เบื้องหลังความสำเร็จของ เลเวอร์คูเซ่น

ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น สโมสรดังแห่งศึก บุนเดสลีกา เยอรมัน มีเกมสำคัญที่จะพบกับ บาเยิร์น มิวนิค ทีมจ่าฝูง ในวันที่ 5 มีนาคมนี้ และการวิเคราะห์ข้อมูลจะเป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมตัวสำหรับ ไซม่อน โรลเฟส ผู้อำนวยการกีฬาของพลพรรค “ห้างขายยยา”

เลเวอร์คูเซ่น กำลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการรั้งอันดับ 3 ในตารางคะแนน โดยมีแต้มตามหลัง “เสือใต้” บาเยิร์น ภายใต้การนำของ จูเลียน นาเกลส์มัน โค้ชหนุ่มไฟแรง อยู่ 14 คะแนน ซึ่งโอกาสลุ้นแชมป์อาจจูเลือนลาง แต่สำหรับการคว้าตั๋วไปเล่นฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นหน้านั้น “ห้างขายยยา” มีโอกาสทำได้สูงทีเดียว

การวิเคราะห์ข้อมูลของ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น

ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา เลเวอร์คูเซ่น ใช้ระบบการวิเคราะห์ข้อมูลในการคว้าตัวนักเตะใหม่เข้ามาเสริมทัพ และก็ประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยย้อนกลับไปเมื่อปี 2019 พวกเขาคว้าตัว มุสซ่า ดิยาบี้ กองหน้าดาวรุ่งชาวฝรั่งเศสมาจาก ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ในลีก เอิง แบบไม่มีใครสนใจมาก่อน

อย่างไรก็ตาม ในฤดูกาลนี้ ดิยาบี้ พัฒนาตัวเองอย่างก้าวกระโดด และระเบิดฟอร์มด้วยการซัดไปถึง 12 ประตู และอีก 7 แอสซิสต์ ในบุนเดสลีกา พร้อมกับเป็นกำลังสำคัญในแนวรุกช่วยให้ เลเวอร์คูเซ่น ขยับมารั้งอันดับ 3 ของตารางคะแนน

โรลเฟส เริ่มกล่าวว่า “ผมคิดว่า มันเป็นเรื่องที่น่าสนใจที่จะตรวจสอบผู้เล่นของคุณอีกครั้งผู้เล่นอย่าง มุสซ่า ดิยาบี้ อยู่ในอันดับต้น ๆ ของการจัดสถิติต่างๆมากมาย หากคุณตรวจสอบผลงานของเขาในระหว่างฤดูกาล คุณก็จะเห็นว่า เขาพัฒนาได้ดีมากในแง่ของการแย่งบอลกลับคืนมาด้วยเช่นกัน”

“เมื่อเราวิเคราะห์ผู้เล่น เราดูพวกเขาจากสามมุมมอง เรามีข้อมูล วิดีโอ และมองดูบุคลิกภาพของผู้เล่น เรากำลังสร้างทีมเยาวชนที่ต้องพัฒนา เราจึงต้องการความคิดที่ถูกต้องในการพัฒนาตัวเอง และสโมสรของเราอย่างถูกต้อง”

“ข้อมูลอยู่ที่จุดเริ่มต้นของกระบวนการ เราเริ่มต้นด้วยการเลือกข้อมูลแล้วตรวจสอบส่วนอื่นๆ เราดูที่ฟอร์มของพวกเขาในสนาม และศึกษาบุคลิกภาพของเขา ซึ่งส่วนใหญ่ใช้เวลาไปกับบุคลิกภาพ และนิสัยส่วนตัว และในที่สุดผมก็จะได้ข้อมูลที่ดีในการตัดสินใจเลือกนักเตะเข้ามาร่วมทีม”

“การวิเคราะห์เป็นเรื่องที่น่าสนใจมากๆ แต่คุณต้องมีข้อมูลเป็นกลาง คุณได้รับข้อมูลจำนวนมาก และต้องดึงข้อมูลที่ถูกต้องด้วย ตัวอย่างเช่น เขาอาจมีบทบาทบางอย่างหนึ่งในทีมปัจจุบันของเขา แต่จะเป็นอย่างไร และเหมาะสมกับทีมของคุณหรือไม่ เราใช้เวลามากในการวิเคราะห์สิ่งนั้น แต่ทั้งหมเนี้เราเริ่มต้นด้วยข้อมูล”

ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น

การทำงานทั้งใน และนอกสนาม

โรลเฟส เข้าประชุมกับทีมสตาฟฟ์โค้ชของ เลเวอร์คูเซ่น อยู่เสมอ ซึ่งเขาจะคอยรวบรวมข้อมูลต่างๆจากทุกภาคส่วนก่อนจะนำไปตัดสินใจ และรวมไปถึงข้อมูลก่อนเกมของคู่แข่งที่พลพรรค “ห้างขายยา” จะต้องเผชิญหน้าด้วยในเกมต่อๆไป

ผอ. กีฬา เลเวอร์คูเซ่น กล่าวต่อว่า  “เราเริ่มต้นด้วยข้อมูลเสมอว่า คู่แข่งเป็นทีมประเภทไหน การโจมตีของพวกเขามาจากจุดไหนบ้าง อาทิ บาเยิร์น เป็นตัวอย่างที่ยากเพราะเรารู้จักพวกเขาเป็นอย่างดี แต่สามารถหาข้อมูลพวกเขาได้อย่างรวดเร็วเพื่อให้เข้าใจคู่ต่อสู้มากขึ้น”

“เรานำเสนอแผนการแข่งขันให้กับผู้เล่นในปลายสัปดาห์ ซึ่งผู้เล่นบางคนต้องการข้อมูลน้อย และบางคนสนใจข้อมูลมาก และต้องการศึกษาวิดีโอของฝ่ายตรงข้ามด้วย ผู้เล่นเปิดรับข้อมูลมากกว่าเมื่อ 20 ปีที่แล้วแน่นอน”

“ปัจจุบันข้อมูลช่วยให้ผู้เล่นปรับปรุง และผลการแข่งขันได้จริง ๆ นั่นคือเหตุผลที่พวกเขาใช้ พวกเขาขอมันเสมอ คุณภาพของข้อมูลเริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ ไม่เพียงแต่สำหรับแฟน ๆ เท่านั้นที่จะเข้าใจเกม แต่ยังสำหรับเราในฐานะสโมสรที่จะใช้มัน”

“ก้าวแรกในฐานะหัวหน้าโค้ช หรือผมในฐานะผู้อำนวยการกีฬาคือ การตัดสินใจที่ดีขึ้น แต่จากนั้นก็เตรียมผู้เล่นให้พร้อมสำหรับการตัดสินใจที่ดีขึ้นอีกในสนาม แน่นอน คุณสามารถเห็นการพัฒนาในรูปแบบของการเล่น คุณเห็นการส่งบอลระยะสั้นมากขึ้น”

“ประสิทธิภาพการยิงประตูก็เป็นผลดีจากการสร้างโอกาสที่ดี มันเป็นความก้าวหน้าของเกม หากคุณเตรียมโอกาสอย่างถูกวิธี คุณจะมีประสิทธิภาพที่สูงขึ้น เราดำเนินการเรื่องนี้ทุกวันเช่นกัน กับผู้เล่นระดับท็อปอย่าง ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ มันเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงคุณภาพของพวกเขา”

ขณะเดียวกัน โรลเฟส ยังเชื่อว่า ข้อมูลต่างๆจำเป็นสำหรับ  เคราร์โด้ เซโอเน่ เทรนเนอร์ชาวสวิตเซอร์แลนด์วัย 43 ปี ของเลเวอร์คูเซ่น ซึ่งข้ามาทำงานเมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมาด้วยเช่นเดียวกัน

 “ผมคิดว่าข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเราสามารถให้ข้อมูลมากมายแก่ เคราร์โด้ เพื่อปรับปรุงการตัดสินใจของเขา ดังนั้น มันเป็นสิ่งสำคัญที่เขาจะเปิดใจใช้ข้อมูลนั้น และมันยังเป็นคำถามเกี่ยวกับอายุของโค้ชอีกด้วย”

“โค้ชของเรายังเด็กมากๆ ดังนั้น เขาจึงคุ้นเคยกับการใช้ข้อมูล ไม่ต้องสงสัยเลยว่าข้อมูลไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของงานประจำวันของเขา แต่มันก็สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้มากมายเช่นเดียวกัน”

“มันน่าสนใจมากที่จะรู้การรับรู้ของผู้เล่นก่อนที่เขาจะได้บอล เรารู้จากการศึกษาว่า นักเตะบางคนมองไปรอบตัวมากกว่าคนอื่นๆ ในตำแหน่งเดียวกัน ซึ่งมันเป็นเครื่องบ่งชี้คุณภาพในผู้เล่นที่ดีที่สุด”

“เป็นเรื่องที่น่าสนใจจริงๆ ที่ได้ทราบรายละเอียดนั้น ไม่ใช่แค่ว่าพวกเขาจะมองไปรอบๆกี่ครั้ง แต่ดวงตาของพวกเขาจะมองไปทางไหนก่อนที่จะได้ลูกบอล ผมคิดว่า ความกระหายในข้อมูลของฟุตบอลเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น”

, , ,

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *