6 แข้งดัง และนักเตะศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ บางคนต้องการย้ายทีมเพื่อโอกาสติดทมีชาติไปเล่นในฟุตบอลโลก 2022 และมีอีกหลายๆคนที่ต้องการย้ายสังกัดเพื่อหาโอกาสลงสนามอย่างสม่ำเสมอให้กับตัวเอง และบางทีในตลาดนักเตะรอบเดือนมกราคมนี้ก็จะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขา
6 ผู้เล่นจากลีกสูงสุดเมืองผู้ดีต่อไปนี้ ต่างก็มีเหตุผลของตัวเองที่จะต้องย้ายออกภายในเดือนนี้ ซึ่งพวกเขามีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือ จำเป็นต้องเริ่มต้นอาชีพใหม่ และต้องการโอกาสลงสนามโดยเร็วที่สุด
1. เจสซี่ ลินการ์ด (แมสเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)
หลังจากครึ่งซีซั่นหลังที่น่าประทับใจของปีที่แล้ว ซึ่ง ลินการ์ด โชว์ผลงานยิงได้ 9 ประตู จากการยืมตัว 16 นัดให้กับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เขาก็ถูกเรียกกลับไปยังทัพ “ปีศาจแดง” ในปีนี้ พร้อมคำสัญญาว่าจะได้ลงเล่นจาก โอเล่ กุนนาร์ โซลชา อดีตโค้ชชาวนอร์เวย์
อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่เปิดซีซั่นจนถึงตอนนี้ ปีกชาวอังกฤษได้ลงเล่นในลีกให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ไปเพียง 88 นาทีเท่านั้น และล่าสุดจากกาที่ ราล์ฟ รังนิก เทรนเนอร์ชาวเยอรมันเข้ามาคุมทีมแทน โซลชา นั้น โอกาสของ ลินการ์ด ยิ่งลดน้อยลงไปอีก
ดาวเตะวัย 29 ปี ดูเหมือนว่า จะไม่ได้อยู่ในแผนการของ รังนิก เช่นกัน และเขาจำเป็นต้องออกจากสโมสรที่อยู่มาตั้งแต่ 8 ขวบ เพื่อโอกาสติดทีมชาติอังกฤษไปลุยฟุตบอลโลกปลายปีนี้
2. ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค (แมสเชสเตอร์ ยูไนเต็ด) 1 ใน 6 แข้งดัง
เช่นเดียวกับ ลินการ์ด ฟาน เดอ เบค ยังคงไม่มีโอกาสลงสนามให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด เลย โดยก่อนเปิดฤดูกาล กองกลางชาวดัตช์ ได้รับการคาดหมายว่า จะมีเวลาลงสนามมากขึ้นกว่าเดิม แต่กลายเป็นว่า เขายังต้องอยู่ในซุ้มม้านั่งสำรองเป็นส่วนใหญ่
รังนิก ให้สัมภาษณ์ว่า ห้องเครื่องวัย 24 ปี ยังอยู่ในแผนการทำทีมของเขา แต่ก็ยังไม่มีอะไรชัดเจน และ ฟาน เดอ เบค เองก็ต้องการเวลาลงเล่นเพื่อโอกาสติดทีมชาติเนเธอร์แลนด์ไปลุยศึกฟุตบอลโลก และดูเหมือนว่า การยืมตัวจะเป็นทางออกที่ดีของทุกฝ่าย
3. รอสส์ บาร์คลีย์ (เชลซี)
แม้ว่ามันอาจจะสายเกินไปที่จะรื้อฟื้นการกลับมาติดทีมชาติอังกฤษภายใต้การคุมทีมของกุนซือ แกเร็ธ เซาธ์เกต หลังจากที่ บาร์คลีย์ รับใช้ทัพ “สิงโตคำราม” ครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2019 แต่มันถึงเวลาแล้วที่เขาต้องกู้เส้นทางอาชีพของตัวเองกลับคืนมา
ในวัย 28 ปี บาร์คลีย์ กำลังเข้าสู่ช่วงที่ดีที่สุดของนักฟุตบอล เขามีพรสวรรค์มากมาย และเคยได้รับการยกย่องว่า เป็นมิดฟิลด์ลำดับต้นๆของวงการฟุตบอลอังกฤษ แต่ในปีนี้ เจ้าตัวเพิ่งมีโอกาสลงเล่นในลีกให้ เชลซี ไปเพียง 5 นัด รวมทั้งหมด 151 นาที
ช่วงเวลาการยืมตัวที่ แอสตัน วิลล่า เมื่อฤดูกาลที่แล้วของ บาร์คลีย์ ค่อนข้างยอดเยี่ยม และการมองหาโอกาสย้ายออกไปด้วยสัญญายืมตัวอีกครั้งน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีของกองกลางเลือดผู้ดีรายนี้
4. เนโก้ วิลเลียมส์ (ลิเวอร์พูล)
เป็นเรื่องยากที่จะเป็นยึดตำแหน่งตัวจริงในทีมอย่าง ลิเวอร์พูล และมันยากกว่าเมื่อผู้เล่นตำแหน่งเดียวกับคุณที่ขวางหน้าอยู่นั้น แก่กว่าคุณเพียง 3 ปี และ วิลเลียมส์ กำลังเผชิญปัญหาดังกล่าวเนื่องจาก เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เป็นแบ็คขวาตัวจริงของ “หงส์แดง” และทำผลงานได้อย่างสุดยอด
วิลเลียมส์ เพิ่งอายุเพียง 20 ปี และมีโอกาสที่จะพัฒนาไปได้อีกไกล แต่การที่มี อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ขวางหน้าอยู่มันก็เป็นบททดสอบที่ยากของเขาอย่างแท้จริง ซึ่งบางทีการย้ายออกจากถิ่น แอนฟิลด์ อาจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของ ดาวรุ่งชาวเวลส์
5. ตองกีย์ เอ็นเดมเบเล่ (ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์)
เอ็นเดมเบเล่ เคยเป็นกำลังสำคัญในแดนกลางของ โอลิมปิก ลียง อดีตทีมเก่าในลีกเอิง ฝรั่งเศส เขาเป็นมิดฟิลด์จอมพลัง มีเทคนิค และมีศักยภาพที่ยอดเยี่ยม แต่กับ สเปอร์ส เขาฟอร์มตกอย่างน่าใจหาย และดูเหมือนว่า จะหลุดไปเป็นตัวสำรองเรียบร้อยแล้ว
ดาวเตะชาวฝรั่งเศส อาจไม่เหมาะกับพรีเมียร์ลีก ซึ่งสไตล์การเล่นของเขาอาจจะเหมาอกับลีกอื่นๆมากกว่า และ อันโตนิโอ คอนเต้ กุนซือคนใหม่ของ สเปอร์ส ก็ดูจะไม่ต้องการใช้งานเขาแล้วในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาลที่เหลือ
เอ็นเดมเบเล่ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องหาโอกาสลงสนามอย่างสม่ำเสมอเพื่อโอกาสติดทีมชาติฝรั่งเศสไปลุยศึกฟุตบอลโลก และบางทีมันถึงเวลาที่เขาต้องก้าวออกจากทัพ “ไก่เดือยทอง” แล้ว
6. แบรนด์ เลโน่ (อาร์เซน่อล) 6 แข้งดัง คนสุดท้าย
แม้ว่าการเป็นตัวสำรองให้กับสโมสรระดับแนวหน้าของยุโรปก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ผู้เล่นส่วนใหญ่ได้ลงเล่นให้กับทีมชาติ แต่สำหรับเยอรมันไม่เป็นเช่นนั้น เลโน่ กำลังเผชิญกับการแข่งขันที่ดุเดือดเพื่อไปเล่นฟุตบอลโลกในฐานะตัวสำรองของ มานูเอล นอยเออร์ โดยมีโกล์อย่าง มาร์ค อังเดร แทร์-สเตเก้น และ เควิน แทรปป์ เป็นตัวเลือกที่มาก่อนเขา
นายทวารวัย 29 ปี ไม่ได้เป็นตัวเลือกแรกของ มิเกล อาร์เตต้า กุนซือ อาร์เซน่อล อีกแล้ว ซึ่งเขาต้องพยายามอย่างหนักเพื่อหาออกจากทีม “ไอ้ปืนใหญ่” ในช่วงนี้ของฤดูกาล และหากทำไม่สำเร็จบางที เลโน่ อาจไม่มีชื่อไปลุยฟุตบอลโลกกับ “อินทรีเหล็ก” ก็เป็นได้