจ้านายต้องผิดหวังหลังประเดิมสกอร์แรกให้ “อินทรีเหล็ก” จากากรลงสนามเพียง 3 เกมเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม บรรดาสื่อเมืองเบียร์ระบุว่า ดอร์ทมุนด์ ไม่เต็มใจที่จะจ่ายค่าตัวจำนวนมหาศาลถึง 42.5 ล้านยูโรของ อเดมี่ ซึ่ง ซัลซ์บวร์ก ตั้งเอาไว้ แต่พากพวกเขาขาย ฮาแลนด์ ออกไปได้เงินทุนเข้ามานั้น “เสือเหลือง” ก็อาจจะเปลี่ยนใจก็เป็นได้
2. ดาร์วิน นูเญซ (เบนฟิก้า)
ผลงานของ นูเญซ กับ เบนฟิก้า อาจบ่งบอกได้ว่า เขากำลังจะย้ายไปเล่นกับบรรดาสโมสรชั้นนำชองยุโรปในเร็วๆนี้ ซึ่งหมายความว่าโอกาสของ ดอร์ทมุนด์ ที่จะเซ็นสัญญากับหัวหอกวัย 22 ปี อาจเป็นเรื่องที่ยากขึ้นไปอีก
กองหน้าทีมชาติอุรุกวัย ซึ่งซัดให้ เบนฟิก้า ไป 40 ประตู จาก 77 เกมรวมทุกรายการตลอด 2 ซีซั่นกับสโมสรนั้น เป็นดาวยิงสมัยใหม่ที่แข็งแกร่ง รวดเร็ว เทคนิคดี หาช่องว่างได้อย่างยอดเยี่ยม และจบสกอร์ได้คมกริบ โดยมีสไตล์ใกล้เคียงกับ ฮาแลนด์ อย่างมาก
หาก นูเญซ ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องกับทีมอย่าง ดอร์ทมุนด์ นั้น ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เขาจะก้าวขึ้นมาเป็นหัวหอกระดับโลกในอนาคตอันใกล้นี้อย่างแน่นอน และจะกลายเป็นตัวแทนที่ยอดเยี่ยมของ ฮาแลนด์ อยู่มากทีเดียว
3. ลูก้า โยวิช (เรอัล มาดริด)
ดาวยิงทีมชาติเซอร์เบียต้องเจอกับช่วงเวลาที่ยากลำบากอย่างหนักหลังย้ายจาก ไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต ไปเล่นกับ เรอัล มาดริด ในซัมเมอร์ปี 2019 โดยย้อนกลับไปในช่วงที่เขาเล่นกับ “อินทรีแดงดำ” นั้น โยวิช เป็นส่วนสำคัญในการพาทีมเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศศึกฟุตบอล ยูโรป้า ลีก มาแล้ว
ฤดูกาลที่ผ่านมา ดาวเตะเซิร์บ ต้องย้ายจาก มาดริด หวนกลับไปเล่นกับ แฟรงค์เฟิร์ต อีกครั้งเพื่อหาโอกาสลงสนามอย่างสม่ำเสมอ และในปีนี้ โยวิช ต้องย้ายกลับมายัง “ราชันชุดขาว” แต่ก็ดูเหมือนว่า เขาไม่ได้อยู่ในแผนการทำทีมของกุนซือ คาร์โล อันเชล็อตติ หลังได้ลงสนามไปเพียง 17 เกม
ในวัยเพียง 24 ปี โยวิช ยังสามารถพัฒนาไปได้อีกไกล เขามีจุดเด่นในลูกกลางอากาศ ทักษะยอดเยี่ยมสามารถจบสกอร์ได้ด้วยเท้าทั้งสองข้าง คล่องแคล่ว เต็มไปด้วยความกระตือรือร้น ความกล้าหาญ และการเคลื่อนไหวที่คาดเดายากกับแนวรับคู่แข่ง
4. จิอันลูก้า สกามัคค่า (ซาสซูโอโล่)
ศูนย์หน้าชาวอิตาลีอาจมีสไตล์ไม่เหมาะกับการเล่นเกมรุกที่รวดเร็วของ ดอร์ทมุนด์ แต่ในเรื่องของความแข็งแกร่งทางสภาพร่างกาย การเล่นลูกกลางอากาศ การปะทะกับแนวรับคู่แข่ง รวมถึงการจบสกอร์นั้น สกามัคค่า ทำได้เป็นอย่างดี
ดาวยิงวัย 23 ปี มีฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมกับ ซาสซูโอโล่ หลังระเบิดสกอร์ไปถึง 12 ประตู จาก 29 เกมในฤดูกาลนี้ และเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาเจ้าตัวเกือบจะได้ย้ายไปเล่นกับ ยูเวนตุส อยู่แล้ว แต่ทาง “เจ้าม้าลาย” เลือกเซ็นสัญญากับ ดูซาน วลาโฮวิช หัวหอกฟิออเรนติน่าแทนในนาทีสุดท้าย
ในเวลานี้ สกามัคค่า กลายเป็นกองหน้าที่น่าจับตามองอย่างยิ่งในวงการฟุตบอลแดนมะกะโรนี และล่าสุดเจ้าตัวโดน โรแบร์โต้ มันชินี่ เทรนเนอร์ทีมชาติอิตาลีเรียกตัวไปร่วมทัพเรียบร้อยแล้ว
5. ซาซ่า คาลัดจ์ซิช (สตุ๊ทการ์ต)
กองหน้าที่เจ้าของความสูง 2 เมตรได้หวนกลับมาลงสนามอีกครั้งหลังจากพักเบรกบุนเดสลีกาฤดูหนาว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เขาได้รับบาดเจ็บที่บริเวณหัวไหล่ ซึ่งทำให้เจ้าตัวต้องพักแข้งยาวนานเกือบครึ่งปีเลยทีเดียว
ย้อนกลับไปเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา คาลัดจ์ซิช โชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอดให้กับ สตุ๊ทการ์ต หลังซัดในลีกไปมากถึง 16 ประตู จากการลงสนาม 33 เกม ซึ่งทำให้เขาแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวกับพลพรรค “ม้าขาว” และได้รับการจับตามองอย่างมาก
แม้จะมีรูปร่างสูงใหญ่ แต่ศูนย์หน้าทีมขาติออสเตรียกลับมีเทคนิค และความคล่องตัวอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งหลายๆคนมองว่า เขาจะเป็น “นิว แยน โคลเลอร์” อดีตตำนานดาวยิงร่างใหญ่ชาวสาธารณรัฐเช็กของ ดอร์ทมุนด์ ได้ไม่ยาก