สิ่งที่ ราฟา ต้องทำกับ “ทอฟฟี่”

เอฟเวอร์ตัน สโมสรดังแห่ง วงการฟุตบอลต่างประเทศ ไม่สนใจต่อเสียงต่อต้านจากแฟนบอลหลังจากที่ตัดสินใจประกาศแต่งตั้ง ราฟาเอล เบนิเตซ โค้ชชาวสเปน เข้ามาคุมทีมเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาต่อจาก คาร์โล อันเชล็อตติ ที่หวนกลับไปร่วมงานกับ เรอัล มาดริด

ในระหว่างปี 2004-2010 เบนิเตซ เคยนำทัพ ลิเวอร์พูล คู่อริร่วมเมืองของ เอฟเวอร์ตัน มาแล้ว และยังพาพลพรรค “หงส์แดง” คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยส์ ลีก และฟุตบอล เอฟเอ คัพ ได้อย่างละ 1 สมัย ซึ่งการที่เขามาทำงานกับ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” ครั้งนี้ก็ต้องเจอกับความกดดันอย่างมหาศาล

ขณะเดียวกัน มันเป็นการเดิมพันครั้งใหญ่ของ ฟาร์ฮัด โมชิรี เจ้าของทีมเอฟเวอร์ตันเช่นเดียวกันที่เลือก เบนิเตซ มาคุมทีม และนี่คือสิ่งสำคัญที่ เทรนเนอร์เลือดกระทิงดุวัย 61 ปี ต้องรีบทำในถิ่น กูดิสัน ปาร์ค โดยเร็วที่สุด

1. เอาชนะใจแฟนบอล

เบนิเตซ เพิ่งแยกทางกับ ต้าเหลียน อี้ฟาง ทีมดังในศึกไชนีส ซูเปอร์ลีก เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา และว่างงานมาแล้ว 6 เดือนก่อนจะมาร่วมงานกับ เอฟเวอร์ตัน ซึ่งมันเป็นการที่ตัดสินใจครั้งสำคัญของอดีตนายใหญ่ “หงส์แดง”

ก่อนหน้านี้ เอฟเวอร์ตัน ตกเป็นข่าวกับกุนซือหลายรายอาทิ เดวิด มอยส์, นูโน่ เอสพิริโต ซานโต้ และ คริสตอฟ กัลติเย่ร์ แต่สุดท้ายก็ เบนิเตซ ก็กลายเป็นเทรนเนอร์คนใหม่ของพวกเขา และ “ราฟา” นับเป็นผู้จัดการทีมคนที่ 2 ต่อจาก วิลเลียม เอ็ดเวิร์ด บาร์คลีย์ ที่ได้คุม 2 สโมสรแห่งเมอร์ซีย์ไซด์

เบนิเตซ รู้ดีว่า การตัดสินใจรับงานที่ เอฟเวอร์ตัน นั้น มันเต็มไปด้วยแรงกดดัน และเขาต้องเริ่มงานหลายๆอย่างทั้งการปรับแท็คติค และเรียนรู้ลูกทีมใหม่ รวมถึงสิ่งสำคัญคือ การเอาชนะใจสาวก “เอฟเวอร์โตเนียน” ให้ได้โดยเร็วที่สุด

2. ราฟาเอล เบนิเตซ โค้ชชาวสเปน ต้องสร้างสไตล์ที่ชัดเจนให้ เอฟเวอร์ตัน

การจากไปของ อันเชล็อตติ ทำให้แฟนบอล เอฟเวอร์ตัน หลายคนรู้สึกเซ็งไปตามๆกัน รวมถึงตัว โมชิริ ด้วยที่คาดหวังว่า โค้ชชาวอิตาเลียนจะเป็นคนปูรากฐานความสำเร็จในการสร้าง “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” โฉมใหม่ให้กลายเป็นสโมสรระดับชั้นนำของยุโรป

ตลอด 2 ปีที่ อันเชล็อตติ ทำงานในถิ่น กูดิสัน ปาร์ค นั้น เขาก็ค่อยๆสร้างรูปแบบการเล่นให้กับ เอฟเวอร์ตัน เป็นทีมที่เล่นฟุตบอลได้น่าตื่นเต้น แต่ทุกอย่างมันต้องหยุดชะงักลงหลังจากที่เขาหวนกลับไปร่วมงานกับ มาดริด

เบนิเตซ ต้องเข้ามาสานงานต่อในสิ่งที่ อันเชล็อตติ ทำเอาวไว้ ทั้งที่เขาขึ้นชื่อเรื่องการเล่นเกมรับเป็นหลักก็ตาม โดยอดีตโค้ช ลิเวอร์พูล ต้องสร้างเอกลักษณ์ของทีมขึ้นมาใหม่ ซึ่งมันเป็นงานที่ต้องใช้เวลาพอสมควร

3. เปลี่ยนสนาม กูดิสัน ปาร์ค เป็นป้อมปราการ

เอฟเวอร์ตัน สร้างผลงานที่ไม่อาจให้อภัยได้ในบ้านเมื่อฤดูกาลที่แล้วหลังจากจบฤดูกาลด้วยอันดับ 10 ในตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก และยังเคยแพ้ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ทีมตกชั้นคาถิ่นกูดิสัน ปาร์ค 0-1 ซึ่งทำให้แฟนบอลหลายคนหัวเสียไปตามๆกัน

อันเชล็อตติ ไม่สามารถแก้ปัญหาฟอร์มสุดฝืดในบ้านของ เอฟเวอร์ตัน ได้เลย แม้การเป็นทีมเยือนพวกเขาจะเก็บชัยชนะได้ 11 เกมก็ตาม และ เบนติเตซ ต้องแก้ไขปัญหาดังกล่าวแบบทันทีหลังจากในฤดูกาลใหม่นี้จะมีแฟนบอลเข้ามาชมในสนามได้แล้ว

4. ปรับปรุงขุมกำลังเชิงลึก

อันเชล็อตติ ได้มีโอกาสพูดคับกับบอร์ดสโมสร เอฟเวอร์ตัน เรื่องการเสริมทัพในซัมเมอร์นี้ไปบ้างแล้ว และเป้าหมายที่ระบุไว้ยังคงอยู่ อย่างไรก็ตาม เทรนเนอร์ชาวอิตาเลียนทิ้งการบ้านกองโตไว้ก่อนที่เขาจะไปร่วมงานกับ มาดริด

ผู้เล่นอย่าง อัลลัน, อับดูลาย ดูกูเร่ และ เบน ก็อดฟรีย์ ถูกคว้าตัวมาเมื่อซัมเมอร์ที่แล้ว ขณะที่นักเตะเก่าที่อนาคตไม่ชัดเจนอย่าง ฮาเมส โรดริเกซ, ฟาเบียน เดล์ฟ, เบอร์นาร์ด, อังเดร โกเมซ และ อเล็กซ์ อิโวบี้ ก็ยังคงอยู่กับทีม

ขณะเดียวกัน เบนิเตซ ก็เพิ่งดึงตัว แอนดรอส ทาวน์เซนด์ ปีกจอมเก๋าชาวอังกฤษมาจาก คริสตัล พาเลซ แบบไร้ค่าตัว ซึ่งทำให้ เอฟเวอร์ตัน มีผู้เล่นในทีมชุดใหญ่เยอะมาก และยังไม่รวมกับนักเตะที่ปล่อยยืมตัวอย่าง มอยเซ่ คีน และ เซงค์ โทซุน อีก

เบนิเตซ ต้องปรับทีมของเขาให้มีความสมดุลระหว่างตัวจริง และตัวสำรอง รวมถึงตัดสินใจว่า ใครจะอยู่หรือไม่อยู่ในแผนการทำทีมฤดูกาลใหม่นี้

5. ทีมงานสตาฟฟ์โค้ช ราฟาเอล เบนิเตซ โค้ชชาวสเปน

หลังจาก อันเชล็อตติ อำลาสโมสรเขาก็พาทีมงานติดตามไปด้วยถึง 6 คนไล่ตั้งแต่ ดาวิเด้ อันเชล็อตติ ลูกชาย, ฟานเชสโก้ เมารี, ซิโมโอเน่ มอนตานาโร่, มานูเอล โมราบิโต้ และมิโน ฟูลโก้ ซึ่งทั้งหมดนี้จะย้ายไปทำงานที่ มาดริด

เบนิเตซ ต้องนำทีมงานของเขาเข้ามาเกือบยุกชุด โดยช่วงแรกจะมี ฟรานเชโก เดอ มิเกล โมเรโน่ เป็นเจ้าหน้าที่ด้านเทคนิค และ ดันแคน เฟอร์กูสัน อดีตกองหน้าชาวสก็อตแลนด์ของ เอฟเวอร์ตัน รับบทบาทผู้ช่วยกุนซือ

นอกจากนี้ เบนิเตซ ยังมอบหมายให้ อันโตนิโอ โกเมซ อดีตกองกลางดาวรุ่งของ มาดริด เข้ามาร่วมเป็นโค้ชทีมชุดใหญ่ และเป็นนักวิเคราะห์เกม รวมถึง อลัน เคลลี่ จะเป็นโค้ชผู้รักษาประตูก่อนจะมีการเปลี่ยนแปลงทีมงานต่อไปอีกในอนาคต