ควิวีน เคลเลเฮอร์ ยอดโกล์มือ 2 “หงส์แดง”

มันเป็นเรื่องของผู้รักษาประตู 3 คนที่สนาม เวมบลีย์ ในศึกนัดชิงชนะเลิศศึกฟุตบอลถ้วย ลีก คัพ เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และกลายเป็น ควิวีน เคลเลเฮอร์ นายทวารดาวรุ่งชาวไอร์แลนด์ของ ลิเวอร์พูล ทีมดังแห่ง พรีเมียร์ลีก ซึ่งกลายเป็นฮีโร่ของ “หงส์แดง” และกลายเป็นคนที่ถูกพูดถึงมากที่สุด

เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือชาวเยอรมันของ ลิเวอร์พูล ตัดสินใจส่ง โกล์วัย 23 ปี ลงสนามก่อน อลิสซอน เบ็คเกอร์ นายด่านมือ 1 ทีมชาติบราซิล ในเกมนัดชิงดำกับ เชลซี ซึ่งตลอด 120 นาทีไปจนถึงการดวลจุดโทษนั้น เคลเลเฮอร์ ก็ไม่ทำให้เจ้านายต้องผิดหวังหลังซัดประตูชัยในลูกสุดท้ายพา  “หงส์แดง” คว้าแชมป์

ขณะที่ เชลซี ภายใต้การนำของ โธมัส ทูเคิ่ล โค้ชชาวเยอรมัน เลือก เอดูอาร์ด เมนดี้ โกล์ทีมขาติเซเนกัล ซึ่งคว้าแชมป์ทวีปมาสดๆร้อนๆลงสนามเป็นตัวจริงก่อน จากนั้น ก็ส่ง เกปา อาร์ริซาบาลาก้า มือกาวชาวสเปนเจ้าของค่าตัว 71 ล้านปอนด์ ลงมาช่วงท้ายเกมเพื่อดวลจุดโทษกับ ลิเวอร์พูล

ควิวีน เคลเลเฮอร์

ควิวีน เคลเลเฮอร์ ฮีโร่ของ ลิเวอร์พูล

คล็อปป์ กล่าวถึงการตัดสินใจส่ง เคลเลเฮอร์ ลงเฝ้าเสาว่า “มันเป็นเรื่องดีมากที่ และเขาก็ได้รับการตอบแทนแล้ว เขาสมควรได้รับมัน ผมเป็น 2 สิ่ง คือ ผู้จัดการทีมฟุตบอล และมนุษย์ และการตัดสินใจของผมในฐานะมนุษย์นั้น มันออกมาดี”

“เขายังเด็ก เราขอให้เขาทำอะไรหลายๆ อย่าง เขาเริ่มเล่นในการแข่งขันรอบที่ผ่านๆมา จากนั้นเราก็เข้าชิงชนะเลิศ และหากผมบอกเขาว่า เขาจะไม่ได้เล่นในนัดชิงฯ มันคงเป็นเรื่องที่แย่มากๆ ในฟุตบอลอาชีพเราควรมีที่ว่างสำหรับความรู้สึกที่ดีด้วยเช่นกัน”

“ที่ศูนย์ฝึกเรามีกำแพงที่มีรูปผู้รักษาประตูทุกคนที่เคยคว้าแชมป์มาแล้ว และ ควิวิน ก็สามารถเข้าไปอยู่ในกำแพงนั้นได้แล้ว นั่นคือวิธีที่มันควรจะเป็น มันยอดเยี่ยมจริงๆ”

คล็อปป์ ได้รับคำแนะนำจาก จอห์น อัชเตอร์เบิร์ก โค้ชผู้รักษาประตูของ ลิเวอร์พูล เกี่ยวกับ เคลเลเฮอร์ มาตลอด โดยในช่วงวัยเด็กนั้น นายด่านไอริช เคยเล่นเป็นกองหน้ามาก่อน ซึ่งทำให้เขามีเทคนิคการใช้เท้าที่ดีมากๆ

นายใหญ่ ลิเวอร์พูล กล่าวต่อว่า “ผมเห็นเขาครั้งแรกตอนยังเป็นเด็กอยู่เลย และตอนนี้เขาก็ยังเป็นคนที่ดีมาตลอด เขามีพรสวรรค์ที่น่าทึ่งมาก เขาคือ โกล์มือ 2 ที่ดีที่สุดในโลก เขามีเกมที่น่าเหลือเชื่อจริงๆ ชีวิตของโกล์มือ 2 คือ คุณต้องพร้อมเมื่อคุณถูกเรียกใช้งาน และเกมที่เขาเล่นในคืนนี้ช่างน่าเหลือเชื่อจริงๆ”

“ผมจำได้อย่างน้อยเขาก็เซฟได้อย่างน่าเหลือเชื่อ 2 ครั้ง อาจจะมากกว่านั้น ดังนั้น เขาพิสูจน์ให้เห็นว่า การตัดสินใจเข้าต่างๆของเขาถูกต้องที่สุด จากนั้น ในการดวลจุดโทษอันน่าทึ่ง เขาก็แสดงให้เห็นทักษะทั้งหมดของเขา”

เจมี่ เร็ดแนปป์ อดีตกองกลางชาวอังกฤษของ ลิเวอร์พูล แสดงความคิดเห็นว่า  “ผมไม่เคยคิดเลยสักนิดว่า เขาจะพลาด เขาโชว์การเซฟได้อย่างยอดเยี่ยมในแมตช์นี้ และเขาก็ไม่เคยหวั่นไหวเลย เขาทำงานร่วมกับหนึ่งในโกล์ที่ดีที่สุดในโลกอย่าง อลิสซอน และมันก็ช่วยเขาได้เยอะมาก เขาเป็นชายหนุ่มที่มีอนาคตที่ยิ่งใหญ่ เขาดีเกินกว่าจะเป็นมือ 2 ด้วยซ้ำ”

จุดเริ่มต้นในความสำเร็จของ ลิเวอร์พูล

การคว้าแชมป์ลีก คัพ ครั้งนี้นับเป็นสมัยที่ 9 ของ ลิเวอร์พูล และนับเป็นการคว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วยในอังกฤษครั้งแรกของ คล็อปป์ นับตั้งแต่เข้ามาทำงานในถิ่น แอนฟิลด์ เมื่อปี 2015 อีกด้วย ซึ่ง เคลเลเฮอร์ ก็มีส่วนสำคัญในความสำเร็จครั้งนี้

ขณะเดียวกัน ลิเวอร์พูล ยังคงอยู่ในเส้นทางการลุ้นแชมป์ที่เหลืออีก 3 รายการ โดยในศึกเอฟเอ คัพ พวกเขาจะเปิดบ้านรอเจอกับ นอริช ซิตี้ ของกุนซือ ดีน สมิธ และปัจจุบันก็รั้งอันดับ 2 ในพรีเมียร์ลีกโดยมีแต้มตามหลังพลพรรค “เรือบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยอดเทรนเนอร์ชาวสเปนเพียง 6 คะแนน และแข่งน้อยว่า 1 นัด

ขณะที่ในศึกฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายนัดแรก ลิเวอร์พูล ก็ทำผลงานยอดเยี่ยมด้วยการบุกไปอัด “งูใหญ่” อินเตอร์ มิลาน จากศึกกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี มาแล้ว 2-0 ซึ่งเกมที่ 2 “หงส์แดง” จะกุมความได้เปรียบอย่างมากในการกลับมาเล่นที่ แอนฟิลด์ 

คล็อปป์ แสดงความคิดเห็นว่า “เราไม่ได้โง่ คุณต้องการโชคบ้างในเกมฟุตบอล แต่เราต้องทำงานให้หนัก และเราต้องเล่นในวันพุธอีกครั้ง ซึ่งผมไม่อยากเชื่อเลยในตอนนี้ แต่แอนฟิลด์จะพร้อม และเราสามารถมอบความสนุกให้กับแฟนบอลได้”

จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กองกลางกัปตันทีม ลิเวอร์พูล กล่าวเสริมว่า “การคว้าแชมป์วันนี้เป็นวันที่พิเศษจริงๆ ผมไม่เคยคิดว่า ตัวเองจะได้เล่นให้กับสโมสรนี้ แฟนบอลคู่ควรกับมันแล้ว และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถเริ่มต้นไล่ล่าความสำเร็จได้ตลอดทั้งฤดูกาลที่เหลือ”

, , , , , , , , , ,

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *