สิ่งที่ ดีน สมิธ ควรทำกับ นอริช

ดีน สมิธ ผู้จัดการทีมชาวอังกฤษวัย 50 ปี ได้รับการแต่งตั้งเป็นกุนซือคนใหม่ของ นอริช ซิตี้ ทีมแห่งศึกพรีเมียร์ลีก และ วงการฟุตบอลต่างประเทศ เป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านม แม้ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันเขาเพิ่งโดน แอสตัน วิลล่า อดีตต้นสังกัดเก่าปลดออกจากตำแหน่งก็ตาม

สมิธ จะเข้ามารับเผือกร้อนต่อจาก ดาเนียล ฟัลเค่ โค้ชชาวเยอรมันที่โดนปลดหลังจากพา นอริช เก็บชัยชนะได้เพียงเกมเดียวตั้งแต่เปิดซีซั่นนี้ และงานหลักของเขาก็คือ พาพลพรรค “นกขมิ้นเหลืองอ่อน” อยู่รอดในลีดสูงสุดเมืองผู้ดีให้ได้

อดีตนายใหญ่ วิลล่า มีงานหนักรออยู่มากมายกับ นอริช และนี่คือสิ่งที่เขาควรทำเพื่อหาทางพาสโมสรอยู่รอดในปีนี้

ดีน สมิธ

1. ดีน สมิธ ต้องเปลี่ยนอารมณ์ภายในสโมสร

หลังจากเริ่มต้นฤดูกาลได้อย่างย่ำแย่ภายใต้การคุมทีมของ ฟัลเค่ นั้น บอร์ดบริหารสโมสรของ นอริช ก็ตัดสินใตว่า การเป็นตัวผู้จัดการทีมจะสร้างการเปลี่ยนแปลงในทิศทางบวดให้เกิดขึ้นภายในถิ่น แคร์โรว โร้ด และพวกเขาก็เลือก สมิธ เข้ามานำทัพในช่วงที่เหลือของซีซั่นนี้

ขณะเดียวกัน ฟัลเค่ คุม นอริช มาเป็นระยะเวลานานถึง 4 ปีครึ่งแล้ว และการที่ สมิธ เข้ามาสานงานต่อมันก็เป็นเรื่องยากพอสมควรที่จะปรับเปลี่ยนบรรยากาศภายในสโมสร แต่เขาก็ต้องเริ่มทำมันอย่างจริงจังโดยเร็วที่สุด

นอริช กำลังอยู่ในช่วงที่ความมั่นใจถดถอย และฟอร์มในสนามก็ไม่สวยงามนัก รวมนักนักเตะหลายๆคนกกำลังสับสนในบทบาท และหน้าที่ของตัวอง ดังนั้น สมิธ ต้องรีบสะสางทุกสิ่งทุกอย่างให้ชัดเจนโดยเร็วที่สุดไม่ว่าจะเป็นการเลือกนักเตะตัวจริง แท็คติค แนวทางการเล่น หรือแผนการสำรองต่างๆ

ดีน สมิธ

2. ทำให้ บิลลี กิลมัวร์ กลับมาเล่นฟุตบอลอย่างมีความสุขอีกครั้ง

กองกลางดาวรุ่งมากพรสวรรค์ชาวสก็อตแลนด์ที่ย้ายมาจาก “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ด้วยสัญญายืมตัวถูก ฟัลเค่ มองข้ามไปตลอด 2-3 เดือนที่ผ่านมา ถึงแม้เจาจะมีศักยภาพที่จะยึดตำแหน่งตัวจริงในทีม นอริช ได้แบบสบายๆก็ตาม

กิลมัวร์ ทำผลงานกับทีมชาติสก็อตแลนด์ในศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร 2020 ที่ผ่านมาได้อย่างยอดเยี่ยม และหลายๆคนคาดหมายว่า เขาจะกลายมาเป็นคีย์แมนคนสำคัญในแดนกลางของ นอริช ปีนี้

อย่างไรก็ตาม กิลมัวร์ กลับไม่ได้โอกาสลงสนามมากนัก ซึ่งมีข่าวลือว่า เชลซี อาจจะดึงตัวเขากลับไปยังถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ในเดือนมกราคมนี้ทันทีหาก นอริช ไม่ใช้งาน และ สมิธ ต้องหาทางออกกับปัญหานี้ให้เร็วที่สุด

สมิธ ต้องเรียกฟอร์มของ กิลมัวร์ กลับมาอีกครั้ง และต้องรีดศักยภาพของดาวเตะวัย 20 ปี ออกมาให้ได้มากที่สุดเพื่อประโยชน์ของ นอริช และอดีตกุนซือ วิลล่า ทำได้นั้น “นกขมิ้นเหลืองอ่อน” จะกลับมามีเกมแดนกลางที่ยอดเยี่ยมอีกครั้งก็เป็นได้

3. หาคนทำประตูมาแบ่งช่วยเบาภาระ ตีมู ปุกกี้

ไม่ยากเลยที่จะดูว่าปัญหาหลักของ นอริช ในยุคของ ฟัลเต่ อยู่ตรงไหน เนื่องจากพวกเขาเพิ่งทำได้เพียง 5 ประตูตลอดทั้งฤดูกาลนี้ โดย 2 ประตูมาจากการบุกไปเก็บชัยชนะเหนือ เบรนท์ฟอร์ด 1-2 ในเกมลีกนัดล่าสุดก่อนพักเบรกทีมชาติ

ตีมู ปุกกี้ หัวหอกทีมชาติฟินแลนด์พิสูจน์ให้เห็นว่า เขาสามารถทำประตูได้ในพรีเมียร์ลีกได้อย่างสบายๆ และเขาก็มีความสำคัญต่อโอกาสในการอยู่รอดของ นอริช ในฤดูกาลนี้ แต่ในวัย 31 ปี เขาก็ไม่สามารถยืนระยะตลอดทั้งฤดูกาล

สมิธ ต้องการคนเข้ามาแบ่งเขาภาระของ ปุกกี้ หรือหาแนวทางการทำเกมรุกที่แปลกใหม้าง โดยนักเตะแนวรุกคนอื่นๆอย่าง มาเทียส นอร์มันน์ กองกลางชาวนอร์เวย์ ก็เป็นการเซ็นสัญญาที่ยอดเยี่ยมในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมารวมปไปถึง มิล็อต ราชิกา กองหน้าทีมชาติโคโซโวที่ย้ายมาจาก แวร์เดอร์ เบรเมน ควรจะมีส่วนร่วมกับทีมมากกว่านี้

ดีน สมิธ

4. ดีน สมิธ ควรหาตำแหน่งที่เหมาะสมให้กับ ท็อดด์ แคนท์เวลล์

ไม่มีใครกล้าปฏิเสธเลยว่า แคนท์เวลล์ เป็นหนึ่งในนักเตะอนาคตไกลมากพรสวรรค์ที่สุดของ นอริช โดยก่อนหน้านี้เขาได้รับความสนใจจากสโมสรชั้นนำในพรีเมียร์ลีกอย่าง เชลซี, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ลิเวอร์พูล มาแล้ว

อย่างไรก็ตาม กองกลางวัย 23 ปี ไม่ได้ลงสนามเป็นตัวจริงให้ นอริช เลยนับตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา หลังจากมีปัญหาสว่นตัว และได้รับบบาดเจ็บ ซึ่งทำให้ นอริช ขาดมิดฟิลด์จอมขยันที่คอยช่วยทีมสร้างสรรค์เกมรุก และไล่บอล

สมิธ ต้องหาตำแหน่งที่เหมาะสมให้กับ แคนท์เวลล์ โดยเร็วที่สุดเพื่อทำให้ นอริช มีการขับเคลื่อนเกมแดนกลางที่ดีขึ้นกว่าเดิม และหากดาวรุ่งชาวอังกฤษกลับมาโชว์ฟอร์มเก่งได้อีกครั้ง “นกขมิ้นเหลืองอ่อน” ก็จะมีโอกาสที่อยู่รอดมากขึ้นไปด้วยอย่างแน่นอน

, , , ,

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *