ยูนุส มูซาห์ โคตรดาวรุ่งแห่งฝูง “ค้างคาว”

การตัดสินใจย้ายออกจาก อาร์เซน่อล มาเล่นกับ บาเลนเซีย ในศึก ลา ลีกา สเปน ด้วยวัยเพียง 16 ปี ถือเป็นทางเลือกที่ถูกต้องของ ยูนุส มูซาห์ มิดฟิลด์ดาวรุ่งทีมชาติสหรัฐอเมริกา และตอนนี้เขาก็กลายเป็นคีย์แมนของพลพรรค “ไอ้ค้างคาว” ไปเรียบร้อยแล้ว

สมัยที่เล่นในทีมเยาวชนของ อาร์เซน่อล นั้น กองกลางวัย 19 ปี เคยเป็นเพื่อนร่วมทีมกับ บูกาโย่ ซาก้า, เอมิล สมิธ โรว์ และ ฟลอเรียน บาโลกัน ซึ่งตอนนี้ทั้งหมดขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ของ “ไอ้ปืนใหญ่”แล้ว และ มูซาห์ ยังเคยติดทีมชาติอังกฤษชุดเยาวชนมาแล้วอีกด้วย

ยูนุส มูซาห์ กับการตัดสินใจย้ายมายัง บาเลนเซีย

อดีตดาวรุ่ง อาร์เซน่อล ซึ่งเกิดในนิวยอร์ก ซิตี้ กับพ่อแม่ชาวกานา และอาศัยอยู่ในอิตาลีจนถึงอายุ 9 ขวบ ก่อนย้ายไปลอนดอนกล่าวว่า “มันไม่ยากเลยที่จะเข้าสู่วัฒนธรรมใหม่ สิ่งที่ดึงดูดใจผมจริงๆ คือประวัติศาสตร์เบื้องหลังสโมสรแห่งนี้

“การที่ผมได้รู้ว่า มีผู้เล่นมากมายจากอคาเดมี่ได้รับโอกาสในการเติบโตในทีมชุดใหญ่ มันทำให้ผมต้องการไล่ตามความฝันที่นี่ การใช้ชีวิตในสเปนนั้นยอดเยี่ยมมาก ผมได้พบกับผู้คนมากมาย และได้เรียนรู้ภาษา มันเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ผมได้เพิ่มเข้ามาในชีวิต และส่วนที่ดีที่สุดคือ ผมกำลังทำมันในขณะที่ทำในสิ่งที่ผมรัก นั่นคือการเล่นฟุตบอล”

ในฤดูกาลนี้ มูซาห์ ลงเล่นให้ บาเลนเซีย ในลีกไปแล้วถึง 20 เกม หลังจากแจ้งเกิดกับทีมชุดใหญ่เมื่อปีก่อนด้วยวัยเพียง 17 ปีเท่านั้น และหากนับรวมทุกรายการตั้งแต่เขาประเดิมสนามให้กับพลพรรค “ไอ้ค้างคาว” นั้น เจ้าตัวลงเล่นไปมากถึง 60 เกมเลยทีเดียว

“ในวัยนี้การได้ลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ และได้รับความไว้วางใจจากสโมสรให้เล่นสัปดาห์แล้วสัปดาห์เล่านั้นน่าทึ่งมาก” มูซาห์ ซึ่งตอนนี้ติดทีมชาติสหรัฐอเมริกาไปแล้ว 13 นัดกล่าวเสริม

บาเลนเซีย มีชื่อเสียงในการพัฒนานักเตะระดับโลกมากมาย แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สโมสรมีความจำเป็นมากขึ้นในการต่อสู้กับข้อจำกัดทางการเงิน โดยการระบาดของโควิด-19 ทำให้รายได้ของพวกเขาหายไปครึ่งหนึ่ง

บาเลนเซีย ต้องขายนักเตะหลักอย่างไป 5 คน นับตั้งแต่ในช่วงซัมเมอร์ปี 2020 รวมถึง เฟอร์ราน ตอร์เรส ตัวรุกชาวสเปนที่ขายให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ โรดริโก้ โมเรโน่ กองหน้าตัวเก่งที่ปล่อยให้กับ ลีดส์ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัวรวมกันราว 80 ล้านปอนด์

อนิล เมอร์ธี ประธานสโมสร บาเลนเซีย กล่าวว่า “มันเจ็บปวดมาก คุณต้องลดต้นทุนของทีม คุณทำได้โดยปล่อยผู้เล่นที่มีรายได้มากออกไป ซึ่งจะลดคุณภาพทีมของคุณเช่นกัน แต่คุณต้องใช้มุมมองถึงอนาคตด้วย”

“เพราะเราต้องการให้สโมสรนี้ได้รับการแก้ไขในทางที่ถูกต้อง และคุณไม่สามารถหยุดการเติบโตได้ และคุณยังคงเติบโตนอกสนาม เพราะนอกสนามเป็นการลงทุนที่น้อยกว่าการจ่ายเงินหรือซื้อนักเตะ”

โครงการนอกสนามที่ เมอร์ธี กล่าวถึงนั้นรวมถึงการสร้างต่อเติมสนาม เมสตาย่า ของ บาเลนเซีย ให้เสร็จ ซึ่งการก่อสร้างเริ่มขึ้นเมื่อ 15 ปีก่อน และพัฒนาสถาบันการศึกษาของพวกเขา ซึ่งยังคงยึดแนวทางลงทุนกับกลุ่มนักเตะดาวรุ่งที่สามารถทำกำไรได้ในอนาคต

เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ

นักเตะจากอคาเดมี่ของ บาเลนเซีย มากกว่า 100 คน ได้เปิดตัวกับทีมชุดใหญ่นับตั้งแต่ปี 1992 แต่สโมสรมองหาวิธีที่จะปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง และตอนนี้ก็ลดจำนวนผู้เล่นในแต่ละกลุ่มอายุเพื่อเน้นที่คุณภาพมากกว่าปริมาณ และใช้เงินไปกับการปรับปรุงการมองผู้เล่นต่างชาติเข้ามา โดยที่ตอนนี้เยาวชนจากญี่ปุ่น เซเนกัล และนอร์เวย์ ก็อยู่ในความสนใจ

ฌอน ไป่ ผู้อำนวยการทีมเยาวชน บาเลนเซีย กล่าวว่า “เราตัดสินใจให้ผู้เล่นเป็นศูนย์กลางของโปรเจ็กต์ และล้อมรอบพวกเขาด้วยองค์ประกอบทั้งหมดที่สำคัญ ในแต่ละวันเราสร้างวัฒนธรรมแห่งการเรียนรู้และการพัฒนาตนเอง”

“เป้าหมายสุดท้ายของเราสำหรับอคาเดมี่คือ การได้เห็นผู้เล่นของเราสวมเสื้อทีมชุดใหญ่ในสักวันหนึ่ง และคุณสามารถเชื่อมโยงเขากับการเป็นผู้เล่น บาเลนเซีย ได้จากรูปแบบการเล่น และคุณค่าที่เขามอบให้กับสโมสรแห่งนี้”

“เราใช้เวลาพูดคุยกับผู้คนรอบตัวพวกเขา เพื่อนฝูง และเพื่อนร่วมทีม ผู้ติดต่อที่อาจรู้จักพวกเขา รวมถึงครอบครัวว่า สไตล์ของพวกเขาเป็นอย่างไร และในห้องแต่งตัวเป็นอย่างไร พวกเขาเป็นผู้เล่นที่สามารถซึมซับเข้าสู่ บาเลนเซีย และทำงานเป็นทีมได้หรือไม่”

“ประเด็นสำคัญอยู่ที่ว่าพวกเขาเล่นได้ดีในระดับตลอดทั้งเกม และในการฝึกซ้อมได้หรือไม่ และแสดงให้เห็นว่า พวกเขาสมควรได้เข้าสู่สโมสร บาเลนเซีย”

 “ช่วงเวลาที่ผู้เล่นเสียบอล เขากำลังฟื้นตัว ติดตามบอลกลับมา ช่วยทีมของเขาทันทีหรือไม่ เมื่อแมวมองไปดูเกม พวกเขาจะคอยดูพฤติกรรมของผู้เล่น ภาษากายของพวกเขา การพูดคุยกับเพื่อนร่วมทีม และโค้ช ว่า พวกเขาตอบสนองอย่างไร”

แนวทางของ บาเลนเซีย ทำให้ มูซาห์ ได้รับการยกย่องอย่างสูง โดย ไป่ กล่าวต่ออีกว่า “ตอนที่ ยูนุส มาที่นี่ครั้งแรก เขาซ้อมกับทีมสำรองทันที เขาทำได้ไม่ดีในช่วงเวลานั้น เราเลยพาเขากลับลงมาเล่นในรุ่นอายุต่ำกว่า 19 ปี”

“ผู้เล่นส่วนใหญ่จะหงุดหงิด ไม่พอใจ บ่นกับเอเยนต์หรือ ผู้อำนวยการกีฬา แต่สำหรับ ยูนุส เขาก็ก้มหน้าก้มตายิ้มให้ทุกการฝึกซ้อม และทุกเกมที่ลงสนาม และในที่สุดเขาก็กระโดดขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ได้อย่างยอดเยี่ยม”