“คุณมีผู้เชี่ยวชาญมากมายที่จะช่วยผู้เล่นพัฒนา ทำไมคุณจึงควรแยกพวกเขาออกจากทีมหละ ผมคิดว่า มันไม่สมเหตุสมผลเลย” ราล์ฟ รังนิค ผู้จัดการทีมชาวเยอรมันของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรดังแห่งพรีเมียร์ลีก และ วงการฟุตบอลต่างประเทศ อธิบายถึงการดึงนักจิตวิทยาเข้ามาทำงานกับ “ปีศาจแดง”
หลังเข้ามาทำงานในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด แทนที่ของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา โค้ชชาวนอร์เวย์ได้เพียงเดือนเดียว รังนิค ก็จัดการปฏิวัติโครงสร้างของ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้อย่างรวดเร็ว และเอกลักษณ์ของเขานั้น ยังมีอยู่ทุกสโมสรที่เจ้าตัวไปทำงานด้วยว่าในตำแหน่งใดก็ตาม
ราล์ฟ รังนิค ปฏิวัติ แมนฯ ยูไนเต็ด
การแข่งขันพรีเมียร์ลีก 2 นัด และการฝึกซ้อมเพียง 1 สัปดาห์หลังโควิด 19 กลับมาระบาดอีกครั้งส่งผลให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่มมีการแข่งขัน แต่ รังนิก ก็ไม่เสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์หลังจากที่เขาหาทางปรับปรังจุดต่างๆของ “ปีศาจแดง” อย่างต่อเนื่อง
หนึ่งในสิ่งที่ รังนิก เริ่มปรับปรุงก็คือ การดึงนักจิตวิทยาด้านการกีฬามาที่ แมนฯ ยูไนเต็ด โดย ซาสชา เลนเซ อดีตนักจิตวิทยาที่เคยทำงานร่วมกันที่ แอร์เบ ไลป์ซิก ในศึกบุนเดสลีกา เยอรมัน มาร่วมงานกันอีกครั้งในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด
การแต่งตั้ง เลนเซ ทำให้เกิดคำถามที่เกี่ยวข้องหลายข้อเริ่มตั้งแต่ประโยชน์ของการจ้างนักจิตวิทยาการกีฬา และวัตถุประสงค์โดยรวมของสโมสร ไปจนถึงความเต็มใจหรือไม่เต็มใจของผู้เล่นที่จะมีส่วนร่วมกับทีมหรือไม่
แต่เหนือสิ่งอื่นใด คำถามที่ร้อนแรงคือ เหตุใดจึงต้องใช้นักจิตวิทยาการกีฬา ซึ่งสำหรับ รังนิก นั้น ตำแหน่งนี้มีความสำคัญที่ประเมินค่าไม่ได้ และตำแหน่งดังกล่าวจะกลายมาเป็นส่วนสำคัญของวงการกีฬาทุกประเภทในอนาคตอันใกล้นี้
กุนซือวัย 63 ปี กล่าวว่า “ผมจะไม่พูดว่าผมเซอร์ไพรส์ ผมรู้ว่า ในเยอรมันมีสโมสรไม่กี่แห่งที่ไม่ได้ทำงานกับนักจิตวิทยาการกีฬา แต่สำหรับผม มันสมเหตุสมผลอย่างยิ่งที่จะดึงนักจิตวิทยาการกีฬาเข้ามาทำงานกับ แมนฯ ยูไนเต็ด”
“ทุกสโมสรมีผู้เชี่ยวชาญที่แตกต่างกันอาทิ โค้ชรักษาประตู, โค้ชสำหรับสมรรถภาพทางกาย, โค้ชการป้องกัน, กองกลาง, เกมรุกรุก และบางทีมมีผู้เชี่ยวชาญมากกว่าจำนวนนักเตะในทีมเสียอีก ถ้าคุณคิดว่าสมอง, ผู้จัดการทีม,วิธีการเล่น, พนักงานหรือโค้ชคิดว่าเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องที่สุด สำหรับผมแล้วมันสมเหตุสมผลที่จะมีผู้เชี่ยวชาญที่ดีที่สุดจากพื้นที่นั้นเข้ามาเป็นทีมงานของคุณ”
“นี่คือสิ่งที่เกี่ยวกับสโมสร เพื่อช่วยให้ผู้เล่นคิดสิ่งที่ถูกต้อง และอย่าคิดผิด ในการพัฒนาผู้เล่น สมองควรช่วยให้ร่างกายดำเนินการในระดับสูงสุดเท่าที่เป็นไปได้”
“นี่เป็นส่วนหนึ่งของจิ๊กซอว์ที่สโมสรระดับท็อปมีความสำคัญ และ แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นหนึ่งในสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก และมีนักเตะ และทีมงานที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และอย่างน้อยพวกเขาก็ควรมีชิ้นส่วนเล็กๆ เหล่านั้นทั้งหมดในสโมสร”
“มันไม่ควรเป็นกรณีที่ในบางพื้นที่เราไม่มีใครคอยให้ความช่วยเหลือเรื่องจิตวิทยาเลย ผมเชื่ออย่างยิ่งว่าทุกสโมสรในอนาคตควรมีใครสักคนในแผนกนี้” อดีตโค้ช ชาลเก้ กล่าว
จิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญของ ราล์ฟ รังนิค
แมน ฯ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของ โซลชา หรือในยุคหลัง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน นั้น ทั้งหมด ไม่มีนักจิตวิทยาการกีฬาที่สโมสรเลย และเรื่องนี้กลับถูกมองข้ามไป แต่สำหรับ รังนิก เขาคิดว่า มันเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากที่จะช่วยให้ทีมพัฒนา
แม้ว่าการเข้ามาของ รังนิก จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลง แมน ฯ ยูไนเต็ด ให้กลายเป็นผู้ท้าชิงแชม์ในชั่วข้ามคืน แต่สิ่งที่เขาทำก็คือ ทำให้นักเตะ “ปีศาจแดง” พร้อมรับมือกับความคาดหวังอันสูงส่งที่มาพร้อมกับการเล่นในสโมสรที่ใหญ่ที่สุดในโลก และสำคัญที่สุดคือ การทำงานเพื่อทีมในฐานะนักเตะมืออาชีพ
นายใหญ่ แมน ฯ ยูไนเต็ด กล่าวต่ออีกว่า “ผู้เล่นในระดับนี้อยู่ภายใต้แรงกดดันในการส่งมอบ และเล่นในระดับสูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ บางครั้งพวกเขาอาจต้องการความช่วยเหลือ และอาจต้องการใครสักคนที่จะพูดคุยด้วย”
“นั่นไม่ควรเป็นแค่ผู้จัดการทีมหรือ โค้ชคนอื่นๆเสมอไป สิ่งสำคัญสำหรับผู้เล่นคือ ต้องรู้ว่ามีคนเป็นกลาง มีผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งพวกเขาสามารถพูดถึงในสถานการณ์ที่พวกเขาต้องการความช่วยเหลือ หรือแม้แต่ใครสักคนที่จะรับฟังพวกเขาได้”
“ในเยอรมัน เรามีกรณีของ โรเบิร์ต เอ็งเค่ ที่ฆ่าตัวตายตอนที่เขายังเป็นผู้รักษาประตูทีมชาติเยอรมัน ถ้าคุณมองในแง่นี้ของเกม มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะมีใครสักคนในทีมของคุณเพื่อคอยช่วยเหลือ”
เลนเซ วัย 43 ปี อยู่ระหว่างการเข้ามาทำงานในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด และกำลังปรับตัวให้เขากับสภาพแวดล้อมใหม่ โดย รังนิก กล่าวว่า “ซาช่า ดูการฝึกซ้อมของเราทุกครั้ง เขาเป็นส่วนหนึ่งของการประชุมทุกครั้ง เขาเป็นส่วนหนึ่งของทีมงาน และเขาพูดกับผู้เล่นเป็นประจำ”
“แน่นอน ไม่จำเป็น เราไม่ได้บังคับให้ผู้เล่นพูดกับ ซาซ่า แต่พวกเขารู้ว่าเขาอยู่ตรงนี้เสมอ เขาเป็นคนที่ฉลาด และเป็นคนดีมาก เขาเป็นคนที่เก่งที่สุดในงานของเขา ผมรู้ว่าเพราะเราทำงานร่วมกันที่ ไลป์ซิก มาก่อนเป็นเวลา 3 ปี”
ความเชื่อมั่นของ รังนิก เกี่ยวกับ เลนเซ สามารถนำไปใช้กับการทำงานในตำแหน่งของเขาที่แมนฯ ยูไนเต็ด ได้อย่างง่ายดาย และเส้นทางหลังจากนี้ของ “ปีศาจแดง” เป็นสิ่งที่น่าติดตามอย่างยิ่ง